เปิดฉากเอฟทีเอไทย-สหรัฐฯ นอกรอบ สหรัฐฯ พร้อมเสริมสร้างศักยภาพให้ไทยรับเปิดเสรี

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 18, 2005 16:08 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

          เปิดฉากการเจรจาเอฟทีเอไทย-สหรัฐฯ  นอกรอบที่ลอนดอน 2 วันแรก  ผู้แทนสหรัฐฯ รับข้อเสนอช่วยเสริมสร้างศักยภาพเอกชนไทยให้แข่งขันได้หลังเปิดเสรี  ส่วนการเปิดเสรีโทรคมนาคม สหรัฐฯ ยอมรับหลักเกณฑ์ในการกำกับดูแลของกทช.  ด้านการเปิดเสรีสินค้าเกษตร  ทั้งสองฝ่ายเตรียมยื่นรายการสินค้าที่เสนอลดภาษี  (Revised offers)  ในปลายเดือนธันวาคม  ก่อนการเจรจารอบ 6 ในประเทศไทย 
นายนิตย์ พิบูลสงคราม หัวหน้าคณะเจรจาจัดข้อตกลงเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ) ไทย-สหรัฐฯ เปิดเผยภายหลังจากการเจรจานอกรอบ 2 วันแรก (14-15 พ.ย. 48) จากทั้งหมด 5 วัน ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่าภาพรวมของการเจรจามีความคืบหน้ามากโดยเฉพาะเรื่องการเสริมสร้างความสามารถทางการค้า (TCB:Trade Capacity Building) ของเอกชนไทย เพื่อรองรับการเปิดเสรีธุรกิจต่าง ๆ ภายใต้กรอบของเอฟทีเอไทย-สหรัฐฯ ซึ่งมีการหารือถึงความร่วมมือกันมากกว่าห้าสิบโครงการ
โดยโครงการหลักๆ ที่ผู้แทนสหรัฐฯ ตกลงที่จะดำเนินการประกอบด้วย การจัดดูงานเพื่อให้เข้าใจระเบียบพิธีการศุลกากรของสหรัฐฯ และกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า ซึ่งสหรัฐฯจะจัดให้ผู้แทนจากภาครัฐและเอกชนของไทยไปศึกษาดูงานในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ และโครงการเยี่ยมชมศูนย์เทคโนโลยีด้านการผลิตสิ่งทอของสหรัฐฯ ที่ North Carolina (Thai Trade visit Nort Carolina textile)
นอกจากนี้ สหรัฐฯ จะจัดให้มีการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่องสิ่งทอ โดยจะส่งผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งทอมาให้ความรู้แก่ตัวแทนภาครัฐและเอกชนของไทย รวมทั้งจะจัดให้มีการฝึกอบรมการเขียนแผนธุรกิจ นอกจากนั้น สหรัฐฯ จะส่งผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรม และผู้เชี่ยวชาญด้าน Foof safety มาให้ความรู้แก่หน่วยงานภาครัฐของไทย เพื่อไปถ่ายทอดให้กับภาคเอกชนไทย ซึ่งถือเป็นการ Training the trainer เพราะเป็นการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบของสหรัฐฯ ในด้านการรับรองมาตรฐานสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าอาหาร ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมของภาคเอกชนไทยที่จะบุกตลาดสหรัฐฯ และแก้ไขปัญหาอุปสรรคเทคนิคทางการค้า เมื่อความตกลงเอฟทีเอมีผลบังคับใช้
ทีมเจรจาของสหรัฐฯ ได้เสนอโครงการความร่วมมือในการเข้าถึงฐานข้อมูลของสินค้าและตลาดการค้าทั่วโลก (Product and market access) ให้กับหน่วยงานของไทยและภาคเอกชนของไทยซึ่ง International Trade Center ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้รวบรวมข้อมูลทางการค้าจากทั่วโลก รวมทั้งข้อมูลด้านอัตราภาษี และอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่
ภาษีไว้เพื่อให้ภาครัฐและเอกชนไทยได้ใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์โอกาสเข้าสู่ตลาดสหรัฐ
นอกจากนี้ จะมีการจัดกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจระหว่างเอกชนไทยกับสหรัฐฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรม Cluster และรายสาขา โดยสหรัฐฯ จะประสานงานกับอเมริกาและแปซิฟิกใต้กระทรวงการต่างประเทศของไทย เพื่อแจ้งให้ภาคเอกชนไทยได้มีโอกาสทำความรู้จักและพบปะเจรจากับคณะนักธุรกิจของสหรัฐ
สำหรับการเจรจาเรื่องเปิดเสรีโทรคมนาคม มีความคืบหน้าอย่างมาก โดยทั้งสหรัฐฯ และ ไทยต่างยอมรับในหลักการสำคัญ ฯ ของทั้งสองฝ่าย อาทิ หลักเกณฑ์ในการกำกับดูแล และกระบวนการออกใบอนุญาติ นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยถึงเรื่องการเปิดเสรีธุรกิจดาวเทียม ซึ่งผู้แทนสหรัฐฯ ได้ระบุชัดเจนว่า ผู้ให้บริการดาวเทียมสหรัฐฯ สนใจและพร้อมที่จะมาทำธุรกิจ
ให้บริการในประเทศไทย
สำหรับการเจรจาในประเด็นการบังคับใช้กฎหมายของธุรกิจโทรคมนาคมนั้น ฝ่ายไทยยังไม่รับข้อเสนอเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย เพราะถือเป็นเรื่องที่นอกเหนือออำนาจของกระทรวงกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ซึ่งทีมเจรจาก็จะเสนอเรื่องดังกล่าวให้กระทรวงไอซีทีพิจารณาเสนอรัฐบาลของนโยบายต่อไป
ส่วนความคืบหน้าการเจรจาเปิดเสรีสินค้าเกษตร ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลในเบื้องต้นของรายการสินค้าที่แต่ละฝ่ายต้องการจริงๆ (Priority Request) ซึ่งจะมีการยืนยันอย่างเป็นทางการภายในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายจะได้จัดทำข้อเสนอที่ได้มีการปรับปรุงภายในวันที่ 20 ธันวาคมศกนี้ ส่วนเรื่องการอุดหนุนการส่งออก ฝ่ายสหรัฐฯ ขอเวลา
ในการพิจารณาอีกครั้งหลังจากการประชุมองค์การการค้าโลกที่ประเทศฮ่องกง เพื่อความชัดเจนในการตัดสินใจ
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