นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแถลงว่าตนขอตั้งข้อสังเกต 4 ประเด็น กับกรณีเครื่องตรวจวัตถุระเบิดกล่าวคือ
ประเด็นที่ 1 กรณีที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม และนายสุทิน คลังแสง รองโฆษกพรรคไทยรักไทย ออกมาสัมภาษณ์ว่าให้พรรคประชาธิปัตย์ ว่าให้รับผิดชอบในสิ่งที่อภิปรายฯ โดยอ้างว่าเครื่องซีทีเอ็กซ์ 2 เครื่อง มาถึงประเทศไทยแล้ว ตนเห็นว่ารัฐบาลพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะประเด็นหลักในการตรวจสอบคือมีการทุจริตเกิดขึ้นในกระบวนการจัดซื้อจริงหรือไม่ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ได้ตั้งคำถามในการอภิปรายฯถามนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าทำไมบทม.เร่งรีบในการจ่ายเงินออกไป 1,700ล้านบาท ทั้งที่ยังไม่มีสินค้า คือเครื่องซีทีเอ็กซ์มาถึงประเทศไทยแม้แต่เครื่องเดียว และถ้าเป็นไปตามสัญญาเดิม วันนี้ก็คงยังไม่มีเครื่องซีทีเอ็กซ์แน่นอน ซึ่งภายใต้สถานการณ์ขณะนั้น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้บริหารราชการบกพร่อง จึงต้องมีการเปลี่ยนสัญญาใหม่มาเป็นการซื้อตรง จึงได้ซีทีเอ็กซ์มา แทนที่ รมว.คมนาคม จะรู้สึกผิดที่ทำให้ประเทศชาติเกือบสูญเสียผลประโยชน์มหาศาล รมว.คมนาคมกลับไม่รู้สึกและยังให้สัมภาษณ์เยาะเย้ยพรรคประชาธิปัตย์ และส่งลิ่วล้อออกมาตอบโต้ แสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะ ที่แท้จริงของรมว.คมนาคม ว่านอกจากจะพูดไม่เป็น ยังคิดไม่เป็น
ประเด็นที่ 2 คือประเด็นที่ รมว. คมนาคม ชี้แจงว่าส่วนต่างเหล่านั้น เกิดจากการนำเข้าเครื่องซีทีเอ็กซ์ และอ้างว่ามีค่าภาษี ค่าขนส่ง โดยกล่าวอ้างว่าฝ่ายค้านเอาตัวเลขซื้อขายมาจากเมืองนอกที่ยังไม่รวมภาษีและค่าขนส่ง แล้วมาบอกว่ามีส่วนต่าง ตรงนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่านายสุริยะอ่านโพยทั้งในและนอกสภา
ประเด็นที่ 3 คือกรณีรมว.คมนาคมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน กับคำถามที่ว่าเมื่อมีการซื้อตรงแล้วทำไมราคาไม่ลดลง โดยรมว.คมนาคม ตอบว่า เป็นเพราะกระทรวงยุติธรมม สหรัฐฯ เป็นผู้บอกให้ซื้อขายตรง เฉพาะเอกสาร แต่ในความจริงใช้สัญญาเดิม และกิจการร่วมค้าไอทีโอยังต้องรับผิดชอบทั้งหมดเหมือนเดิม จึงเป็นเรื่องที่น่าตกใจเพราะวัตถุประสงค์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯไม่ต้องการให้การจ่ายสินบนเกิดขึ้น จึงต้องบังคับให้มีการทำสัญญาซื้อชายตรง เฉพาะกับหน่วยงานของรัฐ แต่รัฐบาลไทยกลับทำสัญญาขายตรงในแง่ของเอกสารเท่านั้น เท่ากับเป็นการยอมรับอย่างเป็นทางการว่ามีนิติกรรมอำพรางเกิดขึ้น ซึ่งให้บทม.ทำหน้าที่เป็นเพียงหน้าเสื่อ คือไปลงนามในสัญญาซื้อตรงกับบริษัท จีอีอินวิชั่น แต่การติดตั้ง รับผิดชอบ เป็นของไอทีโอ ซึ่งต้องทำตามสัญญาที่มีกับแพทธิออท กล่าวคือแพทธิออท ยังมีหน้าที่ติดตั้งเครื่องตรวจระเบิดดังกล่าว ทำให้เห็นได้ชัดว่าคนที่กินสินบนไปแล้ว จะไม่มีทางยอมคายออกมาเด็ดขาด ฉะนั้นการกระทำของรมว.คมนาคมนอกจากจะเป็นการหลอกลวงกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯแล้วยังหรอกคนไทยทั้งประเทศด้วย
ประเด็นที่ 4 กรณีสนามบินสุสรรรภูมเสร็จไม่ทันตามกำหนด ตนอยากจะเตือน รมว.คมนาคมว่า เคยให้สัมภาษณ์ว่าการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิจะเสร็จทันกำหนดแน่นอน แต่จะเปิดบริการได้ตามกำหนดหรือไม่นั้น จะต้องได้รับความปลอดภัยจากองค์กรการบินระหว่างประเทศ และมีการชี้แจงในสภาผู้แทนฯกรณีไม่เปิดประมูลเครื่องตรวจวัตถุระเบิด เพราะต้องการให้สนามบินเสร็จเร็วขึ้น 1 วันชาติได้ประโยชน์เป็นเงิน...บาท
