เศรษฐกิจภาคใต้เดือนธันวาคมยังคงขยายตัวแต่ในอัตราชะลอจากเดือนก่อน โดยภาคการผลิต รายได้เกษตรกรจากพืชผลหลักและการผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อน ส่วนภาคบริการลดลงต่อเนื่อง ตามการท่องเที่ยวของภาคใต้ตอนล่างทางด้านการบริโภคภาคเอกชนและภาครัฐขยายตัวในอัตราที่ชะลอ เช่นเดียวกับการค้าระหว่างประเทศชะลอลง ตามความต้องการซื้อจากต่างประเทศ ส่วนการลงทุนภาคการผลิตอยู่ในเกณฑ์ดี สำหรับดัชนีราคา ผู้บริโภคทั่วไปลดลงจากเดือนก่อนเล็กน้อยตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง
ไตรมาสที่ 4 ปีนี้ เศรษฐกิจภาคใต้โดยรวมขยายตัวดี จากการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคการลงทุนภาคเอกชน รายจ่ายภาครัฐและการส่งออกที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ ทางด้านอุปทาน รายได้เกษตรกรจากพืชหลักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.6 ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมกระเตื้องขึ้นจากไตรมาสก่อน อย่างไรก็ตามภาคบริการยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดน
ภาคเกษตร
ผลผลิตพืชสำคัญของภาคใต้เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของยางพารา และกาแฟเป็นสำคัญ จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยทำให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น ด้านราคาพืชผลหลักเฉลี่ยลดลงร้อยละ 4.9 ตามราคายางพาราและปาล์มน้ำมันที่ลดลงร้อยละ 4.5 และ 11.8 ตามลำดับเนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากและต่างประเทศชะลอการสั่งซื้อ ส่งผลให้รายได้เกษตรกรจากการจำหน่ายพืชผลหลักลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.1
ทางด้านประมง ปริมาณและมูลค่าสัตว์น้ำนำขึ้นที่ท่าเทียบเรือในภาคใต้ในเดือนธันวาคมนี้ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 21.0 และ 16.9 ตามลำดับ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะราคาน้ำมันแพง ประกอบกับปริมาณและคุณภาพสัตว์น้ำลดลง ส่วนกุ้งกุลาดำและกุ้งขาวออกสู่ตลาดน้อย เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ขณะที่ราคากุ้งกุลาดำยังลดลงต่อเนื่อง โดยลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.7
ไตรมาสที่ 4 ปีนี้ รายได้จากการขายพืชผลสำคัญของเกษตรกรขยายตัวร้อยละ 1.6 ตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตร้อยละ 2.6 ในขณะที่ราคาลดลงเล็กน้อยเพียงร้อยละ 0.9 สำหรับภาวะประมงชะลอตัวลงเนื่องจากต้นทุนการทำประมงสูงขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากราคาน้ำมันและอุปกรณ์การทำประมง ประกอบกับเกิดมรสุมในแหล่งประมงที่สำคัญ นอกจากนี้จากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ได้ทำสร้างความเสียหายและสูญหายให้กับเรือประมงและชาวประมงเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคการประมงในไตรมาสหน้า
ภาคอุตสาหกรรม
ผลผลิตอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกของภาคใต้เดือนธันวาคมนี้ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อน โดยเฉพาะการผลิตอุตสาหกรรมยางพาราที่ขยายตัวในอัตราที่ชะลอจากเดือนก่อน เนื่องจากตลาดต่างประเทศชะลอการสั่งซื้อเพราะเป็นช่วงใกล้วันหยุดติดต่อกันหลายวัน ประกอบกับคาดว่าราคาน่าจะมีแนวโน้มลดลง ขณะที่การผลิตน้ำมันปาล์มและอาหารกระป๋องขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน สำหรับการผลิตอาหารทะเลแช่แข็งในเดือนนี้ชะลอตัว หลังจากที่มีแนวโน้มดีขึ้นใน 3 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดรอฟังผลการไต่สวนการฟ้องร้องการทุ่มตลาดกุ้งของสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 20 ธันวาคม 2547
ไตรมาสที่ 4 ปี 2547 การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในเกณฑ์ดี ตามการผลิตอุตสาหกรรมยางพารา โดยเฉพาะยางแท่ง ถุงมือยาง และไม้ยางพาราและเฟอร์นิเจอร์ ที่ขยายตัว ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน ขณะเดียวกันการผลิตในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มดิบขยายตัวในอัตราเร่งจากไตรมาสก่อน และการผลิตอาหารทะเลกระป๋องเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นในไตรมาสนี้ เนื่องจากความผันผวนด้านราคาและปริมาณวัตถุดิบปลาทูน่าเริ่มคลี่คลาย ส่วนการผลิตอาหารทะเลแช่แข็งดีขึ้นจากไตรมาสก่อนแต่ยังชะลอลงเมื่อเทียบกับปีก่อน
ภาคบริการท่องเที่ยว
