สำหรับแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจโลกในปี 2548 ต้องจับตาเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดกับสถานการณ์การก่อการร้ายในภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งอาจทำลายบ่อน้ำมัน ทำให้ราคาน้ำมันอาจปรับตัวสูงขึ้นอย่างไม่คาดคิดจนเกิดภาวะวิกฤตได้ อัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง รวมทั้งเศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจหลักที่สำคัญ ได้แก่ เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่ปัญหาการขาดดุลแฝดอาจนำไปสู่ภาวะวิกฤตที่ดุลงบประมาณและดุลบัญชีเดินสะพัดไม่สามารถขาดดุลได้อีกต่อไป เนื่องจากสหรัฐอเมริกาขาดแคลนเงินออมต้องพึ่งพิงเงินกู้จากภายในและต่างประเทศในการลงทุนและใช้จ่ายจนยอดหนี้สาธารณะเกือบจะทะลุเพดาน ทำให้ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุชเสนอสภาสูงสหรัฐให้ขยายเพดานหนี้สาธารณะ แต่การใช้จ่ายที่เกินตัวอาจทำให้ต่างประเทศเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาลดน้อยลง จนนำไปสู่การให้กู้ลดลง รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยซึ่งปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทำให้สหรัฐอเมริกาประสบปัญหาในการใช้นโยบายการเงินและการคลังบริหารประเทศในระยะต่อไป อนึ่ง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงในปี 2547 และมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าต่อไปในปี 2548 ทำให้ประเทศต่าง ๆ ขาดความเชื่อถือเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และหันไปถือเงินตราสกุลหลักอื่น ๆ เช่น เงินยูโร เป็นต้น และหากสหรัฐอเมริกาต้องประสบปัญหารุนแรงดังกล่าว ประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกที่ต้องพึ่งพิงเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก ทั้งทางด้านการผลิตและการค้าจะได้รับผลกระทบไปด้วย
ภาวะเศรษฐกิจจีนก็มีผลต่อเศรษฐกิจประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคของโลกอย่างมากด้วยเช่นกัน เนื่องจากเศรษฐกิจจีนได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยความได้เปรียบของค่าเงินหยวนที่อ่อนค่า ทำให้สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออกได้มากขึ้น ทำให้ต้องนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าเพื่อนำมาใช้ในการผลิตส่งออก ซึ่งหลังจากจีนได้ประกาศชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจแล้วอาจทำให้ประเทศในเอเชียอื่น ๆ ที่เป็นคู่แข่งกับจีนในการส่งออกได้รับประโยชน์ในส่วนแบ่งตลาดส่งออกของจีนเดิม ขณะเดียวกันอาจสูญเสียการส่งออกวัตถุดิบและสินค้าไปยังจีนพร้อม ๆ กันด้วยขึ้นกับว่าผลอันไหนจะมากกว่า และจะปรับสมดุลอย่างไร อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจก็ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงแรก และการขยายตัวจะค่อย ๆ ปรับลดลงไปในที่สุดในระยะยาว ซึ่งแนวโน้มในปี 2548 จะใช้มาตรการทางการเงินโดยเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อชะลอการบริโภคของเอกชนและการลงทุนของเอกชนเป็นชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ
กล่าวโดยสรุป ทุกประเทศในโลกจะต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองที่เปลี่ยนแปลง โดยระยะต่อไปจะเป็นระยะแห่งการเจรจาผลประโยชน์และจัดทำข้อตกลงทางการค้าทั้งในรูปพหุพาคีและทวิภาคีของประเทศต่าง ๆ โดย WTO และ FTA จะมีบทบาทสำคัญสำหรับการรวมกลุ่มทางธุรกิจ การสร้างเครือข่ายด้านการค้า การผลิต และการลงทุนระหว่างประเทศต่าง ๆ ในโลก ซึ่งธนาคารโลกได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกปี 2548 จะขยายตัวเพียงร้อยละ 3.2
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
ภาวะเศรษฐกิจจีนก็มีผลต่อเศรษฐกิจประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคของโลกอย่างมากด้วยเช่นกัน เนื่องจากเศรษฐกิจจีนได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยความได้เปรียบของค่าเงินหยวนที่อ่อนค่า ทำให้สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออกได้มากขึ้น ทำให้ต้องนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าเพื่อนำมาใช้ในการผลิตส่งออก ซึ่งหลังจากจีนได้ประกาศชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจแล้วอาจทำให้ประเทศในเอเชียอื่น ๆ ที่เป็นคู่แข่งกับจีนในการส่งออกได้รับประโยชน์ในส่วนแบ่งตลาดส่งออกของจีนเดิม ขณะเดียวกันอาจสูญเสียการส่งออกวัตถุดิบและสินค้าไปยังจีนพร้อม ๆ กันด้วยขึ้นกับว่าผลอันไหนจะมากกว่า และจะปรับสมดุลอย่างไร อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจก็ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงแรก และการขยายตัวจะค่อย ๆ ปรับลดลงไปในที่สุดในระยะยาว ซึ่งแนวโน้มในปี 2548 จะใช้มาตรการทางการเงินโดยเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อชะลอการบริโภคของเอกชนและการลงทุนของเอกชนเป็นชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ
กล่าวโดยสรุป ทุกประเทศในโลกจะต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองที่เปลี่ยนแปลง โดยระยะต่อไปจะเป็นระยะแห่งการเจรจาผลประโยชน์และจัดทำข้อตกลงทางการค้าทั้งในรูปพหุพาคีและทวิภาคีของประเทศต่าง ๆ โดย WTO และ FTA จะมีบทบาทสำคัญสำหรับการรวมกลุ่มทางธุรกิจ การสร้างเครือข่ายด้านการค้า การผลิต และการลงทุนระหว่างประเทศต่าง ๆ ในโลก ซึ่งธนาคารโลกได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกปี 2548 จะขยายตัวเพียงร้อยละ 3.2
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-