ข้อเท็จจริงวันนี้สนามบินสุวรรณภูมิไม่สามารถใช้งานได้เพราะสร้างไม่เสร็จ ไม่ใช่เรื่องที่องค์กรการบินระหว่างประเทศไม่มารับรอง เพราะฉะนั้นสิ่งที่รัฐบาลพูดมาเสมอว่าต้องมีการจัดจ้างแบบพิเศษ โดยไม่มีการประมูลเพราะต้องการให้สนามบินเสร็จทันตามกำหนดเวลา แต่วันนี้คำกล่าวอ้างนั้นไม่มีน้ำหนัก เพราะในทางกับกันคือการจัดจ้างแบบวิธีพิเศษ ตกเป็นเครื่องมือให้นักการเมืองได้แสวงหาผลประโยชน์ในโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ และตนเชื่อว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้สนามบินเสร็จล่าช้า เพราะมีผลประโยชน์ขัดกันและในบางกรณีก็มีการเรียกสินบนมากจนเกินไป ทำให้ผู้รับเหมาเกิดการขาดทุน วันนี้ตนจึงอยากเรียกร้องความรับผิดชอบกับรมว.คมนาคม และนายกฯ ว่าจะรับผิดชอบความล่าช้านี้อย่างไร
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เพื่อความกระจ่างชัดในเรื่องนี้ พรรคประชาธิปัตย์มีแนวความคิดว่าควรเชิญชวนรัฐบาลจัดเวที ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์แพร่ภาพไปทั่วประเทศ เพื่อให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ มาออกอากาศพร้อมกันกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่า ใครคือผู้ไม่มีความรับผิดชอบ เกี่ยวกับการทุจริตการให้สินบนกรณีเครื่องตรวจวัตถระเบิด CTX 9000 และใครคือผู้พย่ายามบิดเบือนสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชนสับสน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 31 ก.ค. 2548--จบ--
ประเด็นที่ 1 กรณีที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม และนายสุทิน คลังแสง รองโฆษกพรรคไทยรักไทย ออกมาสัมภาษณ์ว่าให้พรรคประชาธิปัตย์ ว่าให้รับผิดชอบในสิ่งที่อภิปรายฯ โดยอ้างว่าเครื่องซีทีเอ็กซ์ 2 เครื่อง มาถึงประเทศไทยแล้ว ตนเห็นว่ารัฐบาลพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะประเด็นหลักในการตรวจสอบคือมีการทุจริตเกิดขึ้นในกระบวนการจัดซื้อจริงหรือไม่ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ได้ตั้งคำถามในการอภิปรายฯถามนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าทำไมบทม.เร่งรีบในการจ่ายเงินออกไป 1,700ล้านบาท ทั้งที่ยังไม่มีสินค้า คือเครื่องซีทีเอ็กซ์มาถึงประเทศไทยแม้แต่เครื่องเดียว และถ้าเป็นไปตามสัญญาเดิม วันนี้ก็คงยังไม่มีเครื่องซีทีเอ็กซ์แน่นอน ซึ่งภายใต้สถานการณ์ขณะนั้น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้บริหารราชการบกพร่อง จึงต้องมีการเปลี่ยนสัญญาใหม่มาเป็นการซื้อตรง จึงได้ซีทีเอ็กซ์มา แทนที่ รมว.คมนาคม จะรู้สึกผิดที่ทำให้ประเทศชาติเกือบสูญเสียผลประโยชน์มหาศาล รมว.คมนาคมกลับไม่รู้สึกและยังให้สัมภาษณ์เยาะเย้ยพรรคประชาธิปัตย์ และส่งลิ่วล้อออกมาตอบโต้ แสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะ ที่แท้จริงของรมว.คมนาคม ว่านอกจากจะพูดไม่เป็น ยังคิดไม่เป็น
ประเด็นที่ 2 คือประเด็นที่ รมว. คมนาคม ชี้แจงว่าส่วนต่างเหล่านั้น เกิดจากการนำเข้าเครื่องซีทีเอ็กซ์ และอ้างว่ามีค่าภาษี ค่าขนส่ง โดยกล่าวอ้างว่าฝ่ายค้านเอาตัวเลขซื้อขายมาจากเมืองนอกที่ยังไม่รวมภาษีและค่าขนส่ง แล้วมาบอกว่ามีส่วนต่าง ตรงนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่านายสุริยะอ่านโพยทั้งในและนอกสภา