ในเดือนธันวาคมนี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในภาคใต้ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 30.2 ตามการลดลงของนักท่องเที่ยวในภาคใต้ตอนล่างและฝั่งตะวันตก โดยการท่องเที่ยวในภาคใต้ตอนล่างยังมีปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะที่การท่องเที่ยวทางฝั่งตะวันตกที่มีแนวโน้มขยายตัวดีตั้งแต่ต้นปี แต่จากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิทำให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศยกเลิกการจองห้องพักเป็นจำนวนมากในช่วงปีใหม่
ไตรมาสที่ 4 ปี 2547 การท่องเที่ยวอยู่ในภาวะที่ชะลอตัวต่อเนื่อง เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ตอนล่างยังมีความรุนแรงและส่งผลต่อเนื่องให้การท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลาซึ่งเป็นแหล่งท่องที่ยวหลักในภาคใต้ตอนล่างซบเซาลงมาก อย่างไรก็ตามการท่องเที่ยวทางฝั่งอันดามันใน ไตรมาสสุดท้ายขยายตัวในอัตราสูง แต่จากเหตุภัยพิบัติเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2548 ส่งผลกระทบให้การท่องเที่ยวหยุดชะงักและมีการยกเลิกการจองห้องพักในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นจำนวนมาก โดยจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 20.7
การอุปโภคบริโภค
การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อนเล็กน้อยโดยยอดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 14.7 ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.1 เนื่องจากปัจจัยบวกจากอัตราดอกเบี้ยยังต่ำ และระยะเวลาการผ่อนนาน ทั้งนี้จังหวัดที่มีการจดทะเบียนมากได้แก่ จังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ขณะที่รถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.3
ไตรมาสที่ 4 ปี 2547 การใช้จ่ายภาคเอกชนยังอยู่ในเกณฑ์ดีเนื่องจากรายได้จากภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้น และสภาพแวดล้อมทางการเงินเอื้ออำนวย ทำให้การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดน ส่งผลให้ภาวะการค้าในจังหวัดสงขลาและใกล้เคียงค่อนข้างซบเซา
การลงทุนภาคเอกชนการลงทุนก่อสร้างลดลง โดยพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างในเขตเทศบาลลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 55.0 เป็นผลจากฐานของปีก่อนหน้าที่มีการได้ เร่งก่อสร้างและซื้อขายบ้านที่อยู่อาศัยก่อนที่มาตรการลดหย่อนของภาครัฐสิ้นสุดปลายปีก่อนอย่างไรก็ตาม แนวโน้มการลงทุนมีทิศทางที่ดีขึ้นโดยเงินลงทุนของโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนเกือบ 2 เท่าตัว และการจดทะเบียนธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราสูง
ไตรมาสที่ 4 ปี 2547 การลงทุนทางด้านผลิตขยายตัวดี โดยเงินลงทุนของโครงการที่ ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 81.2 ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการเกษตร เช่น อุตสาหกรรมยางพารา อุตสาหกรรมน้ำมัน ขณะที่เงินลงทุนของธุรกิจจดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัว ขณะที่การลงทุนก่อสร้างยังชะลอลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน
การจ้างงาน
การจ้างงานยังอยู่ในภาวะดี ทั้งนี้จากข้อมูลจากสำนักงานจัดหางานจังหวัดในเดือนธันวาคมนี้มีตำแหน่งงานว่างเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 37.2 โดยส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต สงขลา และชุมพร ทั้งนี้แรงงานที่ต้องการส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมการผลิต ส่วนจำนวนแรงงานในภาคใต้ที่เข้าโครงการประกันสังคมเดือนนี้เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 4.6
ระดับราคา
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนนี้อยู่ที่ร้อยละ 4.0 ลดลงจากร้อยละ 4.3 ในเดือนก่อน เป็น ผลจากราคาหมวดยานพาหนะและน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง ทำให้ราคาสินค้าหมวดอื่น ๆ ที่มิใช่อาหารและเครื่องดื่มชะลอตัวจากร้อยละ 3.7 ในเดือนก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 2.6 ในเดือนนี้ ขณะที่ราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5 สูงกว่าเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3
ไตรมาสที่ 4 ปี 2547 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในไตรมาสที่ 4 ปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 4.3 โดยราคาในหมวดอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 ตามราคาสินค้าในหมวดเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำที่เพิ่มขึ้น และราคาสินค้าหมวดอื่น ๆ ที่มิใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5
การค้าต่างประเทศ
