นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่าจากการที่กรมการค้าต่างประเทศ ได้พยายามกระตุ้นตลาดการใช้ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ตลอดจนดำเนินนโยบายและแผนงานส่งเสริมพัฒนา / ประชาสัมพันธ์ ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การส่งเสริมพัฒนาการผลิตมันเส้นคุณภาพดี เพื่อรองรับความต้องการใช้ของอุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ และอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ทั้งในประเทศ / ต่างประเทศ และการทำข้อตกลงทางการค้า FTA กับประเทศต่าง ๆ ตลอดจนการส่งเสริมประชาสัมพันธ์แนะนำการใช้ โดยการเข้าร่วมจัดบูธแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทยในงานต่าง ๆ ได้มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้มีการใช้มันสำปะหลังเพื่อเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมในประเทศ เพิ่มขึ้นมาก โดยสัดส่วนการใช้หัวมันสดในประเทศเพิ่มขึ้นจากปกติ ปีละประมาณ 4.5 ล้านตัน เป็นปีละ 5.8 — 6.6 ล้านตัน ในปัจจุบัน รวมทั้งภาคเอกชนยังคาดการณ์ว่าแนวโน้มปริมาณความต้องการใช้ยังจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในระยะต่อไปข้างหน้า
ในด้านตลาดต่างประเทศ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่าในปี 2548 นี้ ราคา ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังพุ่งสูงขึ้นมาก โดยราคาส่งออกมันเส้น / มันอัดเม็ด (เฉลี่ยเดือนมกราคม -เมษายน 2548) ตันละ 3,832 บาท สูงกว่าราคาช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมีราคาตันละ 2,807 บาท ถึงร้อยละ 26.5 และราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลัง (เฉลี่ยเดือนมกราคม-เมษายน 2548) ตันละ 11,769 บาท สูงกว่าราคาช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมีราคาตันละ 9,715 บาท ถึงร้อยละ 21.1 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบให้ราคาส่งออกปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ความผันผวนของราคาน้ำมัน การขาดแคลนเรือบรรทุกสินค้า และอัตราค่าระวางบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศ ประกอบกับผลจากการคาดการณ์โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรว่า ผลผลิตหัวมันสดของไทยในปี 2547/48 จะลดลงจากปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 20.71 เหลือเพียง 16.97 ล้านตัน ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ของตลาดทั้งตลาดภายประเทศและต่างประเทศ สำหรับการส่งออกในภาพรวม ในปี 2548 (ตั้งแต่เดือนมกราคม - เมษายน) ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังแล้ว เป็นมูลค่ารวม 10,216.54 ล้านบาท ( ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2547 ร้อยละ 16.25 ) แยกเป็นมันเส้น / มันอัดเม็ด จำนวน 1.03 ล้านตัน มูลค่า 3,944.58 ล้านบาท แป้งมันสำปะหลังดิบ / แปรรูป จำนวน 0.51 ล้านตัน มูลค่า 5,967.78 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอื่นๆ เช่น สาคู จำนวน 0.11 ล้านตัน มูลค่า 304.18 ล้านบาท
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของตลาดสาธารณรัฐ- ประชาชนจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย ในปี 2548 ( มกราคม - เมษายน ) มีการนำเข้ามันเส้นคุณภาพสูงจากประเทศไทย ไปเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตแอลกอฮอล์ และกรดมะนาว เป็นจำนวนมากถึง 881,220 ตัน มูลค่า 3,467.79 ล้านตัน และยังมีความต้องซื้อ / นำเข้าต่อเนื่องอีกเป็นจำนวนมาก จึงทำให้คาดหมายได้ว่าถ้าผู้ผลิต / ผู้ส่งออกของไทย ยังคงช่วยกันรักษามาตรฐานคุณภาพสินค้าให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปแล้ว ตลาดมันสำปะหลังยังมีอนาคตที่สดใส แน่นอน
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-
ในด้านตลาดต่างประเทศ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่าในปี 2548 นี้ ราคา ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังพุ่งสูงขึ้นมาก โดยราคาส่งออกมันเส้น / มันอัดเม็ด (เฉลี่ยเดือนมกราคม -เมษายน 2548) ตันละ 3,832 บาท สูงกว่าราคาช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมีราคาตันละ 2,807 บาท ถึงร้อยละ 26.5 และราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลัง (เฉลี่ยเดือนมกราคม-เมษายน 2548) ตันละ 11,769 บาท สูงกว่าราคาช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมีราคาตันละ 9,715 บาท ถึงร้อยละ 21.1 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบให้ราคาส่งออกปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ความผันผวนของราคาน้ำมัน การขาดแคลนเรือบรรทุกสินค้า และอัตราค่าระวางบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศ ประกอบกับผลจากการคาดการณ์โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรว่า ผลผลิตหัวมันสดของไทยในปี 2547/48 จะลดลงจากปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 20.71 เหลือเพียง 16.97 ล้านตัน ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ของตลาดทั้งตลาดภายประเทศและต่างประเทศ สำหรับการส่งออกในภาพรวม ในปี 2548 (ตั้งแต่เดือนมกราคม - เมษายน) ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังแล้ว เป็นมูลค่ารวม 10,216.54 ล้านบาท ( ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2547 ร้อยละ 16.25 ) แยกเป็นมันเส้น / มันอัดเม็ด จำนวน 1.03 ล้านตัน มูลค่า 3,944.58 ล้านบาท แป้งมันสำปะหลังดิบ / แปรรูป จำนวน 0.51 ล้านตัน มูลค่า 5,967.78 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอื่นๆ เช่น สาคู จำนวน 0.11 ล้านตัน มูลค่า 304.18 ล้านบาท
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของตลาดสาธารณรัฐ- ประชาชนจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย ในปี 2548 ( มกราคม - เมษายน ) มีการนำเข้ามันเส้นคุณภาพสูงจากประเทศไทย ไปเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตแอลกอฮอล์ และกรดมะนาว เป็นจำนวนมากถึง 881,220 ตัน มูลค่า 3,467.79 ล้านตัน และยังมีความต้องซื้อ / นำเข้าต่อเนื่องอีกเป็นจำนวนมาก จึงทำให้คาดหมายได้ว่าถ้าผู้ผลิต / ผู้ส่งออกของไทย ยังคงช่วยกันรักษามาตรฐานคุณภาพสินค้าให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปแล้ว ตลาดมันสำปะหลังยังมีอนาคตที่สดใส แน่นอน
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-