แท็ก
ร้านอาหารไทย
เนื่องจากจีนเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรมากถึง 1,300 ล้านคน และส่วนมากจะใช้จ่ายเงินเพื่อการบริโภคอาหารในสัดส่วนค่อนข้างสูง โดยเฉพาะชาวจีนในเมืองใหญ่ที่มีค่าใช้จ่ายด้านอาหารขยายตัวเฉลี่ยประมาณร้อยละ 4.3 ต่อคนต่อปี นอกจากนี้ กำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวจีนเริ่มนิยมซื้ออาหารจากร้านค้าปลีกและรับประทานอาหารนอกบ้านเพิ่มขึ้น จากปัจจัยสนับสนุนดังกล่าวทำให้จีนเป็นตลาดที่ได้รับความสนใจจากผู้ผลิตอาหารทั่วโลกและผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารชาติต่างๆ รวมทั้งร้านอาหารไทย
ข้อมูลเบื้องต้นที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารไทยที่สนใจเข้าไปลงทุนในจีนมีดังนี้
กลุ่มลูกค้า ลูกค้าที่นิยมรับประทานอาหารไทยมี 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มที่มีรายได้สูงและอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ กลุ่มวัยรุ่นที่นิยมรับประทานอาหารของชาติต่างๆ รวมทั้งอาหารไทย และกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมทั้งชาวตะวันตกที่ทำงานในจีนซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 30-40 ของลูกค้าร้านอาหารไทยทั้งหมด
ทำเลที่ตั้ง ประมาณร้อยละ 50 ของร้านอาหารไทยในจีนจะตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่งและปริมณฑลโดยรอบ โดยเฉพาะในย่านธุรกิจและบริเวณที่ทำการขององค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งในปี 2547 มีร้านอาหารไทยในจีนประมาณ 50 แห่ง
คู่แข่ง ได้แก่ อาหารจากชาติตะวันตก อาทิ อาหารฝรั่งเศส เยอรมัน อเมริกัน อิตาเลียน เม็กซิกัน และบราซิลเลียน อาหารจากชาติเอเชียด้วยกัน อาทิ อาหารอินเดีย เกาหลี และเวียดนาม รวมทั้งอาหารท้องถิ่นประเภทสุกี้ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในจีนโดยเฉพาะสุกี้เสฉวนที่มีรสชาติเผ็ดร้อนใกล้เคียงกับอาหารไทย แต่มีราคาถูกกว่ามาก ตลอดจนอาหารจานด่วน อาทิ เบอร์เกอร์และไก่ทอด ซึ่งเป็นที่นิยมของวัยรุ่นจีน
รสนิยมการบริโภค ผู้ประกอบการควรศึกษารสนิยมการบริโภคอาหารของชาวจีนที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่เพื่อปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ดังนี้
- ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนใหญ่นิยมบริโภคขนมปังจากข้าวสาลีและเส้นก๋วยเตี๋ยวมากกว่าข้าว และอาหารที่มีรสเค็มเป็นหลัก สำหรับเมืองที่มีประชากรจากมณฑลอื่นๆ เข้ามาอาศัยอยู่จำนวนมาก อาทิ ปักกิ่ง อาหารที่นิยมบริโภคจะหลากหลาย ทั้งนี้ อาหารที่กำลังได้รับความนิยมในปักกิ่ง ได้แก่ สุกี้ซึ่งมีอาหารทะเลเป็นส่วนประกอบหลัก และบาร์บิคิวที่ทำจากเนื้อหมู เนื้อไก่ และเนื้อวัว
- ภาคตะวันออกไม่นิยมอาหารรสเผ็ดและหวาน สำหรับอาหารต่างชาติมักเป็นที่นิยมในเมืองใหญ่โดยเฉพาะในเซี่ยงไฮ้ที่มีคนหลากหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ร่วมกัน
