พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตรตั้งแต่ระหว่างวันที่ 21 - 27 พ.ย. พ.ศ. 2548

ข่าวทั่วไป Monday November 21, 2005 14:03 —กรมอุตุนิยมวิทยา

          พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร  
วัน จันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 139/2548
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 21-27 พฤศจิกายน 2548
ในช่วงวันที่ 21-25 พ.ย. ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะยังคงแผ่เสริมปกคลุมประเทศไทยตอนบนและอ่าวไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง 2-3 องศาเซลเซียส โดยจะมีอากาศหนาวเย็น บริเวณยอดดอยและยอดภูจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด สำหรับภาคใต้โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปมีฝนตกหนักถึงหนักมาก และคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง ส่วนในช่วงวันที่ 26 - 27 พ.ย. ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทย ตอนบนและอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง
ข้อควรระวัง
ในระยะนี้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวเย็นลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพของตนเอง ให้แข็งแรง สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและ ชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
เหนือ
ลักษณอากาศ
# อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 21-25 พ.ย.อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 21-25 พ.ย.อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศหนาวทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. เกษตรกรควรให้ความอบอุ่นแก่ตนเองและสัตว์เลี้ยงอย่างเพียงพอ รวมทั้งควรผูกยึดหรือค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลให้แข็งแรงเพื่อป้องกันความเสียหายเนื่องจากลมแรง และเนื่องจากสภาพอากาศแห้ง ชาวสวนลิ้นจี่ควรระวังและป้องกันการระบาดของไรกำมะหยี่ด้วย
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะอากาศ
#อากาศหนาว และในช่วงวันที่ 21-25 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส และมีลมแรง สำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก เฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# อากาศหนาว และในช่วงวันที่ 21-25 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส และมีลมแรง สำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก เฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นเกษตรกรควรดูแลสุขภาพของตนเองให้ แข็งแรง และควรระวังอัคคีภัยจากกองไฟผิงด้วย สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรทำแผงกำบังลมหนาวและเพิ่มดวงไฟ ในโรงเรือน เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่สัตว์เลี้ยง และควรหมั่นสังเกตหากพบสัตว์ป่วยควรรีบรักษา
กลาง
ลักษณะอากาศ
# อากาศเย็น และในช่วงวันที่ 21-25 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส และมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# อากาศเย็น และในช่วงวันที่ 21-25 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส และมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. เกษตรกรควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วยในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงด้วย ในระยะนี้เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชที่มีระบบรากตื้น เช่น พืชไร่และพืชผัก ทดแทนปริมาณฝนที่ลดลง รวมทั้งควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูดไว้ด้วย
ตะวันออก
ลักษณะอากาศ
# อากาศเย็น และในช่วงวันที่ 21-25 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส และมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# อากาศเย็น และในช่วงวันที่ 21-25 พ.ย. อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส และมีลมแรง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรควรรักษาสุขภาพของตนเองและสัตว์เลี้ยงให้แข็งแรง เนื่องจากระยะต่อไปปริมาณฝนจะลดลงและอากาศจะแห้ง เกษตรกรควรระวังและป้องกันการระบาดของไรแดงในพืชไร่และไม้ผล เช่น ทุเรียน ส้ม มันสำปะหลัง และ พืชตระกูลถั่ว
ใต้
ลักษณะอากาศ
# ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 60-80 %ของพื้นที่กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปเกือบตลอดช่วง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม/ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากในช่วงวันที่ 24-26 พ.ย. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม/ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป 60-80 %ของพื้นที่กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปเกือบตลอดช่วง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม/ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 40-60% ของพื้นที่ตลอดช่วง โดยมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากในช่วงวันที่ 24-26 พ.ย. ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม/ชม. ในระยะนี้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินและผลผลิตทางการเกษตรจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง รวมทั้งควรระวังอันตรายในพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งด้วย อนึ่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือและชาวประมงควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