วันนี้(13 ก.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแถลงถึงกรณีที่มีผู้ร้องเรียนเรื่องน้องสาวนายกฯ(นางเยาวเรศ ชินวัตร )และพวกได้เรียกร้องค่าสินบน 300 ล้านบาท จากบริษัทลัทธ์ เฟอร์ ไทย จำกัด ในการวิ่งเต้นโครงการคาร์ปาร์ค มูลค่า1,200ล้าน พร้อมสัมปทาน 25 ปีของสนามบินสุวรรณภูมิว่า วันนี้ตนได้นำหนังสือร้องเรียนดังกล่าวมาเปิดเผย เป็นหนังสื่อที่ได้ส่งไปที่ตู้รับเรื่องราวร้องทุกข์ของนายกฯ เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2548 เรื่องขอความเป็นธรรมโดยหนังสือดังกล่าวนั้น ได้ระบุถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องประมาณ 8 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่มที่1 คือกลุ่มของส.ส. พรรครัฐบาล กลุ่มที่ 2 กลุ่มน้องสาวนายกฯ โดยมีการทำหนังสือข้อตกลงค่าวิ่งเต้น 300 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 2 งวด งวดแรกจ่ายวันที่ 1 ส.ค. 48 และงวดที่ 2 จ่ายวันที่ 5 ก.ย. 48 รวมเป็นวงเงิน 25 ล้านบาท ส่วนงวดสุดท้ายจะจ่ายเมื่องานสำเร็จแต่เนื่องจากงานดังกล่าวมีปัญหา เพราะฉะนั้นจึงมีการเรียกเงินค่ามัดจำคืน แต่ว่าไม่ได้รับการตอบสนอง จนในที่สุดจึงมีการร้องเรียนกับนายกฯ
เนื้อหาในจดหมายส่วนหนึ่งได้ระบุพฤติกรรมบางส่วนว่านางเยาวเรศ ได้แนะนำให้บริษัทดังกล่าวเพิ่มทุนเป็น 500 ล้านบาท เพราะว่าการประมูลดังกล่าวต้องมีทุนจดทะเบียนเป็นจำนวนที่สูง ซึ่งตนได้ตรวจสอบว่าบางส่วนของหนังสือร้องเรียนมีข้อเท็จจริงหรือไม่อย่างไร ปรากฎว่าจากหนังสือรับรองและบริคนสนธิของบริษัทลัทธ์ เฟอร์ ไทย จำกัด ได้มีการเพิ่มทุนเป็น 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจว่าการเพิ่มทุนนั้นเกิดขึ้นภายในเวลา ไม่ถึง 1 เดือน
ส่วนกรณีที่นางเยาวเรศ ออกมาให้สัมภาษณ์ปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องกับเรื่องดังกล่าว ตนขอให้นางเยาวเรศจำคำพูดที่พูดกับสาธารณชนให้ดี และที่สำคัญนายกฯต้องตอบคำถามสังคมให้ได้กับกรณีดังกล่าวนี้ว่า 1.ได้มีการตรวจสอบเรื่องนี้แล้วหรือไม่อย่างไร 2. ได้ดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับผู้ร้องเรียนหรือไม่ และ 3.ได้สอบสวนหาผู้กระทำความผิดหรือยัง ซึ่งกรณีนี้ตนเห็นว่านายกฯต้องแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหาโดยเฉพาะการแก้ปัญหาการป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่ได้ประกาศไว้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 13 ก.ค. 2548--จบ--
เนื้อหาในจดหมายส่วนหนึ่งได้ระบุพฤติกรรมบางส่วนว่านางเยาวเรศ ได้แนะนำให้บริษัทดังกล่าวเพิ่มทุนเป็น 500 ล้านบาท เพราะว่าการประมูลดังกล่าวต้องมีทุนจดทะเบียนเป็นจำนวนที่สูง ซึ่งตนได้ตรวจสอบว่าบางส่วนของหนังสือร้องเรียนมีข้อเท็จจริงหรือไม่อย่างไร ปรากฎว่าจากหนังสือรับรองและบริคนสนธิของบริษัทลัทธ์ เฟอร์ ไทย จำกัด ได้มีการเพิ่มทุนเป็น 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจว่าการเพิ่มทุนนั้นเกิดขึ้นภายในเวลา ไม่ถึง 1 เดือน
ส่วนกรณีที่นางเยาวเรศ ออกมาให้สัมภาษณ์ปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องกับเรื่องดังกล่าว ตนขอให้นางเยาวเรศจำคำพูดที่พูดกับสาธารณชนให้ดี และที่สำคัญนายกฯต้องตอบคำถามสังคมให้ได้กับกรณีดังกล่าวนี้ว่า 1.ได้มีการตรวจสอบเรื่องนี้แล้วหรือไม่อย่างไร 2. ได้ดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับผู้ร้องเรียนหรือไม่ และ 3.ได้สอบสวนหาผู้กระทำความผิดหรือยัง ซึ่งกรณีนี้ตนเห็นว่านายกฯต้องแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหาโดยเฉพาะการแก้ปัญหาการป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่ได้ประกาศไว้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 13 ก.ค. 2548--จบ--