- ภาคกลางนิยมอาหารรสเผ็ด อาหารที่ทำจากสัตว์น้ำ และอาหารจานด่วน
- ภาคตะวันตกเฉียงใต้ อาทิ มณฑลเสฉวน นิยมอาหารรสเผ็ด อาหารที่ปรุงด้วยพริกและเครื่องเทศ อย่างไรก็ตาม ประชากรในมณฑลเสฉวนและเทศบาลนครฉงชิ่งยังเปิดกว้างสำหรับอาหารชนิดใหม่ๆ และนิยมรับประทานอาหารนอกบ้านเมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้น
- ภาคใต้นิยมบริโภคข้าวและอาหารนำเข้า ไม่นิยมอาหารรสจัด สำหรับเมืองกว่างโจวนิยมอาหารทะเลเนื่องจากเป็นเมืองริมทะเลจึงสามารถหาอาหารทะเลรับประทานได้ง่าย
กฎระเบียบการจัดตั้งร้านอาหารและการนำเข้าพ่อครัว/แม่ครัว แตกต่างกันในแต่ละมณฑล และไม่มีมาตรฐานกลางของประเทศ
ปัญหาและอุปสรรค อาหารไทยยังไม่เป็นที่แพร่หลายในจีนมากนักเนื่องจากมีราคาแพงเพราะต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบ นอกจากนี้ กว่าร้อยละ 70 ของร้านอาหารไทยในจีนมีเจ้าของเป็นคนจีนประกอบกับมีพ่อครัว/แม่ครัวที่ไม่ใช่คนไทยส่งผลให้ส่วนประกอบและรสชาติของอาหารอาจผิดเพี้ยนไปรวมทั้งมีการจำหน่ายปะปนกับอาหารชาติอื่นๆ
แม้ว่าการตั้งร้านอาหารไทยในจีนจะยังมีปัญหาและอุปสรรคซึ่งเป็นสิ่งที่ภาครัฐกำลังเร่งแก้ไขปัญหาอยู่นั้น แต่จากรูปแบบการดำเนินชีวิตที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ประกอบกับครอบครัวชาวจีนมีขนาดเล็กลง ตลอดจนมีการเข้ามาลงทุนของร้านอาหารและซูเปอร์มาร์เกตต่างชาติอย่างต่อเนื่องทำให้ชาวจีนเปิดรับอาหารต่างชาติมากขึ้น อีกทั้งการที่ชาวจีนยุคใหม่นิยมบริโภคอาหารรสจัดและมีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบซึ่งสอดคล้องกับลักษณะของอาหารไทย ทำให้ธุรกิจร้านอาหารไทยมีแนวโน้มสดใสท่ามกลางความหลากหลายของวัฒนธรรมการบริโภคของชาวจีนในปัจจุบัน
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย มีนาคม 2548--
-พห-
ข้อมูลเบื้องต้นที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารไทยที่สนใจเข้าไปลงทุนในจีนมีดังนี้
กลุ่มลูกค้า ลูกค้าที่นิยมรับประทานอาหารไทยมี 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มที่มีรายได้สูงและอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ กลุ่มวัยรุ่นที่นิยมรับประทานอาหารของชาติต่างๆ รวมทั้งอาหารไทย และกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมทั้งชาวตะวันตกที่ทำงานในจีนซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 30-40 ของลูกค้าร้านอาหารไทยทั้งหมด
ทำเลที่ตั้ง ประมาณร้อยละ 50 ของร้านอาหารไทยในจีนจะตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่งและปริมณฑลโดยรอบ โดยเฉพาะในย่านธุรกิจและบริเวณที่ทำการขององค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งในปี 2547 มีร้านอาหารไทยในจีนประมาณ 50 แห่ง
