นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯได้พิจารณาสินค้าที่มีมูลค่าการนำเข้าสูงในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2548 (มกราคม — มิถุนายน 2548) จากสถิติการนำเข้าในทุกกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะในกลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิง สินค้าทุน สินค้าอุปโภคและบริโภค สินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จ รูป อุปกรณ์ยานพาหนะและขนส่ง อาวุธยุทธปัจจัยและอื่นๆ ที่มีมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นสูงมากจากปีก่อน โดยคาดว่าในปี 2548 จะนำเข้าสินค้ามูลค่ารวม 118,607 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ร้อยละ 24.90 โดยในครึ่งปีแรก (มกราคม — มิถุนายน) นำเข้าแล้ว 59,509 ล้านเหรียญสหรัฐ และในครึ่งปีหลัง (กรกฎาคม — ธันวาคม) คาดว่าจะนำเข้ามูลค่า 59,098 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งแยกเป็น
- การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงที่ในปี 2548 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2547 ร้อยละ 47.30 โดยในครึ่งปีแรกนำเข้ามาแล้ว 10,017 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าการนำเข้าในครึ่งหลังของปี 2548 จะลดลงเหลือ 9,603 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สำหรับสินค้านำเข้าในกลุ่มอื่นๆที่มีมูลค่านำเข้าสูง ได้แก่ สินค้าทุน และสินค้ากลุ่มวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป โดยเฉพาะสินค้าเครื่องจักร สินค้าเหล็กและเหล็กกล้า ทองคำ อัญมณี เป็นต้น ซึ่งสินค้าทุนมีอัตราขยายตัวจากปี 2547 ร้อยละ 19.24 มูลค่าการนำเข้าในครึ่งแรกของปี 2548 มีมูลค่า16,464 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าการนำเข้าในครึ่งปีหลังจะลดลงเหลือ 15,732 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนสินค้ากลุ่มวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ขยายตัวร้อยละ 22.11 การนำเข้าในครึ่งปีแรกมีมูลค่า 26,151 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าการนำเข้าในครึ่งปีหลังจะมีมูลค่า 26,507 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งการนำเข้าในครึ่งปีหลังของปี 2548 จะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก ส่วนสินค้าในกลุ่มยานพาหนะและขนส่ง สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าฟุ่มเฟือย การนำเข้าในช่วงครึ่งปีหลังจะยังค่อนข้างสูงอยู่ แต่มูลค่าการนำเข้าไม่มากเทียบกับการนำเข้าทั้งหมดและเมื่อพิจารณาจากมูลค่าการนำเข้าน้ำมันในครึ่งปีหลังที่ลดลงอย่างมากและแนวโน้มการนำเข้าสินค้าทุนที่ลดลงแล้ว สถานการณ์การนำเข้าในครึ่งปีหลังจะไม่ขาดดุลการค้ามากนัก
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยต่อไปว่า กรมฯจะจัดทำฐานข้อมูลการนำเข้าทั้งหมด โดยฐานข้อมูลจะเป็นการประมาณการนำเข้าวัตถุดิบ สินค้าคงคลัง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการติดตามสถานการณ์ และจะได้เชิญผู้ประกอบการในกลุ่มสินค้าต่างๆที่มีมูลค่าการนำเข้ามากมาหารือเพื่อให้การนำเข้าเป็นไปตามแผนและการผลิตที่แท้จริง ซึ่งได้เชิญผู้ประกอบการกลุ่มเหล็กมาหารือแล้ว คาดว่าการนำเข้าเหล็กในครึ่งปีหลังจะลดลงจากครึ่งปีแรกที่มีมูลค่าการนำเข้า 4,892 ล้านเหรียญสหรัฐ เหลือ 4,292 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับทองคำ ซึ่งมีการนำเข้ามากเพื่อเก็งกำไร คาดว่าได้มีการนำเข้ามามากเกินพอแล้ว โดยจะเห็นได้จากตัวเลขการนำเข้าในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2548 (มกราคม — พฤษภาคม) ที่มีการนำเข้า 1,050 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่การนำเข้าทองคำในปี 2547 ทั้งปี มีมูลค่า 1,146 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับการติดตามสถานการณ์การนำเข้า ในระยะ 2 เดือนต่อจากนี้ไปหากสถานการณ์ขาดดุลการค้ายังไม่ดีขึ้น หรือสินค้าบางกลุ่มมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นจากที่ได้ประมาณการไว้ กรมฯอาจพิจารณาเสนอมาตรการ เพื่อติดตามข้อมูลเป็นรายบริษัทฯ โดยจะอนุญาตให้นำเข้าทุกราย (Automatic Import Licensing) รวมทั้งแจ้งแผนการนำเข้าเพื่อกำกับดูแลให้การนำเข้าสินค้าหรือวัตถุดิบเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ และหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นอีก อาจพิจารณาเสนอรัฐบาลให้มีมาตรการกับสินค้าที่ต้องกำกับดูแลเป็นพิเศษ
