นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในขณะนี้ ชาเขียวเป็น สินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้บริโภคในญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศต้นตำรับของชาเขียว ญี่ปุ่นจึงเป็นตลาดส่งออกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ผลิตสินค้าประเภทชาเขียวพร้อมดื่มของไทย อย่างไรก็ดี การส่งออกนั้นจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของญี่ปุ่นอย่างเคร่งครัด โดยก่อนนำเข้าอาหาร เครื่องดื่ม และภาชนะบรรจุทุกประเภท ต้องยื่นแบบฟอร์มการนำเข้าอาหาร (Notification Form of Food Importation) ต่อหน่วยงานตรวจสอบ สุขอนามัยอาหาร กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น(Food Sanitation Inspection Section of the Quarantine Station, Ministry of Health, Labor and Welfare (MHLW)) ซึ่งชาเขียวพร้อมดื่มจัดอยู่ในประเภท Soft Drink ภายใต้กฎหมาย Food Sanitation Law
นายราเชนทร์กล่าวเพิ่มเติมว่า กฎหมายดังกล่าวได้กำหนดมาตรฐานของส่วนประกอบ การผลิต การติดฉลาก อุปกรณ์และภาชนะบรรจุของสินค้าประเภท Soft Drink เช่น ต้องไม่มีตะกอน ไม่มีสารหนู สารตะกั่ว หรือแคดเมียมเจือปน ต้องติดฉลากบนภาชนะบรรจุในบริเวณที่มองเห็นได้ ชัดเจน โดยระบุชื่อผลิตภัณฑ์ วันหมดอายุ ชื่อและที่อยู่ของผู้นำเข้า ระบุชื่อสารปรุงแต่งเป็นภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น สำหรับเอกสารที่ใช้ยื่นประกอบการนำเข้า ณ ท่าเรือหรือสนามบินที่นำเข้านั้น นอกจากแบบฟอร์มการนำเข้าอาหารแล้ว ยังต้องมีผลการทดสอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทย และเอกสารระบุส่วนประกอบ สารปรุงแต่ง และวิธีการผลิต ซึ่งผู้ส่งออกควรส่งตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์พร้อมเอกสารที่ระบุส่วนประกอบ สารปรุงแต่ง และวิธีการผลิตให้ผู้นำเข้าตรวจสอบยืนยันก่อน เพื่อลดปัญหาการถูกส่งกลับหรือถูกกักกันสินค้าที่ด่านตรวจ
ในปี 2548(ม.ค.-ก.ย.) ไทยส่งออกสินค้าประเภทเครื่องดื่มทั้งหมดเป็นมูลค่า 6,073.6 ล้านบาท ตลาดส่งออกที่สำคัญได้แก่ กลุ่มประเทศอาเซียน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น โดยการส่งออกไปญี่ปุ่นมีมูลค่า 652.5 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 10.8 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าประเภทนี้ และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมูลค่าการส่งออกไปญี่ปุ่นลดลง 220.2 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการชะลอตัวร้อยละ -25.2
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-
นายราเชนทร์กล่าวเพิ่มเติมว่า กฎหมายดังกล่าวได้กำหนดมาตรฐานของส่วนประกอบ การผลิต การติดฉลาก อุปกรณ์และภาชนะบรรจุของสินค้าประเภท Soft Drink เช่น ต้องไม่มีตะกอน ไม่มีสารหนู สารตะกั่ว หรือแคดเมียมเจือปน ต้องติดฉลากบนภาชนะบรรจุในบริเวณที่มองเห็นได้ ชัดเจน โดยระบุชื่อผลิตภัณฑ์ วันหมดอายุ ชื่อและที่อยู่ของผู้นำเข้า ระบุชื่อสารปรุงแต่งเป็นภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น สำหรับเอกสารที่ใช้ยื่นประกอบการนำเข้า ณ ท่าเรือหรือสนามบินที่นำเข้านั้น นอกจากแบบฟอร์มการนำเข้าอาหารแล้ว ยังต้องมีผลการทดสอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทย และเอกสารระบุส่วนประกอบ สารปรุงแต่ง และวิธีการผลิต ซึ่งผู้ส่งออกควรส่งตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์พร้อมเอกสารที่ระบุส่วนประกอบ สารปรุงแต่ง และวิธีการผลิตให้ผู้นำเข้าตรวจสอบยืนยันก่อน เพื่อลดปัญหาการถูกส่งกลับหรือถูกกักกันสินค้าที่ด่านตรวจ
ในปี 2548(ม.ค.-ก.ย.) ไทยส่งออกสินค้าประเภทเครื่องดื่มทั้งหมดเป็นมูลค่า 6,073.6 ล้านบาท ตลาดส่งออกที่สำคัญได้แก่ กลุ่มประเทศอาเซียน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น โดยการส่งออกไปญี่ปุ่นมีมูลค่า 652.5 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 10.8 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าประเภทนี้ และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมูลค่าการส่งออกไปญี่ปุ่นลดลง 220.2 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการชะลอตัวร้อยละ -25.2
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-