ผู้สมัครส.ส.เขต 4 พญาไท — ราชเทวี ‘พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์’ แถลงเปิดเผยถึงสิ่งผิดปกติเลือกตั้งล่วงหน้าวานนี้ แฉกลโกงเลือกตั้งยุคไฮเทค ‘มือถือถ่ายรูปได้’ แล้วมารับเงินจากหัวคะแน พร้อมถามหามาตรฐานตรวจสอบโกงเลือกตั้งจาก กกต.
วันนี้(30 ม.ค.48) เวลา 14.00น. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้สมัครส.ส.เขต 4 พญาไท — ราชเทวี กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าวานนี้(29 ม.ค.48) โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่า ได้มีรถของหน่วยงานราชการ ประมาณ 10 คัน ขนข้าราชการทหารเป็นจำนวนมากมาลงคะแนน ซึ่งแม้ว่ารถดังกล่าวจะไม่ได้ติดป้ายสนับสนุนพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนี่ง แต่ในกฎหมายการเลือกตั้งมีการระบุว่า ห้ามเกณฑ์ประชาชนมาใช้สิทธิ ตนก็อยากถามกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกฎหมายการเลือกตั้งมีความแตกต่างกันอย่างไร นอกจากนี้ก็ยังมีการจัดเลี้ยงในหน่วยงานราชการโดยได้เชิญผู้สมัครจากพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง ซึ่งเมื่อตนทราบเบาะแสก็ได้แจ้งไปยังกกต.และสายด่วนหมายเลข 1171 แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการปรานจากกกต.แต่อย่างใด ส่วนนี้ตนก็อยากให้กกต.เข้าไปตรวจสอบด้วย
‘ผมอยากถามความชอบธรรมว่าวันนี้ในฐานะที่เราเป็นผู้สมัคร และเป็นคนที่คิดว่าตั้งใจทำงานตามระบอบประชาธิปไตย และอยากจะเห็นกกต.เป็นธรรม ไม่ทราบว่าเมื่อมีเหตุแบบนี้เกิดขึ้นอีกจะไปร้องเรียนกับใคร แล้วทำไมพรรคการเมืองพรรคนั้นทำได้อยู่พรรคเดียว ของเราแค่จะทำอะไรก็ต้องระวัง แต่เขาทำทุกอย่างที่กกต.ห้าม ผมอยากเรียกร้องสื่อมวลชนทุกคนช่วยเรียกร้องให้กับประชาชนว่า วันนี้ผมไม่ทราบว่าในเขตของผม ผมต้องสู้กับใคร ผมสู้กับอำนาจรัฐหรือใคร วันนี้จึงต้องมาขอร้องเจ้าขอสิทธิคือประชาชนให้ช่วยพิจารณาด้วย’ นายพุทธิพงษ์กล่าว
นอกจากนี้นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ในเขตของตนขณะนี้มีการซื้อสิทธิ ขายเสียงกันอย่างเปิดเผย โดยมีการขนเงินสดไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นจำนวนเงิน 300 — 500 บาทต่อคน นอกจากนี้ยังมีการซื้อเสียงรูปแบบใหม่คือ มีการนำโทรศัพท์มือถือที่สามารถถ่ายรูปได้ เข้าไปในคูหาเลือกตั้งและถ่ายรูปเบอร์ที่ตนเองกาลงไปในบัตร หลังจากนั้นก็นำรูปที่ถ่ายได้ออกมาหัวคะแนนจากพรรคการเมืองบางพรรคดูและรับเงินไป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30 ม.ค.2548--จบ--
-ดท-
วันนี้(30 ม.ค.48) เวลา 14.00น. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้สมัครส.ส.เขต 4 พญาไท — ราชเทวี กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าวานนี้(29 ม.ค.48) โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่า ได้มีรถของหน่วยงานราชการ ประมาณ 10 คัน ขนข้าราชการทหารเป็นจำนวนมากมาลงคะแนน ซึ่งแม้ว่ารถดังกล่าวจะไม่ได้ติดป้ายสนับสนุนพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนี่ง แต่ในกฎหมายการเลือกตั้งมีการระบุว่า ห้ามเกณฑ์ประชาชนมาใช้สิทธิ ตนก็อยากถามกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกฎหมายการเลือกตั้งมีความแตกต่างกันอย่างไร นอกจากนี้ก็ยังมีการจัดเลี้ยงในหน่วยงานราชการโดยได้เชิญผู้สมัครจากพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง ซึ่งเมื่อตนทราบเบาะแสก็ได้แจ้งไปยังกกต.และสายด่วนหมายเลข 1171 แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการปรานจากกกต.แต่อย่างใด ส่วนนี้ตนก็อยากให้กกต.เข้าไปตรวจสอบด้วย
‘ผมอยากถามความชอบธรรมว่าวันนี้ในฐานะที่เราเป็นผู้สมัคร และเป็นคนที่คิดว่าตั้งใจทำงานตามระบอบประชาธิปไตย และอยากจะเห็นกกต.เป็นธรรม ไม่ทราบว่าเมื่อมีเหตุแบบนี้เกิดขึ้นอีกจะไปร้องเรียนกับใคร แล้วทำไมพรรคการเมืองพรรคนั้นทำได้อยู่พรรคเดียว ของเราแค่จะทำอะไรก็ต้องระวัง แต่เขาทำทุกอย่างที่กกต.ห้าม ผมอยากเรียกร้องสื่อมวลชนทุกคนช่วยเรียกร้องให้กับประชาชนว่า วันนี้ผมไม่ทราบว่าในเขตของผม ผมต้องสู้กับใคร ผมสู้กับอำนาจรัฐหรือใคร วันนี้จึงต้องมาขอร้องเจ้าขอสิทธิคือประชาชนให้ช่วยพิจารณาด้วย’ นายพุทธิพงษ์กล่าว
นอกจากนี้นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า ในเขตของตนขณะนี้มีการซื้อสิทธิ ขายเสียงกันอย่างเปิดเผย โดยมีการขนเงินสดไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นจำนวนเงิน 300 — 500 บาทต่อคน นอกจากนี้ยังมีการซื้อเสียงรูปแบบใหม่คือ มีการนำโทรศัพท์มือถือที่สามารถถ่ายรูปได้ เข้าไปในคูหาเลือกตั้งและถ่ายรูปเบอร์ที่ตนเองกาลงไปในบัตร หลังจากนั้นก็นำรูปที่ถ่ายได้ออกมาหัวคะแนนจากพรรคการเมืองบางพรรคดูและรับเงินไป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30 ม.ค.2548--จบ--
-ดท-