นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย — ออสเตรเลีย ที่ได้มีการลดภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันสำหรับสินค้า จำนวน 5,505 รายการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นมา กรมการค้าต่างประเทศได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าให้กับ ผู้ส่งออก ตั้งแต่ ม.ค. — มี.ค. 48 จำนวน 3,099 ฉบับ มูลค่า 268.34 ล้านเหรียญสหรัฐ (10,315.41 ล้านบาท) สินค้าที่ขอหนังสือรับรองฯ ที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ ยานยนต์สำหรับขนส่งของ คิดเป็นร้อยละ 40 รองลงมาคือ รถยนต์และยานยนต์อื่นที่ออกแบบสำหรับขนส่งบุคคลเป็นหลัก ร้อยละ 16 ปลาทูน่าที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย ร้อยละ 8 เครื่องปรับอากาศที่ประกอบด้วยพัดลมซึ่งขับด้วยมอเตอร์ ร้อยละ 6 กระดาษและกระดาษแข็งที่ไม่เคลือบ ร้อยละ 3 สิ่งปรุงแต่งสำหรับใช้กับผม ร้อยละ 2
สำหรับการส่งออก — นำเข้าตามสถิติของกรมศุลกากร ตั้งแต่ ม.ค. — ก.พ. 48 ไทยส่งออกสินค้าในรายการตามข้อตกลงไปออสเตรเลีย มูลค่า 15,537.13 ล้านบาท สินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ รถบรรทุกชนิดแวนและปิกอัพ ร้อยละ28 รองลงมาคือ รถบรรทุกคนไข้ที่ใช้สำหรับส่วนราชการ ร้อยละ 8 เครื่องปรับอากาศแบบติดหน้าต่างและติดผนัง ร้อยละ 5 ปลาทูน่า ปลาสคิปแจ็กและปลาโบนิโตบรรจุภาชนะอัดลม ร้อยละ 3 ทองคำในลักษณะกึ่งสำเร็จรูป และเครื่องประมวลผลอัตโนมัติหน่วยรับเข้าหรือหน่วยส่งออก ร้อยละ 2
ไทยนำเข้าสินค้าในรายการตามข้อตกลงจากออสเตรเลีย ตั้งแต่ ม.ค. - ก.พ.48 มูลค่า 22,129.02 ล้านบาท สินค้านำเข้าที่มีมูลค่ามากที่สุดคือ ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป ร้อยละ 51 รองลงมา ได้แก่ อะลูมิเนียมไม่เจือ ร้อยละ 6 เมสลินและแคโทดและส่วนของแคโทด ร้อยละ 5 และอะลูมิเนียมเจือ ร้อยละ 3
โดยตั้งแต่ ม.ค. — ก.พ.48 ไทยขาดดุลการค้ากับออสเตรเลีย จำนวน 6,591.89 ล้านบาท เป็นเพราะมีการนำเข้าทองคำจากออสเตรเลียซึ่งเป็นแหล่งนำเข้าหลักของไทย มูลค่า 11,255.63 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 51 ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด เนื่องจากราคาทองคำลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค.47 จึงมีการซื้อทองคำเข้าเก็บเพื่อเก็งกำไรเป็นส่วนใหญ่และซื้อเพื่อใช้ผลิตทองคำสำเร็จรูปรวมทั้งใช้เป็นส่วนประกอบของ อัญมณีและเครื่องประดับส่งผลให้การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในช่วงเดือน ม.ค.- ก.พ. 48 เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 57 นอกจากนี้ยังมีการซื้อทองคำเพื่อเป็นของขวัญในเทศกาลตรุษจีน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทองคำที่ยังไม่ได้ขึ้นรูปไม่มีภาษีนำเข้า(ภาษีเป็นศูนย์อยู่แล้ว) ดังนั้นหากรวมเฉพาะมูลค่าของการนำเข้าสินค้าอื่น(ยกเว้นทองคำ)ในรายการตามข้อตกลง ไทยจะเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าในเดือน ม.ค.48 จำนวน 2,002.19 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือน ธ.ค. 47 ซึ่งขาดดุล จำนวน 163.48 ล้านบาท จะได้ดุลการค้าเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1,325 รวมทั้งได้ดุลการค้าในเดือน ก.พ.48 จำนวน 2,381.19 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากเดือน ม.ค.48 จำนวน 379 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 19
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-
สำหรับการส่งออก — นำเข้าตามสถิติของกรมศุลกากร ตั้งแต่ ม.ค. — ก.พ. 48 ไทยส่งออกสินค้าในรายการตามข้อตกลงไปออสเตรเลีย มูลค่า 15,537.13 ล้านบาท สินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ รถบรรทุกชนิดแวนและปิกอัพ ร้อยละ28 รองลงมาคือ รถบรรทุกคนไข้ที่ใช้สำหรับส่วนราชการ ร้อยละ 8 เครื่องปรับอากาศแบบติดหน้าต่างและติดผนัง ร้อยละ 5 ปลาทูน่า ปลาสคิปแจ็กและปลาโบนิโตบรรจุภาชนะอัดลม ร้อยละ 3 ทองคำในลักษณะกึ่งสำเร็จรูป และเครื่องประมวลผลอัตโนมัติหน่วยรับเข้าหรือหน่วยส่งออก ร้อยละ 2
ไทยนำเข้าสินค้าในรายการตามข้อตกลงจากออสเตรเลีย ตั้งแต่ ม.ค. - ก.พ.48 มูลค่า 22,129.02 ล้านบาท สินค้านำเข้าที่มีมูลค่ามากที่สุดคือ ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป ร้อยละ 51 รองลงมา ได้แก่ อะลูมิเนียมไม่เจือ ร้อยละ 6 เมสลินและแคโทดและส่วนของแคโทด ร้อยละ 5 และอะลูมิเนียมเจือ ร้อยละ 3
โดยตั้งแต่ ม.ค. — ก.พ.48 ไทยขาดดุลการค้ากับออสเตรเลีย จำนวน 6,591.89 ล้านบาท เป็นเพราะมีการนำเข้าทองคำจากออสเตรเลียซึ่งเป็นแหล่งนำเข้าหลักของไทย มูลค่า 11,255.63 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 51 ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด เนื่องจากราคาทองคำลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค.47 จึงมีการซื้อทองคำเข้าเก็บเพื่อเก็งกำไรเป็นส่วนใหญ่และซื้อเพื่อใช้ผลิตทองคำสำเร็จรูปรวมทั้งใช้เป็นส่วนประกอบของ อัญมณีและเครื่องประดับส่งผลให้การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยในช่วงเดือน ม.ค.- ก.พ. 48 เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 57 นอกจากนี้ยังมีการซื้อทองคำเพื่อเป็นของขวัญในเทศกาลตรุษจีน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทองคำที่ยังไม่ได้ขึ้นรูปไม่มีภาษีนำเข้า(ภาษีเป็นศูนย์อยู่แล้ว) ดังนั้นหากรวมเฉพาะมูลค่าของการนำเข้าสินค้าอื่น(ยกเว้นทองคำ)ในรายการตามข้อตกลง ไทยจะเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าในเดือน ม.ค.48 จำนวน 2,002.19 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือน ธ.ค. 47 ซึ่งขาดดุล จำนวน 163.48 ล้านบาท จะได้ดุลการค้าเพิ่มขึ้น ร้อยละ 1,325 รวมทั้งได้ดุลการค้าในเดือน ก.พ.48 จำนวน 2,381.19 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากเดือน ม.ค.48 จำนวน 379 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 19
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-