การค้าระหว่างประเทศในเดือนธันวาคมนี้ขยายตัว 17.3 ตามการมูลค่าการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 63.9 จากการนำเข้าเครื่องจักร-อุปกรณ์เป็นสำคัญ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 ชะลอลงจากเดือนก่อนส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 410.9 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงร้อยละ 13.2 ส่วนการค้าผ่านด่านชายแดนไทย— มาเลเซียขยายตัว โดยมีมูลการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 ตาม ส่งออกยางพารา เครื่องจักรและอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ และไม้ยางแปรรูปเป็นสำคัญขณะที่มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 36.4
ไตรมาสที่ 4 ปี 2547 การส่งออกขยายตัวต่อเนื่องโดยมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 13.7 ส่วนมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.0 ส่งผลให้ดุลการค้าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีเกินดุล 1,236.0 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9
การคลัง
ในเดือนธันวาคมนี้ สามารถจัดเก็บรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 29.1 ตามการขยายตัวของภาคการผลิต และการบริโภคภาคเอกชน ส่วนการเบิกจ่ายเงินงบประมาณในเดือนนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.1 และมีอัตราการเบิกจ่ายร้อยละ 55.4
ไตรมาสที่ 4 ปี 2547 หรือไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2548 สามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 28.6 เป็นผลจากภาษีที่เก็บจากฐานการบริโภคและฐานรายได้สูงขึ้นร้อยละ 3.8 และ 54.6 ตามลำดับส่วนเบิกจ่ายเงินงบประมาณในไตรมาสนี้สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 7.1 และมีอัตราการเบิกจ่ายร้อยละ 46.0
ภาคการเงิน
ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2547 สาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคใต้มียอดเงินฝากคงค้างเพิ่มขึ้น ร้อยละ 11.6 และยอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 จากการขยายของสินเชื่อภาคอุตสาหกรรม การบริการ สินเชื่อค้าส่งค้าปลีก สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2547 สภาพคล่องในระบบยังค่อนข้างสูง อัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ยังอยู่ในระดับต่ำ และจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้การให้สินเชื่อโดยรวมยังขยายตัวต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเงินฝากยังขยายตัวในเกณฑ์สูง ส่วนหนึ่งเป็นการไถ่ถอนพันธบัตรออมทรัพย์ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม และเดือนพฤศจิกายน
(ยังมีต่อ)
--ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้--
ไตรมาสที่ 4 ปีนี้ เศรษฐกิจภาคใต้โดยรวมขยายตัวดี จากการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคการลงทุนภาคเอกชน รายจ่ายภาครัฐและการส่งออกที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ ทางด้านอุปทาน รายได้เกษตรกรจากพืชหลักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.6 ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมกระเตื้องขึ้นจากไตรมาสก่อน อย่างไรก็ตามภาคบริการยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดน
ภาคเกษตร
ผลผลิตพืชสำคัญของภาคใต้เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของยางพารา และกาแฟเป็นสำคัญ จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยทำให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น ด้านราคาพืชผลหลักเฉลี่ยลดลงร้อยละ 4.9 ตามราคายางพาราและปาล์มน้ำมันที่ลดลงร้อยละ 4.5 และ 11.8 ตามลำดับเนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากและต่างประเทศชะลอการสั่งซื้อ ส่งผลให้รายได้เกษตรกรจากการจำหน่ายพืชผลหลักลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.1
ทางด้านประมง ปริมาณและมูลค่าสัตว์น้ำนำขึ้นที่ท่าเทียบเรือในภาคใต้ในเดือนธันวาคมนี้ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 21.0 และ 16.9 ตามลำดับ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะราคาน้ำมันแพง ประกอบกับปริมาณและคุณภาพสัตว์น้ำลดลง ส่วนกุ้งกุลาดำและกุ้งขาวออกสู่ตลาดน้อย เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ขณะที่ราคากุ้งกุลาดำยังลดลงต่อเนื่อง โดยลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 2.7
ไตรมาสที่ 4 ปีนี้ รายได้จากการขายพืชผลสำคัญของเกษตรกรขยายตัวร้อยละ 1.6 ตามการเพิ่มขึ้นของผลผลิตร้อยละ 2.6 ในขณะที่ราคาลดลงเล็กน้อยเพียงร้อยละ 0.9 สำหรับภาวะประมงชะลอตัวลงเนื่องจากต้นทุนการทำประมงสูงขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากราคาน้ำมันและอุปกรณ์การทำประมง ประกอบกับเกิดมรสุมในแหล่งประมงที่สำคัญ นอกจากนี้จากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ได้ทำสร้างความเสียหายและสูญหายให้กับเรือประมงและชาวประมงเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคการประมงในไตรมาสหน้า
