กรุงเทพ--23 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ไทย-ลาว-เวียดนาม : 3 ประเทศร่วมจัดเทศกาลส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
ขณะนี้หลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม หนองคาย กำลังเตรียมการส่งสินค้าโอทอปและการแสดงทางวัฒนธรรมเข้าร่วมงานเทศกาลส่งเสริมการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว ปี 2548 ซึ่งประเทศไทย ลาว และเวียดนามจะร่วมกันกันขึ้น ระหว่างวันที่ 1-3 เมษายน 2548 ที่เมืองทัว เทียน เว้ ประเทศเวียดนาม
เทศกาลครั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ผู้จัดและประสานงานฝ่ายไทย ได้เชิญจังหวัดต่างๆ ในภาคอิสานของไทย 19 จังหวัดเข้าร่วมงาน ในส่วนของฝ่ายเวียดนาม เมืองทัว เทียน เว้ ได้เชิญ 7 จังหวัดในภาคกลางของเวียดนามเข้าร่วม และฝ่ายลาวก็ได้ตอบรับเป็นเจ้าภาพร่วมด้วยแล้ว จึงคาดว่างานครั้งนี้จะคึกคักและยิ่งใหญ่งานหนึ่งเท่าที่ 3 ประเทศในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเคยจัดร่วมกัน
ทางเจ้าภาพร่วมทั้งสามประเทศขอเชิญชวนประชาชนทุกชาติ เข้าร่วมงานโดยการใช้ประโยชน์จากเส้นทางหมายเลข 8 และหมายเลข 9 ให้มากที่สุด เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย East West Economic Corridor ที่ต้องการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของสามประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
พิธีเปิดงานจะมีขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 1 เมษายน 2548 โดยทางเมืองทัว เทียน เว้ ได้เตรียมพื้นที่ไว้ 9,000 ตารางเมตร ริมแม่น้ำฮวง (Houng) แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ งานแสดงสินค้า ซึ่งจะมีการแสดงและจำหน่ายสินค้าปลีก นิทรรศการของ 3 ประเทศ ไทย-ลาว-เวียดนาม โดยจะเป็นการแสดงศักยภาพของการใช้เส้นทาง East West Economic Corridor การแสดงทางวัฒนธรรม ซึ่งทางจังหวัดขอนแก่นและมหาสารคามจะนำคณะนักแสดงและนาฏศิลป์ไปร่วมแสดงกับคณะนักแสดงของเวียดนามและลาว เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมพื้นบ้านของไทยด้วย
ญี่ปุ่น : กิจกรรมของสมาคมการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาไทย-ญี่ปุ่น
หากจะกล่าวถึงสมาคมของเอกชนในญี่ปุ่นที่มีบทบาทในการส่งเสริมให้ชาวญี่ปุ่นรู้จักเมืองไทยและคนไทยได้เป็นอย่างดีแล้ว น่าจะยกให้ “สมาคมการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาไทย-ญี่ปุ่น” ซึ่งดำเนินกิจกรรมอย่างแข็งขันตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2524 และต่อมาได้จัดการเรียนการสอนภาษาไทยอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 5 ปี จนกระทั่งหนังสือพิมพ์เกียวโตได้นำประวัติของนายชิเงโยะ คิมูระ ประธานสมาคมฯ รวมทั้งกิจกรรมและการดำเนินงานของสมาคมฯ ไปตีพิมพ์เผยแพร่ให้ชาวญี่ปุ่นทราบอย่างกว้างขวาง
นายคิมูระได้เดินทางมาเมืองไทยครั้งแรกเมื่อปี 2521 โดยได้ไปพำนักอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในต่างจังหวัด ที่นั่นเขาได้พบคนไทยที่เต็มไปด้วยน้ำใจไมตรีต่อคนต่างชาติผู้ไม่รู้ภาษาไทยและมาเยือนโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวอย่างเช่นเขา โดยได้เปิดโอกาสให้เขาได้ร่วมกิจกรรมกับชาวบ้าน เช่น เกี่ยวข้าว และร่วมวงสังสรรค์กันในยามค่ำคืนกับผู้คนในหมู่บ้าน ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นและซาบซึ้งในน้ำใจของคนไทยอย่างมาก