ประเด็นที่ 3 คือกรณีรมว.คมนาคมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน กับคำถามที่ว่าเมื่อมีการซื้อตรงแล้วทำไมราคาไม่ลดลง โดยรมว.คมนาคม ตอบว่า เป็นเพราะกระทรวงยุติธรมม สหรัฐฯ เป็นผู้บอกให้ซื้อขายตรง เฉพาะเอกสาร แต่ในความจริงใช้สัญญาเดิม และกิจการร่วมค้าไอทีโอยังต้องรับผิดชอบทั้งหมดเหมือนเดิม จึงเป็นเรื่องที่น่าตกใจเพราะวัตถุประสงค์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯไม่ต้องการให้การจ่ายสินบนเกิดขึ้น จึงต้องบังคับให้มีการทำสัญญาซื้อชายตรง เฉพาะกับหน่วยงานของรัฐ แต่รัฐบาลไทยกลับทำสัญญาขายตรงในแง่ของเอกสารเท่านั้น เท่ากับเป็นการยอมรับอย่างเป็นทางการว่ามีนิติกรรมอำพรางเกิดขึ้น ซึ่งให้บทม.ทำหน้าที่เป็นเพียงหน้าเสื่อ คือไปลงนามในสัญญาซื้อตรงกับบริษัท จีอีอินวิชั่น แต่การติดตั้ง รับผิดชอบ เป็นของไอทีโอ ซึ่งต้องทำตามสัญญาที่มีกับแพทธิออท กล่าวคือแพทธิออท ยังมีหน้าที่ติดตั้งเครื่องตรวจระเบิดดังกล่าว ทำให้เห็นได้ชัดว่าคนที่กินสินบนไปแล้ว จะไม่มีทางยอมคายออกมาเด็ดขาด ฉะนั้นการกระทำของรมว.คมนาคมนอกจากจะเป็นการหลอกลวงกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯแล้วยังหรอกคนไทยทั้งประเทศด้วย
ประเด็นที่ 4 กรณีสนามบินสุสรรรภูมเสร็จไม่ทันตามกำหนด ตนอยากจะเตือน รมว.คมนาคมว่า เคยให้สัมภาษณ์ว่าการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิจะเสร็จทันกำหนดแน่นอน แต่จะเปิดบริการได้ตามกำหนดหรือไม่นั้น จะต้องได้รับความปลอดภัยจากองค์กรการบินระหว่างประเทศ และมีการชี้แจงในสภาผู้แทนฯกรณีไม่เปิดประมูลเครื่องตรวจวัตถุระเบิด เพราะต้องการให้สนามบินเสร็จเร็วขึ้น 1 วันชาติได้ประโยชน์เป็นเงิน...บาท
ข้อเท็จจริงวันนี้สนามบินสุวรรณภูมิไม่สามารถใช้งานได้เพราะสร้างไม่เสร็จ ไม่ใช่เรื่องที่องค์กรการบินระหว่างประเทศไม่มารับรอง เพราะฉะนั้นสิ่งที่รัฐบาลพูดมาเสมอว่าต้องมีการจัดจ้างแบบพิเศษ โดยไม่มีการประมูลเพราะต้องการให้สนามบินเสร็จทันตามกำหนดเวลา แต่วันนี้คำกล่าวอ้างนั้นไม่มีน้ำหนัก เพราะในทางกับกันคือการจัดจ้างแบบวิธีพิเศษ ตกเป็นเครื่องมือให้นักการเมืองได้แสวงหาผลประโยชน์ในโครงการสนามบินสุวรรณภูมิ และตนเชื่อว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้สนามบินเสร็จล่าช้า เพราะมีผลประโยชน์ขัดกันและในบางกรณีก็มีการเรียกสินบนมากจนเกินไป ทำให้ผู้รับเหมาเกิดการขาดทุน วันนี้ตนจึงอยากเรียกร้องความรับผิดชอบกับรมว.คมนาคม และนายกฯ ว่าจะรับผิดชอบความล่าช้านี้อย่างไร
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เพื่อความกระจ่างชัดในเรื่องนี้ พรรคประชาธิปัตย์มีแนวความคิดว่าควรเชิญชวนรัฐบาลจัดเวที ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์แพร่ภาพไปทั่วประเทศ เพื่อให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ มาออกอากาศพร้อมกันกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่า ใครคือผู้ไม่มีความรับผิดชอบ เกี่ยวกับการทุจริตการให้สินบนกรณีเครื่องตรวจวัตถระเบิด CTX 9000 และใครคือผู้พย่ายามบิดเบือนสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชนสับสน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 31 ก.ค. 2548--จบ--