โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ‘องอาจ คล้ามไพบูลย์’ แถลง มติที่ประชุมส.ส. ‘ไม่รับหลักการ พรก.ฉุกเฉิน’ พร้อมระบุ ขณะนี้เตรียมผู้อภิปรายพร้อมแล้ว สะกิดรัฐบาล ‘ทบทวนข้อเสนอของพรรคประชาธิปัตย์’ อีกครั้ง
วันนี้ (23 ส.ค.48) เวลา 16.40น. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์โดยในที่ประชุมได้หารือถึงกรณีที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรกของสมัยสามัญนิติบัญญัติวันพรุ่งนี้(24 ส.ค.48) จะมีการนำพระราชกำหนดระเบียบบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาอภิปรายว่า ที่ประชุมส.ส.ของพรรคได้แสดงความเห็นอย่างกว้างขวางถึงพรก.ฉบับดังกล่าว ซึ่งที่ประชุมได้มีมติว่าจะไม่รับหลักการของพรก.ฉบับนี้ และจะมีการอภิปรายถึงสาเหตุของการไม่รับหลักการพรก.ด้วย
นายองอาจกล่าวว่า ในการอภิปรายวันพรุ่งนี้ พรรคฯจะเปิดโอกาสให้ส.ส.ใช้สิทธิในการอภิปรายได้อย่างเต็มที่ โดยขณะนี้มีส.ส.แสดงความจำนงที่จะอภิปรายแล้วจำนวน 10 — 15 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นส.ส.ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนั้นจะมีนักกฎหมายของพรรคฯ อภิปรายถึงเหตุผลและจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ในพรก.ฉบับดังกล่าว สำหรับในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้าน คือพรรคชาติไทย ก็มีมติที่จะไม่รับหลักการของพรก.ฉบับนี้เช่นเดียวกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุหลักในการไม่รับพรก.ฉบับดังกล่าว โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ความรุนแรงใน 3 จังหวัดภาคใต้ที่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้รัฐบาลออกพระราชกำหนดฉบับนี้ขึ้นมานั้น พรรคประชาธิปัตย์มองว่า 1. ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะกฎหมายมีไม่เพียงพอ แต่รัฐบาลไม่มีแนวทางที่ถูกต้องในการแก้ปัญหา ดังนั้นการออกพระราชกำหนดฉบับนี้ขึ้นมาก็ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง เพราะรัฐบาลมองปัญหาอย่างผิดพลาดมาโดยตลอด 2.พระราชกำหนดฉบับนี้มีหลายมาตราที่ให้อำนาจกับผู้ปฏิบัติมาจนเกินขอบเขต ซึ่งการใช้อำนาจดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้ ทั้งนี้ตนก็ขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้ความรุนแรงในภาคใต้ยุติลงโดยเร็ว
‘อยากให้รัฐบาลหวนกลับมาพิจารณาประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอ อย่างรอบคอบ โดยเฉพาะที่พรรคฯได้เสนอให้ตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษขึ้นมาดูแล และปรับปรุงแก้ไขกฎหมายฉบับนี้เมื่อออกมาบังคับใช้เป็นกฎหมายแล้ว ผมคิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่สวยที่สุด เหมาะสมที่สุดแล้ว เพราะกฎหมายจะสมบูรณ์ที่สุดก็ควรจะให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้มามีส่วนในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายฉบับนี้’ นายองอาจกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 23 ส.ค. 2548--จบ--
วันนี้ (23 ส.ค.48) เวลา 16.40น. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์โดยในที่ประชุมได้หารือถึงกรณีที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรกของสมัยสามัญนิติบัญญัติวันพรุ่งนี้(24 ส.ค.48) จะมีการนำพระราชกำหนดระเบียบบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาอภิปรายว่า ที่ประชุมส.ส.ของพรรคได้แสดงความเห็นอย่างกว้างขวางถึงพรก.ฉบับดังกล่าว ซึ่งที่ประชุมได้มีมติว่าจะไม่รับหลักการของพรก.ฉบับนี้ และจะมีการอภิปรายถึงสาเหตุของการไม่รับหลักการพรก.ด้วย
นายองอาจกล่าวว่า ในการอภิปรายวันพรุ่งนี้ พรรคฯจะเปิดโอกาสให้ส.ส.ใช้สิทธิในการอภิปรายได้อย่างเต็มที่ โดยขณะนี้มีส.ส.แสดงความจำนงที่จะอภิปรายแล้วจำนวน 10 — 15 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นส.ส.ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนั้นจะมีนักกฎหมายของพรรคฯ อภิปรายถึงเหตุผลและจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ในพรก.ฉบับดังกล่าว สำหรับในส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้าน คือพรรคชาติไทย ก็มีมติที่จะไม่รับหลักการของพรก.ฉบับนี้เช่นเดียวกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุหลักในการไม่รับพรก.ฉบับดังกล่าว โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ความรุนแรงใน 3 จังหวัดภาคใต้ที่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้รัฐบาลออกพระราชกำหนดฉบับนี้ขึ้นมานั้น พรรคประชาธิปัตย์มองว่า 1. ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะกฎหมายมีไม่เพียงพอ แต่รัฐบาลไม่มีแนวทางที่ถูกต้องในการแก้ปัญหา ดังนั้นการออกพระราชกำหนดฉบับนี้ขึ้นมาก็ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง เพราะรัฐบาลมองปัญหาอย่างผิดพลาดมาโดยตลอด 2.พระราชกำหนดฉบับนี้มีหลายมาตราที่ให้อำนาจกับผู้ปฏิบัติมาจนเกินขอบเขต ซึ่งการใช้อำนาจดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้ ทั้งนี้ตนก็ขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้ความรุนแรงในภาคใต้ยุติลงโดยเร็ว
‘อยากให้รัฐบาลหวนกลับมาพิจารณาประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอ อย่างรอบคอบ โดยเฉพาะที่พรรคฯได้เสนอให้ตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษขึ้นมาดูแล และปรับปรุงแก้ไขกฎหมายฉบับนี้เมื่อออกมาบังคับใช้เป็นกฎหมายแล้ว ผมคิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่สวยที่สุด เหมาะสมที่สุดแล้ว เพราะกฎหมายจะสมบูรณ์ที่สุดก็ควรจะให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้มามีส่วนในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายฉบับนี้’ นายองอาจกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 23 ส.ค. 2548--จบ--