‘อภิสิทธิ์’ ระบุ การปรับคณะรัฐมนตรีทักษิณ 2/2 ว่า เป็นเพียงการสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งเพื่อกลบกระแสมากกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลง รมต.ใหม่คือบุคคลใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรี ชี้ ปรับครม.ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการรวมศูนย์อำนาจ และมีปัญหาเรื่องกลุ่มอิทธิพลทางการเมืองอยู่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวสัมภาษณ์ภายหลังรับดอกไม้อวยพรวันเกิด ถึงกรณีการปรับครม.ว่า การปรับครม.ครั้งนี้หรือหลายครั้งที่ผ่านมามีสิ่งคล้ายกันคือเป็นเพียงการหมุนเวียน สลับตำแหน่งในพรรคและของบุคคลใกล้ชิดนายกฯ แต่สิ่งที่ครม.ชุดใหม่ต้องดำเนินการคือการสานต่องานเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้หมดไป โดยเฉพาะความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ ที่ต้องมีความชัดเจนเกี่ยวกับแนวนโยบาย ปัญหาเศรษฐกิจ และการปราบปรามการทุจริตในโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ ต้องเร่งดำเนินการคือต้องเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่น ด้านต่างๆ และ สิ่งที่คนส่วนใหญ่พอมีความหวังหลังจากมีการปรับครม.ชุดนี้ คือด้านการศึกษา เพราะนายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นที่ยอมว่าเป็นผู้มีประสบการณีด้านนี้ แต่ว่าปัญหาในเรื่องความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งในเรื่องความมั่นคง ความปลอดภัย ตนอยากให้รัฐบาลเร่งสร้างความชัดเจนเพราะมีการเปลี่ยนทีมใหม่ และนโยบายยังอยู่ในช่วงประสานโดยอาศัยความละเอียดอ่อน กับคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์ เพราะลำพังการเปลี่ยนตัวบุคคลอย่างเดียวคงแก้ปัญหาอะไรได้ไม่มาก
ส่วนด้านเศรษฐกิจที่มีการสลับระหว่างการคลัง กับการพาณิชย์ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ คงต้องฝากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ว่า จะต้องเป็นกุญแจสำคัญเพราะต้องดำเนินดารทั้งด้านการส่งออก และการดูแลปัญหาราคาสินค้าภายในประเทศ
‘ผมอยากให้รัฐมนตรีสมคิดให้ความสนใจและเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานตรงนั้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจมากกว่าขึ้น เพราะเป็นปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชน’นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับกระทรวงคมนาคม ตนคิดว่าในที่สุดก็คงมีการเปลี่ยนแปลง แม้ว่ามีความพยายามสร้างกระแสในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่นายกฯก็ตัดสินใจเปลี่ยนแปลง แต่อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่ต้องเร่งสร้างความโปร่งใส ความชัดเจน และเร่งดำเนินการสนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งปัญหาการทุจริตก็ต้องเร่งดำเนินการไปด้วย โดยเฉพาะการเปิดสัญญาฉบับใหม่หรือสัญญาขายตรงเครื่องตรวจระเบิดซีทีเอ็กซ์ต่อสาธารณชนโดยเร็ว และที่สำคัญไม่ควรปล่อยปะละเลย เรื่องที่ฝ่ายค้านอภิปรายฯในสภา เพราะขณะนี้ อัยการ ตำรวจ ก็ได้เข้ามาดูในรายละเอียด ซึ่งกระทรวงคมนาคมต้องให้ความร่วมมือในการเอาคนผิดมาลงโทษ
‘การปรับครม.ครั้งนี้ ดูเหมือนเป็นการปรับใหญ่ แต่ดูลึกๆแล้วเป็นเพียงการสลับสับเปลี่ยน หมุนเวียนมากกว่า และสิ่งที่ต้องยอมรับอีกอย่างหนึ่งในการปรับครม.ครั้งนี้คืออิทธิพลทางการเมืองของกลุ่มต่างๆ นายกฯยังไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ ดังนั้นจึงเห็นการปรับครม.ครั้งนี้เป็นการโยกย้ายมากกว่าการเปลี่ยนแปลงทิศทางที่ชัดเจน ดังนั้นสิ่งที่สำคัญกว่าคือความชัดเจนด้านนโยบาย การแบ่งความรับผิดชอบส่วนปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แม้มีการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคล แต่ก็ไม่สามารถทำให้เกิดความเชื่อมั่นได้ว่าปัญหาจะถูกแก้ไขได้ จึงอยากให้รัฐบาลเร่งประกาศจุดยืนและแบ่งความรับผิดชอบให้ชัดเจน และที่สำคัญตัวบุคคลที่เข้ามารับหน้าที่ใหม่ต้องแสดงออกถึงความชัดเจนถึงความเข้าใจและความจริงจังในการที่จะแก้ปัญหาหลักๆ เช่นปัญหาความมั่นคง 3 จังหวัด ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องทุจริตคอรัปชั่น’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 ส.ค. 2548--จบ--