เมื่อเขากลับประเทศญี่ปุ่น เขารู้สึกอยากทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย และด้วยความที่เคยเป็นครูมาก่อน เขาจึงชักชวนเพื่อนๆ ในวงการศึกษาร่วมกันจัดตั้งสมาคมขึ้น เพื่อที่จะแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการศึกษาระหว่างไทยและญี่ปุ่น กิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากชาวญี่ปุ่น ตั้งแต่คนรุ่นหนุ่มสาว จนถึงผู้สูงอายุ คือ
การเรียนภาษาไทย โดยบางคนเคยเดินทางมาเยือนประเทศไทยและหลงไหลในเสน่ห์ของเมืองไทย จึงอยากเรียนรู้ภาษาไทยด้วย
นอกจากการเรียนภาษาไทยแล้ว สมาคมฯ ยังเป็นตัวเชื่อมให้นักเรียนหรือครูอาจารย์ทั้งชาวไทยและญี่ปุ่นได้มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมเยียนกัน และมีกิจกรรมแลกเปลี่ยนระหว่างนักเรียนทั้งสองประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ นายคิมูระเห็นว่า สิ่งที่ชาวญี่ปุ่นสามารถเรียนรู้จากคนไทยได้ในแง่ของจิตใจ คือ ความโอบอ้อมอารี การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความรักในครอบครัว และความศรัทธาในพุทธศาสนา เป็นต้น
เมื่อเดือนมกราคม ศกนี้ สมาคมฯ ได้จัดกิจกรรมชื่อว่า “ เวทีไทยในเกียวโต” เพื่อหารายได้ส่งมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิในเมืองไทย และได้มอบผ่านทางสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา เพื่อส่งมาให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการต่อไปแล้ว
ไท ดูโต
thaiduto2000@Yahoo.com
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ไทย-ลาว-เวียดนาม : 3 ประเทศร่วมจัดเทศกาลส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
ขณะนี้หลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม หนองคาย กำลังเตรียมการส่งสินค้าโอทอปและการแสดงทางวัฒนธรรมเข้าร่วมงานเทศกาลส่งเสริมการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว ปี 2548 ซึ่งประเทศไทย ลาว และเวียดนามจะร่วมกันกันขึ้น ระหว่างวันที่ 1-3 เมษายน 2548 ที่เมืองทัว เทียน เว้ ประเทศเวียดนาม
เทศกาลครั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ผู้จัดและประสานงานฝ่ายไทย ได้เชิญจังหวัดต่างๆ ในภาคอิสานของไทย 19 จังหวัดเข้าร่วมงาน ในส่วนของฝ่ายเวียดนาม เมืองทัว เทียน เว้ ได้เชิญ 7 จังหวัดในภาคกลางของเวียดนามเข้าร่วม และฝ่ายลาวก็ได้ตอบรับเป็นเจ้าภาพร่วมด้วยแล้ว จึงคาดว่างานครั้งนี้จะคึกคักและยิ่งใหญ่งานหนึ่งเท่าที่ 3 ประเทศในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเคยจัดร่วมกัน
ทางเจ้าภาพร่วมทั้งสามประเทศขอเชิญชวนประชาชนทุกชาติ เข้าร่วมงานโดยการใช้ประโยชน์จากเส้นทางหมายเลข 8 และหมายเลข 9 ให้มากที่สุด เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย East West Economic Corridor ที่ต้องการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของสามประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
พิธีเปิดงานจะมีขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 1 เมษายน 2548 โดยทางเมืองทัว เทียน เว้ ได้เตรียมพื้นที่ไว้ 9,000 ตารางเมตร ริมแม่น้ำฮวง (Houng) แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ งานแสดงสินค้า ซึ่งจะมีการแสดงและจำหน่ายสินค้าปลีก นิทรรศการของ 3 ประเทศ ไทย-ลาว-เวียดนาม โดยจะเป็นการแสดงศักยภาพของการใช้เส้นทาง East West Economic Corridor การแสดงทางวัฒนธรรม ซึ่งทางจังหวัดขอนแก่นและมหาสารคามจะนำคณะนักแสดงและนาฏศิลป์ไปร่วมแสดงกับคณะนักแสดงของเวียดนามและลาว เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมพื้นบ้านของไทยด้วย
ญี่ปุ่น : กิจกรรมของสมาคมการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาไทย-ญี่ปุ่น
หากจะกล่าวถึงสมาคมของเอกชนในญี่ปุ่นที่มีบทบาทในการส่งเสริมให้ชาวญี่ปุ่นรู้จักเมืองไทยและคนไทยได้เป็นอย่างดีแล้ว น่าจะยกให้ “สมาคมการแลกเปลี่ยนทางการศึกษาไทย-ญี่ปุ่น” ซึ่งดำเนินกิจกรรมอย่างแข็งขันตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2524 และต่อมาได้จัดการเรียนการสอนภาษาไทยอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 5 ปี จนกระทั่งหนังสือพิมพ์เกียวโตได้นำประวัติของนายชิเงโยะ คิมูระ ประธานสมาคมฯ รวมทั้งกิจกรรมและการดำเนินงานของสมาคมฯ ไปตีพิมพ์เผยแพร่ให้ชาวญี่ปุ่นทราบอย่างกว้างขวาง
นายคิมูระได้เดินทางมาเมืองไทยครั้งแรกเมื่อปี 2521 โดยได้ไปพำนักอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในต่างจังหวัด ที่นั่นเขาได้พบคนไทยที่เต็มไปด้วยน้ำใจไมตรีต่อคนต่างชาติผู้ไม่รู้ภาษาไทยและมาเยือนโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวอย่างเช่นเขา โดยได้เปิดโอกาสให้เขาได้ร่วมกิจกรรมกับชาวบ้าน เช่น เกี่ยวข้าว และร่วมวงสังสรรค์กันในยามค่ำคืนกับผู้คนในหมู่บ้าน ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นและซาบซึ้งในน้ำใจของคนไทยอย่างมาก
เมื่อเขากลับประเทศญี่ปุ่น เขารู้สึกอยากทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย และด้วยความที่เคยเป็นครูมาก่อน เขาจึงชักชวนเพื่อนๆ ในวงการศึกษาร่วมกันจัดตั้งสมาคมขึ้น เพื่อที่จะแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการศึกษาระหว่างไทยและญี่ปุ่น กิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากชาวญี่ปุ่น ตั้งแต่คนรุ่นหนุ่มสาว จนถึงผู้สูงอายุ คือ
การเรียนภาษาไทย โดยบางคนเคยเดินทางมาเยือนประเทศไทยและหลงไหลในเสน่ห์ของเมืองไทย จึงอยากเรียนรู้ภาษาไทยด้วย
นอกจากการเรียนภาษาไทยแล้ว สมาคมฯ ยังเป็นตัวเชื่อมให้นักเรียนหรือครูอาจารย์ทั้งชาวไทยและญี่ปุ่นได้มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมเยียนกัน และมีกิจกรรมแลกเปลี่ยนระหว่างนักเรียนทั้งสองประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ นายคิมูระเห็นว่า สิ่งที่ชาวญี่ปุ่นสามารถเรียนรู้จากคนไทยได้ในแง่ของจิตใจ คือ ความโอบอ้อมอารี การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความรักในครอบครัว และความศรัทธาในพุทธศาสนา เป็นต้น
เมื่อเดือนมกราคม ศกนี้ สมาคมฯ ได้จัดกิจกรรมชื่อว่า “ เวทีไทยในเกียวโต” เพื่อหารายได้ส่งมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิในเมืองไทย และได้มอบผ่านทางสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา เพื่อส่งมาให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการต่อไปแล้ว
ไท ดูโต
thaiduto2000@Yahoo.com
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-