กรุงเทพ--19 ก.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพฯ 13 กันยายน 2548 -- ประเทศไทยเปิดตลาดการค้าและให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุดคิดเป็นร้อยละของรายได้สูงกว่าหลายๆประเทศในยุโรป ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาของไทยส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดให้กับประเทศเพื่อนบ้านที่มีระดับรายได้ต่ำกว่า ในขณะที่ประเทศมั่งคั่งให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศที่ยากจนที่สุดของโลกโดยเฉลี่ยเพียงหนึ่งในสามของความช่วยเหลือทั้งหมดของตน
ดร. ประชา คุณะเกษม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า “รายงานฉบับนี้ ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไทยยืนยันในเจตจำนงและความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ในการส่งเสริมการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในประชาคมโลก เพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ ตามที่ปรากฏในปฏิญญาแห่งสหัสวรรษ ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก”
รายงานผลตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ เป้าหมายที่ 8 ของประเทศไทยที่มีชื่อว่า “การเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในประชาคมโลก: การมีส่วนสนับสนุนของประเทศไทยต่อเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ เป้าหมายที่ 8” ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังมีบทบาทสำคัญเพิ่มมากยิ่งขึ้นในการให้ความความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ โดยเป้าหมายที่ 8 เป็นเป้าหมายที่เรียกร้องให้กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วเพิ่มความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนา บรรเทาปัญหาหนี้สิน และเปิดตลาดให้แก่ประเทศยากจน
รายงานฉบับนี้ซึ่งจัดพิมพ์เผยแพร่ในวันก่อนการประชุมสุดยอดของโลก (World Summit 2005) ที่นครนิวยอร์ก ระหว่างวันที่ 14 - 16 กันยายน 2548 ทำให้ไทยกลายเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีรายได้ปานกลางประเทศแรกที่จัดทำรายงานผลตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ เป้าหมายที่ 8 เช่นเดียวกับประเทศสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) รายงานนี้แสดงให้เห็นบทบาทของไทยในการสนับสนุนการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในประชาคมโลก ดังต่อไปนี้
? ไทยเป็นประเทศผู้ให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาที่สำคัญแก่ประเทศเพื่อนบ้านที่พัฒนาน้อยที่สุด โดยปริมาณความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาทางการ (ODA) ของไทยในปี 2546 คิดเป็นร้อยละ 0.13 ของรายได้มวลรวมประชาชาติ ซึ่งใกล้เคียงกับญี่ปุ่น (ร้อยละ 0.20) อิตาลี (ร้อยละ 0.17) และ สหรัฐอเมริกา (ร้อยละ 0.15) ประเทศในกลุ่ม OECD ให้ ODA โดยเฉลี่ยแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุดคิดเป็นร้อยละ 33 ของ ODA ทั้งหมด แต่ไทยให้ ODA แก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุดมากถึงร้อยละ 93 ของ ODA ทั้งหมดของไทย ดังนั้น สัดส่วนความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาของไทยที่ให้แก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุดจึงสูงกว่าหลายๆ ประเทศในกลุ่ม OECD
? การเปิดตลาดการค้า สำหรับสินค้านำเข้าจากประเทศพัฒนาน้อยที่สุด เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการพัฒนาคนในประเทศเหล่านั้น เช่น การนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้าน สินค้าขั้นปฐม ไฟฟ้า และก๊าซธรรมชาติ
? ในบรรดาประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายในภูมิภาคเอเชีย ไทยให้สิทธิพิเศษทางการค้าแก่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าต่ำที่สุด ทำให้การนำเข้าสินค้าของไทยจากประเทศพัฒนาน้อยที่สุดมีมากกว่าร้อยละ 3 ของสินค้าทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าประเทศกำลังพัฒนาที่มีรายได้ปานกลางอื่น ๆและสูงกว่าประเทศใดๆในกลุ่ม OECD
? การลงทุนโดยตรงจากไทยในด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในลาว กัมพูชา พม่า และ มัลดีฟส์ การลงทุนโดยตรงของไทยมีส่วนเอื้ออำนวยต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ และมีความหลากหลายสาขา เช่น การลงทุนในภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ซึ่งช่วยสร้างรายได้และส่งเสริมการจ้างงานในประเทศผู้รับเหล่านั้น