ภาคอุตสาหกรรม
ผลผลิตอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกของภาคใต้เดือนธันวาคมนี้ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อน โดยเฉพาะการผลิตอุตสาหกรรมยางพาราที่ขยายตัวในอัตราที่ชะลอจากเดือนก่อน เนื่องจากตลาดต่างประเทศชะลอการสั่งซื้อเพราะเป็นช่วงใกล้วันหยุดติดต่อกันหลายวัน ประกอบกับคาดว่าราคาน่าจะมีแนวโน้มลดลง ขณะที่การผลิตน้ำมันปาล์มและอาหารกระป๋องขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน สำหรับการผลิตอาหารทะเลแช่แข็งในเดือนนี้ชะลอตัว หลังจากที่มีแนวโน้มดีขึ้นใน 3 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดรอฟังผลการไต่สวนการฟ้องร้องการทุ่มตลาดกุ้งของสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 20 ธันวาคม 2547
ไตรมาสที่ 4 ปี 2547 การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในเกณฑ์ดี ตามการผลิตอุตสาหกรรมยางพารา โดยเฉพาะยางแท่ง ถุงมือยาง และไม้ยางพาราและเฟอร์นิเจอร์ ที่ขยายตัว ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน ขณะเดียวกันการผลิตในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มดิบขยายตัวในอัตราเร่งจากไตรมาสก่อน และการผลิตอาหารทะเลกระป๋องเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นในไตรมาสนี้ เนื่องจากความผันผวนด้านราคาและปริมาณวัตถุดิบปลาทูน่าเริ่มคลี่คลาย ส่วนการผลิตอาหารทะเลแช่แข็งดีขึ้นจากไตรมาสก่อนแต่ยังชะลอลงเมื่อเทียบกับปีก่อน
ภาคบริการท่องเที่ยว
ในเดือนธันวาคมนี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในภาคใต้ลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 30.2 ตามการลดลงของนักท่องเที่ยวในภาคใต้ตอนล่างและฝั่งตะวันตก โดยการท่องเที่ยวในภาคใต้ตอนล่างยังมีปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะที่การท่องเที่ยวทางฝั่งตะวันตกที่มีแนวโน้มขยายตัวดีตั้งแต่ต้นปี แต่จากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิทำให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศยกเลิกการจองห้องพักเป็นจำนวนมากในช่วงปีใหม่
ไตรมาสที่ 4 ปี 2547 การท่องเที่ยวอยู่ในภาวะที่ชะลอตัวต่อเนื่อง เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ตอนล่างยังมีความรุนแรงและส่งผลต่อเนื่องให้การท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลาซึ่งเป็นแหล่งท่องที่ยวหลักในภาคใต้ตอนล่างซบเซาลงมาก อย่างไรก็ตามการท่องเที่ยวทางฝั่งอันดามันใน ไตรมาสสุดท้ายขยายตัวในอัตราสูง แต่จากเหตุภัยพิบัติเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2548 ส่งผลกระทบให้การท่องเที่ยวหยุดชะงักและมีการยกเลิกการจองห้องพักในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นจำนวนมาก โดยจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 20.7
การอุปโภคบริโภค
การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อนเล็กน้อยโดยยอดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 14.7 ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.1 เนื่องจากปัจจัยบวกจากอัตราดอกเบี้ยยังต่ำ และระยะเวลาการผ่อนนาน ทั้งนี้จังหวัดที่มีการจดทะเบียนมากได้แก่ จังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ขณะที่รถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.3
ไตรมาสที่ 4 ปี 2547 การใช้จ่ายภาคเอกชนยังอยู่ในเกณฑ์ดีเนื่องจากรายได้จากภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้น และสภาพแวดล้อมทางการเงินเอื้ออำนวย ทำให้การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดน ส่งผลให้ภาวะการค้าในจังหวัดสงขลาและใกล้เคียงค่อนข้างซบเซา
การลงทุนภาคเอกชนการลงทุนก่อสร้างลดลง โดยพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างในเขตเทศบาลลดลงจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 55.0 เป็นผลจากฐานของปีก่อนหน้าที่มีการได้ เร่งก่อสร้างและซื้อขายบ้านที่อยู่อาศัยก่อนที่มาตรการลดหย่อนของภาครัฐสิ้นสุดปลายปีก่อนอย่างไรก็ตาม แนวโน้มการลงทุนมีทิศทางที่ดีขึ้นโดยเงินลงทุนของโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนเกือบ 2 เท่าตัว และการจดทะเบียนธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราสูง