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-
- การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงที่ในปี 2548 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2547 ร้อยละ 47.30 โดยในครึ่งปีแรกนำเข้ามาแล้ว 10,017 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าการนำเข้าในครึ่งหลังของปี 2548 จะลดลงเหลือ 9,603 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สำหรับสินค้านำเข้าในกลุ่มอื่นๆที่มีมูลค่านำเข้าสูง ได้แก่ สินค้าทุน และสินค้ากลุ่มวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป โดยเฉพาะสินค้าเครื่องจักร สินค้าเหล็กและเหล็กกล้า ทองคำ อัญมณี เป็นต้น ซึ่งสินค้าทุนมีอัตราขยายตัวจากปี 2547 ร้อยละ 19.24 มูลค่าการนำเข้าในครึ่งแรกของปี 2548 มีมูลค่า16,464 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าการนำเข้าในครึ่งปีหลังจะลดลงเหลือ 15,732 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนสินค้ากลุ่มวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป ขยายตัวร้อยละ 22.11 การนำเข้าในครึ่งปีแรกมีมูลค่า 26,151 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าการนำเข้าในครึ่งปีหลังจะมีมูลค่า 26,507 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งการนำเข้าในครึ่งปีหลังของปี 2548 จะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก ส่วนสินค้าในกลุ่มยานพาหนะและขนส่ง สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าฟุ่มเฟือย การนำเข้าในช่วงครึ่งปีหลังจะยังค่อนข้างสูงอยู่ แต่มูลค่าการนำเข้าไม่มากเทียบกับการนำเข้าทั้งหมดและเมื่อพิจารณาจากมูลค่าการนำเข้าน้ำมันในครึ่งปีหลังที่ลดลงอย่างมากและแนวโน้มการนำเข้าสินค้าทุนที่ลดลงแล้ว สถานการณ์การนำเข้าในครึ่งปีหลังจะไม่ขาดดุลการค้ามากนัก
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยต่อไปว่า กรมฯจะจัดทำฐานข้อมูลการนำเข้าทั้งหมด โดยฐานข้อมูลจะเป็นการประมาณการนำเข้าวัตถุดิบ สินค้าคงคลัง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการติดตามสถานการณ์ และจะได้เชิญผู้ประกอบการในกลุ่มสินค้าต่างๆที่มีมูลค่าการนำเข้ามากมาหารือเพื่อให้การนำเข้าเป็นไปตามแผนและการผลิตที่แท้จริง ซึ่งได้เชิญผู้ประกอบการกลุ่มเหล็กมาหารือแล้ว คาดว่าการนำเข้าเหล็กในครึ่งปีหลังจะลดลงจากครึ่งปีแรกที่มีมูลค่าการนำเข้า 4,892 ล้านเหรียญสหรัฐ เหลือ 4,292 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับทองคำ ซึ่งมีการนำเข้ามากเพื่อเก็งกำไร คาดว่าได้มีการนำเข้ามามากเกินพอแล้ว โดยจะเห็นได้จากตัวเลขการนำเข้าในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2548 (มกราคม — พฤษภาคม) ที่มีการนำเข้า 1,050 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่การนำเข้าทองคำในปี 2547 ทั้งปี มีมูลค่า 1,146 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับการติดตามสถานการณ์การนำเข้า ในระยะ 2 เดือนต่อจากนี้ไปหากสถานการณ์ขาดดุลการค้ายังไม่ดีขึ้น หรือสินค้าบางกลุ่มมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นจากที่ได้ประมาณการไว้ กรมฯอาจพิจารณาเสนอมาตรการ เพื่อติดตามข้อมูลเป็นรายบริษัทฯ โดยจะอนุญาตให้นำเข้าทุกราย (Automatic Import Licensing) รวมทั้งแจ้งแผนการนำเข้าเพื่อกำกับดูแลให้การนำเข้าสินค้าหรือวัตถุดิบเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ และหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นอีก อาจพิจารณาเสนอรัฐบาลให้มีมาตรการกับสินค้าที่ต้องกำกับดูแลเป็นพิเศษ
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-