คู่แข่ง ได้แก่ อาหารจากชาติตะวันตก อาทิ อาหารฝรั่งเศส เยอรมัน อเมริกัน อิตาเลียน เม็กซิกัน และบราซิลเลียน อาหารจากชาติเอเชียด้วยกัน อาทิ อาหารอินเดีย เกาหลี และเวียดนาม รวมทั้งอาหารท้องถิ่นประเภทสุกี้ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในจีนโดยเฉพาะสุกี้เสฉวนที่มีรสชาติเผ็ดร้อนใกล้เคียงกับอาหารไทย แต่มีราคาถูกกว่ามาก ตลอดจนอาหารจานด่วน อาทิ เบอร์เกอร์และไก่ทอด ซึ่งเป็นที่นิยมของวัยรุ่นจีน
รสนิยมการบริโภค ผู้ประกอบการควรศึกษารสนิยมการบริโภคอาหารของชาวจีนที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่เพื่อปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ดังนี้
- ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนใหญ่นิยมบริโภคขนมปังจากข้าวสาลีและเส้นก๋วยเตี๋ยวมากกว่าข้าว และอาหารที่มีรสเค็มเป็นหลัก สำหรับเมืองที่มีประชากรจากมณฑลอื่นๆ เข้ามาอาศัยอยู่จำนวนมาก อาทิ ปักกิ่ง อาหารที่นิยมบริโภคจะหลากหลาย ทั้งนี้ อาหารที่กำลังได้รับความนิยมในปักกิ่ง ได้แก่ สุกี้ซึ่งมีอาหารทะเลเป็นส่วนประกอบหลัก และบาร์บิคิวที่ทำจากเนื้อหมู เนื้อไก่ และเนื้อวัว
- ภาคตะวันออกไม่นิยมอาหารรสเผ็ดและหวาน สำหรับอาหารต่างชาติมักเป็นที่นิยมในเมืองใหญ่โดยเฉพาะในเซี่ยงไฮ้ที่มีคนหลากหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ร่วมกัน
- ภาคกลางนิยมอาหารรสเผ็ด อาหารที่ทำจากสัตว์น้ำ และอาหารจานด่วน
- ภาคตะวันตกเฉียงใต้ อาทิ มณฑลเสฉวน นิยมอาหารรสเผ็ด อาหารที่ปรุงด้วยพริกและเครื่องเทศ อย่างไรก็ตาม ประชากรในมณฑลเสฉวนและเทศบาลนครฉงชิ่งยังเปิดกว้างสำหรับอาหารชนิดใหม่ๆ และนิยมรับประทานอาหารนอกบ้านเมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้น
- ภาคใต้นิยมบริโภคข้าวและอาหารนำเข้า ไม่นิยมอาหารรสจัด สำหรับเมืองกว่างโจวนิยมอาหารทะเลเนื่องจากเป็นเมืองริมทะเลจึงสามารถหาอาหารทะเลรับประทานได้ง่าย
กฎระเบียบการจัดตั้งร้านอาหารและการนำเข้าพ่อครัว/แม่ครัว แตกต่างกันในแต่ละมณฑล และไม่มีมาตรฐานกลางของประเทศ
ปัญหาและอุปสรรค อาหารไทยยังไม่เป็นที่แพร่หลายในจีนมากนักเนื่องจากมีราคาแพงเพราะต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบ นอกจากนี้ กว่าร้อยละ 70 ของร้านอาหารไทยในจีนมีเจ้าของเป็นคนจีนประกอบกับมีพ่อครัว/แม่ครัวที่ไม่ใช่คนไทยส่งผลให้ส่วนประกอบและรสชาติของอาหารอาจผิดเพี้ยนไปรวมทั้งมีการจำหน่ายปะปนกับอาหารชาติอื่นๆ
แม้ว่าการตั้งร้านอาหารไทยในจีนจะยังมีปัญหาและอุปสรรคซึ่งเป็นสิ่งที่ภาครัฐกำลังเร่งแก้ไขปัญหาอยู่นั้น แต่จากรูปแบบการดำเนินชีวิตที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ประกอบกับครอบครัวชาวจีนมีขนาดเล็กลง ตลอดจนมีการเข้ามาลงทุนของร้านอาหารและซูเปอร์มาร์เกตต่างชาติอย่างต่อเนื่องทำให้ชาวจีนเปิดรับอาหารต่างชาติมากขึ้น อีกทั้งการที่ชาวจีนยุคใหม่นิยมบริโภคอาหารรสจัดและมีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบซึ่งสอดคล้องกับลักษณะของอาหารไทย ทำให้ธุรกิจร้านอาหารไทยมีแนวโน้มสดใสท่ามกลางความหลากหลายของวัฒนธรรมการบริโภคของชาวจีนในปัจจุบัน
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย มีนาคม 2548--
-พห-