? ภายใตันโยบาย forward engagement ประเทศไทยได้มีบทบาทนำภายใต้กรอบความร่วมมือเพื่อการพัฒนาและการค้าในระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาค เพื่อลดความไม่เสมอภาคทางเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาค ในปัจจุบันไทยกำลังดำเนินนโยบาย “Look West” เพื่อส่งเสริมและขยายความร่วมมือไปยังเอเซียใต้และแอฟริกา
นางโจอันนา เมอริน-โชเทซ ผู้ประสานงานสำนักงานองค์การสหประชาชาติในประเทศไทยและผู้แทน UNDP กล่าวว่า “รายงานฉบับนี้แสดงให้เห็นว่าความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาไม่ใช่เป็นเพียงประเทศที่ร่ำรวยช่วยเหลือประเทศที่ยากจนเท่านั้น แต่ครอบคลุมถึงการช่วยเหลือระหว่างประเทศกำลังพัฒนาด้วยกันเอง”
เมื่อมองไปข้างหน้า ประเทศไทยมีโอกาสอันดียิ่งในการเรียนรู้ความสำเร็จและความล้มเหลวจากประสบการณ์ด้านการพัฒนา โดยนำเอาประสบการณ์ของโครงการตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จและมุมมองต่างๆ จากประเทศในกลุ่ม OECD ปรับใช้ในลักษณะ “ก้าวกระโดด” ในการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาแก่ประเทศทั้งในและนอกภูมิภาคต่อไป
รายงานดังกล่าวยังเสนอให้ขยายการให้ ODA ของประเทศไทยมากยิ่งขึ้นในภาคสังคม เช่น สุขอนามัย การศึกษา การพัฒนาชุมชน และการลดความยากจน
รายงานฉบับนี้เป็นรายงานที่จัดทำร่วมกันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศและ United Nations Country Team in Thailand โดยมีจุดมุ่งหมายให้รายงานฉบับดังกล่าวนี้เป็นประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนความเห็นด้านนโยบาย เพื่อกำหนดทิศทางความร่วมมือเพื่อการพัฒนากับประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดทั้งในและนอกภูมิภาค และเป็นแบบอย่างให้ประเทศกำลังพัฒนาที่มีรายได้ปานกลางอื่นๆ ในการสนับสนุนการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในประชาคมโลกตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ เป้าหมายที่ 8 ต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
กระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพฯ 13 กันยายน 2548 -- ประเทศไทยเปิดตลาดการค้าและให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุดคิดเป็นร้อยละของรายได้สูงกว่าหลายๆประเทศในยุโรป ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาของไทยส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดให้กับประเทศเพื่อนบ้านที่มีระดับรายได้ต่ำกว่า ในขณะที่ประเทศมั่งคั่งให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศที่ยากจนที่สุดของโลกโดยเฉลี่ยเพียงหนึ่งในสามของความช่วยเหลือทั้งหมดของตน
ดร. ประชา คุณะเกษม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า “รายงานฉบับนี้ ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไทยยืนยันในเจตจำนงและความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ในการส่งเสริมการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในประชาคมโลก เพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ ตามที่ปรากฏในปฏิญญาแห่งสหัสวรรษ ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก”
รายงานผลตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ เป้าหมายที่ 8 ของประเทศไทยที่มีชื่อว่า “การเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในประชาคมโลก: การมีส่วนสนับสนุนของประเทศไทยต่อเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ เป้าหมายที่ 8” ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังมีบทบาทสำคัญเพิ่มมากยิ่งขึ้นในการให้ความความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ โดยเป้าหมายที่ 8 เป็นเป้าหมายที่เรียกร้องให้กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วเพิ่มความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนา บรรเทาปัญหาหนี้สิน และเปิดตลาดให้แก่ประเทศยากจน
รายงานฉบับนี้ซึ่งจัดพิมพ์เผยแพร่ในวันก่อนการประชุมสุดยอดของโลก (World Summit 2005) ที่นครนิวยอร์ก ระหว่างวันที่ 14 - 16 กันยายน 2548 ทำให้ไทยกลายเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีรายได้ปานกลางประเทศแรกที่จัดทำรายงานผลตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ เป้าหมายที่ 8 เช่นเดียวกับประเทศสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) รายงานนี้แสดงให้เห็นบทบาทของไทยในการสนับสนุนการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในประชาคมโลก ดังต่อไปนี้