ไตรมาสที่ 4 ปี 2547 การลงทุนทางด้านผลิตขยายตัวดี โดยเงินลงทุนของโครงการที่ ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 81.2 ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการเกษตร เช่น อุตสาหกรรมยางพารา อุตสาหกรรมน้ำมัน ขณะที่เงินลงทุนของธุรกิจจดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัว ขณะที่การลงทุนก่อสร้างยังชะลอลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน
การจ้างงาน
การจ้างงานยังอยู่ในภาวะดี ทั้งนี้จากข้อมูลจากสำนักงานจัดหางานจังหวัดในเดือนธันวาคมนี้มีตำแหน่งงานว่างเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 37.2 โดยส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต สงขลา และชุมพร ทั้งนี้แรงงานที่ต้องการส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมการผลิต ส่วนจำนวนแรงงานในภาคใต้ที่เข้าโครงการประกันสังคมเดือนนี้เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 4.6
ระดับราคา
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนนี้อยู่ที่ร้อยละ 4.0 ลดลงจากร้อยละ 4.3 ในเดือนก่อน เป็น ผลจากราคาหมวดยานพาหนะและน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง ทำให้ราคาสินค้าหมวดอื่น ๆ ที่มิใช่อาหารและเครื่องดื่มชะลอตัวจากร้อยละ 3.7 ในเดือนก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 2.6 ในเดือนนี้ ขณะที่ราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.5 สูงกว่าเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3
ไตรมาสที่ 4 ปี 2547 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในไตรมาสที่ 4 ปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 4.3 โดยราคาในหมวดอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 ตามราคาสินค้าในหมวดเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำที่เพิ่มขึ้น และราคาสินค้าหมวดอื่น ๆ ที่มิใช่อาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5
การค้าต่างประเทศ
การค้าระหว่างประเทศในเดือนธันวาคมนี้ขยายตัว 17.3 ตามการมูลค่าการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 63.9 จากการนำเข้าเครื่องจักร-อุปกรณ์เป็นสำคัญ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 ชะลอลงจากเดือนก่อนส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 410.9 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงร้อยละ 13.2 ส่วนการค้าผ่านด่านชายแดนไทย— มาเลเซียขยายตัว โดยมีมูลการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 ตาม ส่งออกยางพารา เครื่องจักรและอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ และไม้ยางแปรรูปเป็นสำคัญขณะที่มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 36.4
ไตรมาสที่ 4 ปี 2547 การส่งออกขยายตัวต่อเนื่องโดยมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนร้อยละ 13.7 ส่วนมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.0 ส่งผลให้ดุลการค้าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีเกินดุล 1,236.0 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9
การคลัง
ในเดือนธันวาคมนี้ สามารถจัดเก็บรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนร้อยละ 29.1 ตามการขยายตัวของภาคการผลิต และการบริโภคภาคเอกชน ส่วนการเบิกจ่ายเงินงบประมาณในเดือนนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.1 และมีอัตราการเบิกจ่ายร้อยละ 55.4
ไตรมาสที่ 4 ปี 2547 หรือไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2548 สามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 28.6 เป็นผลจากภาษีที่เก็บจากฐานการบริโภคและฐานรายได้สูงขึ้นร้อยละ 3.8 และ 54.6 ตามลำดับส่วนเบิกจ่ายเงินงบประมาณในไตรมาสนี้สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 7.1 และมีอัตราการเบิกจ่ายร้อยละ 46.0
ภาคการเงิน
ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2547 สาขาธนาคารพาณิชย์ในภาคใต้มียอดเงินฝากคงค้างเพิ่มขึ้น ร้อยละ 11.6 และยอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 จากการขยายของสินเชื่อภาคอุตสาหกรรม การบริการ สินเชื่อค้าส่งค้าปลีก สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน
ไตรมาสที่ 4 ปี 2547 สภาพคล่องในระบบยังค่อนข้างสูง อัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ยังอยู่ในระดับต่ำ และจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้การให้สินเชื่อโดยรวมยังขยายตัวต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเงินฝากยังขยายตัวในเกณฑ์สูง ส่วนหนึ่งเป็นการไถ่ถอนพันธบัตรออมทรัพย์ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม และเดือนพฤศจิกายน
(ยังมีต่อ)
--ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้--