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวสัมภาษณ์ภายหลังรับดอกไม้อวยพรวันเกิด ถึงกรณีการปรับครม.ว่า การปรับครม.ครั้งนี้หรือหลายครั้งที่ผ่านมามีสิ่งคล้ายกันคือเป็นเพียงการหมุนเวียน สลับตำแหน่งในพรรคและของบุคคลใกล้ชิดนายกฯ แต่สิ่งที่ครม.ชุดใหม่ต้องดำเนินการคือการสานต่องานเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้หมดไป โดยเฉพาะความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ ที่ต้องมีความชัดเจนเกี่ยวกับแนวนโยบาย ปัญหาเศรษฐกิจ และการปราบปรามการทุจริตในโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ ต้องเร่งดำเนินการคือต้องเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่น ด้านต่างๆ และ สิ่งที่คนส่วนใหญ่พอมีความหวังหลังจากมีการปรับครม.ชุดนี้ คือด้านการศึกษา เพราะนายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นที่ยอมว่าเป็นผู้มีประสบการณีด้านนี้ แต่ว่าปัญหาในเรื่องความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งในเรื่องความมั่นคง ความปลอดภัย ตนอยากให้รัฐบาลเร่งสร้างความชัดเจนเพราะมีการเปลี่ยนทีมใหม่ และนโยบายยังอยู่ในช่วงประสานโดยอาศัยความละเอียดอ่อน กับคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์ เพราะลำพังการเปลี่ยนตัวบุคคลอย่างเดียวคงแก้ปัญหาอะไรได้ไม่มาก
ส่วนด้านเศรษฐกิจที่มีการสลับระหว่างการคลัง กับการพาณิชย์ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ คงต้องฝากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ว่า จะต้องเป็นกุญแจสำคัญเพราะต้องดำเนินดารทั้งด้านการส่งออก และการดูแลปัญหาราคาสินค้าภายในประเทศ
‘ผมอยากให้รัฐมนตรีสมคิดให้ความสนใจและเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานตรงนั้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจมากกว่าขึ้น เพราะเป็นปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชน’นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับกระทรวงคมนาคม ตนคิดว่าในที่สุดก็คงมีการเปลี่ยนแปลง แม้ว่ามีความพยายามสร้างกระแสในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่นายกฯก็ตัดสินใจเปลี่ยนแปลง แต่อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่ต้องเร่งสร้างความโปร่งใส ความชัดเจน และเร่งดำเนินการสนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งปัญหาการทุจริตก็ต้องเร่งดำเนินการไปด้วย โดยเฉพาะการเปิดสัญญาฉบับใหม่หรือสัญญาขายตรงเครื่องตรวจระเบิดซีทีเอ็กซ์ต่อสาธารณชนโดยเร็ว และที่สำคัญไม่ควรปล่อยปะละเลย เรื่องที่ฝ่ายค้านอภิปรายฯในสภา เพราะขณะนี้ อัยการ ตำรวจ ก็ได้เข้ามาดูในรายละเอียด ซึ่งกระทรวงคมนาคมต้องให้ความร่วมมือในการเอาคนผิดมาลงโทษ
‘การปรับครม.ครั้งนี้ ดูเหมือนเป็นการปรับใหญ่ แต่ดูลึกๆแล้วเป็นเพียงการสลับสับเปลี่ยน หมุนเวียนมากกว่า และสิ่งที่ต้องยอมรับอีกอย่างหนึ่งในการปรับครม.ครั้งนี้คืออิทธิพลทางการเมืองของกลุ่มต่างๆ นายกฯยังไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ ดังนั้นจึงเห็นการปรับครม.ครั้งนี้เป็นการโยกย้ายมากกว่าการเปลี่ยนแปลงทิศทางที่ชัดเจน ดังนั้นสิ่งที่สำคัญกว่าคือความชัดเจนด้านนโยบาย การแบ่งความรับผิดชอบส่วนปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แม้มีการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคล แต่ก็ไม่สามารถทำให้เกิดความเชื่อมั่นได้ว่าปัญหาจะถูกแก้ไขได้ จึงอยากให้รัฐบาลเร่งประกาศจุดยืนและแบ่งความรับผิดชอบให้ชัดเจน และที่สำคัญตัวบุคคลที่เข้ามารับหน้าที่ใหม่ต้องแสดงออกถึงความชัดเจนถึงความเข้าใจและความจริงจังในการที่จะแก้ปัญหาหลักๆ เช่นปัญหาความมั่นคง 3 จังหวัด ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องทุจริตคอรัปชั่น’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 ส.ค. 2548--จบ--