? ไทยเป็นประเทศผู้ให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาที่สำคัญแก่ประเทศเพื่อนบ้านที่พัฒนาน้อยที่สุด โดยปริมาณความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาทางการ (ODA) ของไทยในปี 2546 คิดเป็นร้อยละ 0.13 ของรายได้มวลรวมประชาชาติ ซึ่งใกล้เคียงกับญี่ปุ่น (ร้อยละ 0.20) อิตาลี (ร้อยละ 0.17) และ สหรัฐอเมริกา (ร้อยละ 0.15) ประเทศในกลุ่ม OECD ให้ ODA โดยเฉลี่ยแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุดคิดเป็นร้อยละ 33 ของ ODA ทั้งหมด แต่ไทยให้ ODA แก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุดมากถึงร้อยละ 93 ของ ODA ทั้งหมดของไทย ดังนั้น สัดส่วนความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาของไทยที่ให้แก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุดจึงสูงกว่าหลายๆ ประเทศในกลุ่ม OECD
? การเปิดตลาดการค้า สำหรับสินค้านำเข้าจากประเทศพัฒนาน้อยที่สุด เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการพัฒนาคนในประเทศเหล่านั้น เช่น การนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้าน สินค้าขั้นปฐม ไฟฟ้า และก๊าซธรรมชาติ
? ในบรรดาประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายในภูมิภาคเอเชีย ไทยให้สิทธิพิเศษทางการค้าแก่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าต่ำที่สุด ทำให้การนำเข้าสินค้าของไทยจากประเทศพัฒนาน้อยที่สุดมีมากกว่าร้อยละ 3 ของสินค้าทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าประเทศกำลังพัฒนาที่มีรายได้ปานกลางอื่น ๆและสูงกว่าประเทศใดๆในกลุ่ม OECD
? การลงทุนโดยตรงจากไทยในด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในลาว กัมพูชา พม่า และ มัลดีฟส์ การลงทุนโดยตรงของไทยมีส่วนเอื้ออำนวยต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ และมีความหลากหลายสาขา เช่น การลงทุนในภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ซึ่งช่วยสร้างรายได้และส่งเสริมการจ้างงานในประเทศผู้รับเหล่านั้น
? ภายใตันโยบาย forward engagement ประเทศไทยได้มีบทบาทนำภายใต้กรอบความร่วมมือเพื่อการพัฒนาและการค้าในระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาค เพื่อลดความไม่เสมอภาคทางเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาค ในปัจจุบันไทยกำลังดำเนินนโยบาย “Look West” เพื่อส่งเสริมและขยายความร่วมมือไปยังเอเซียใต้และแอฟริกา
นางโจอันนา เมอริน-โชเทซ ผู้ประสานงานสำนักงานองค์การสหประชาชาติในประเทศไทยและผู้แทน UNDP กล่าวว่า “รายงานฉบับนี้แสดงให้เห็นว่าความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาไม่ใช่เป็นเพียงประเทศที่ร่ำรวยช่วยเหลือประเทศที่ยากจนเท่านั้น แต่ครอบคลุมถึงการช่วยเหลือระหว่างประเทศกำลังพัฒนาด้วยกันเอง”
เมื่อมองไปข้างหน้า ประเทศไทยมีโอกาสอันดียิ่งในการเรียนรู้ความสำเร็จและความล้มเหลวจากประสบการณ์ด้านการพัฒนา โดยนำเอาประสบการณ์ของโครงการตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จและมุมมองต่างๆ จากประเทศในกลุ่ม OECD ปรับใช้ในลักษณะ “ก้าวกระโดด” ในการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาแก่ประเทศทั้งในและนอกภูมิภาคต่อไป
รายงานดังกล่าวยังเสนอให้ขยายการให้ ODA ของประเทศไทยมากยิ่งขึ้นในภาคสังคม เช่น สุขอนามัย การศึกษา การพัฒนาชุมชน และการลดความยากจน
รายงานฉบับนี้เป็นรายงานที่จัดทำร่วมกันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศและ United Nations Country Team in Thailand โดยมีจุดมุ่งหมายให้รายงานฉบับดังกล่าวนี้เป็นประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนความเห็นด้านนโยบาย เพื่อกำหนดทิศทางความร่วมมือเพื่อการพัฒนากับประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดทั้งในและนอกภูมิภาค และเป็นแบบอย่างให้ประเทศกำลังพัฒนาที่มีรายได้ปานกลางอื่นๆ ในการสนับสนุนการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในประชาคมโลกตามเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ เป้าหมายที่ 8 ต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-