พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งแต่ระหว่างวันที่ 14 - 20 พ.ย. พ.ศ. 2548

ข่าวทั่วไป Monday November 14, 2005 14:13 —กรมอุตุนิยมวิทยา

          พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร  
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 136/2548
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 14-20 พฤศจิกายน 2548
ในช่วงวันที่ 15-18 พ.ย.48 ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ซึมลงมาปกคลุมภาค ตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. ความกด อากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้อุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาเซลเซียส ส่งผลให้มีอากาศหนาวเย็นลง ส่วนภาคใต้โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกจะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นส่วนมาก ในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. และคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น
ข้อควรระวัง
ในระยะนี้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศหนาวเย็นลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพ และในช่วง วันที่ 19-20 พ.ย. ภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะ ดังกล่าว สำหรับบริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่างๆในระยะ7วันข้างหน้ามีดังนี้
เหนือ
ลักษณอากาศ
# อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าทางตอนบนของภาค ส่วนยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-14 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 14-16 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10-30 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 6-12 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศเย็น โดยทั่วไปในตอนเช้า ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าทางตอนบนของภาค ส่วนยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-14 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 14-16 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10-30 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 6-12 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศเย็น โดยทั่วไปในตอนเช้า ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เกษตรกรไม่ควรตากผลผลิตทิ้งไว้กลางแจ้ง และควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งควรวางแผนการใช้น้ำด้วย
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะอากาศ
# อากาศเย็นทางตอนบนของภาค ส่วนบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 14-15 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10-30 % ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศเย็นโดยทั่วไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# อากาศเย็นทางตอนบนของภาค ส่วนบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 14-15 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10-30 % ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศเย็นโดยทั่วไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เกษตรกรควรป้องกันความเสียหายของผลผลิตเนื่องจากการเปียกชื้น และควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย รวมทั้งทำแผงกำบังลมหนาวและเพิ่มความอบอุ่นแก่สัตว์ที่ยังเล็ก นอกจากนี้ควรใช้น้ำอย่างประหยัดด้วย
กลาง
ลักษณะอากาศ
# ในช่วงวันที่ 14-16 พ.ย. มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10-30 % ของพื้นที่ ส่วน ในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในช่วงวันที่ 14-16 พ.ย. มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10-30 % ของพื้นที่ ส่วน ในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลง พื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย สำหรับสัตว์เลี้ยงควรดูแลอุณหภูมิภายในโรงเรือนอย่าให้เปลี่ยนแปลงกระทันหัน เพื่อป้องกันสัตว์ปรับตัวไม่ทันและเจ็บป่วยได้ง่าย
ตะวันออก
ลักษณะอากาศ
# ในช่วงวันที่ 14-16 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10-30 % ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณเทือกเขาและชายฝั่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. อุณหภูมิตจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศเย็นในตอนเช้าส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในช่วงวันที่ 14-16 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่ง ๆ 10-30 % ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณเทือกเขาและชายฝั่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. อุณหภูมิตจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศเย็นในตอนเช้าส่วนมากทางตอนบนของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. เกษตรกรควรรีบเก็บเกี่ยวผลผลิตที่เจริญเติบโตเต็มที่ และไม่ควรตากทิ้งไว้กลางแจ้งในช่วงดังกล่าว เพื่อป้องกันผลผลิตเปียกชื้นเสียหาย นอกจากนี้ควรใช้น้ำอย่างประหยัดด้วยเนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลง
ใต้
ลักษณะอากาศ
# ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 14-17 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 18-20 พ.ย. จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นอยู่ในเกณฑ์เกือบทั่วไป กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย 30-60 % ของพื้นที่ตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากในช่วงวันที่ 14-15 พ.ย. และ 18-20 พ.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ฝั่งตะวันออก ในช่วงวันที่ 14-17 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60 % ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 18-20 พ.ย. จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นอยู่ในเกณฑ์เกือบทั่วไป กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย 30-60 % ของพื้นที่ตลอดสัปดาห์ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากในช่วงวันที่ 14-15 พ.ย. และ 18-20 พ.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. เนื่องจากระยะนี้มีฝนตกชุกเกษตรกรตัดแต่ง ทรงพุ่มของไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเติบโตให้โปร่งและควรดูแลบริเวณโคนต้นให้โล่งเตียน เพื่อป้องกันโรคพืชที่ เกิดจากเชื้อรา นอกจากนี้ควรทำทางระบายน้ำออกจากพื้นที่เพาะปลูกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