พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร
วัน ศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 117 /2548
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน - 6 ตุลาตม 2548
ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. — 1 ต.ค. แนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกพาดผ่านภาคกลาง และภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนหนาแน่น สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ สำหรับในช่วงวันที่ 2-6 ต.ค. ลมตะวันออกจะพัดปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีฝนลดน้อยลงและเริ่มมีอากาศเย็น ส่วนร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องฝนจะพาดผ่านภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ทำให้ภาคกลางและภาคตะวันออกมีฝนกระจาย ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึง หนักมากบางแห่ง
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. — 1 ต.ค. บริเวณภาคเหนือจะเกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และล้นตลิ่ง บริเวณที่ราบลุ่ม ที่ลาดเชิงเขา และบริเวณที่น้ำไหลผ่านในพื้นที่เสี่ยงภัย เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 2-6 ต.ค. ภาคใต้ตอนบนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อาจจะเกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้บางพื้นที่ เกษตรกรควรระมัดระวังอันตรายและเตรียมป้องกันความเสียหาย จากสภาวะดังกล่าวไว้ด้วย
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่างๆในระยะ7วันข้างหน้ามีดังนี้
เหนือ
ลักษณอากาศ
# ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. — 1 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนอง 70-80% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตะวันตกของภาค ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 2-6 ต.ค. จะมีฝน 30-50 % ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ระยะนี้อากาศชื้น เกษตรกรที่ปลูกสตรอเบอรี่ควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคกอเน่า ส่วนผู้ที่ปลูกกุหลาบควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคใบจุด
ตะวันออกเฉียงเหนือ
ลักษณะอากาศ
# มีฝนฟ้าคะนอง 30-40 % ของพื้นที่ตลอดช่วง และอากาศเย็นในตอนเช้าในช่วงวันที่ 2-6 ต.ค. ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# เนื่องจากระยะนี้ฝนจะลดลง บริเวณที่ห่างไกลแหล่งน้ำ เกษตรกรควรเก็บกักน้ำไว้ใช้ นอกจากนี้ควรดูแล สุขภาพของตนเองเนื่องจากระยะนี้เริ่มจะมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนข้าวนาปีที่กำลังเจริญเติบโตถึงตั้งท้อง ชาวนาควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคไหม้และโรคใบจุดสีน้ำตาลไว้ด้วย
กลาง
ลักษณะอากาศ
# มีฝนฟ้าคะนอง 60 — 70 % ของพื้นที่ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตะวันตกของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในช่วงนี้อากาศชื้น ฝรั่งที่กำลังเจริญเติบโตทางผลควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคแอนแทรกโนส สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์น้ำบริเวณที่ราบลุ่มใกล้แม่น้ำควรกั้นขอบบ่อให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำท่วม ส่วนผู้ที่เลี้ยงปลาในกระชังควรระวังน้ำเหนือไหลบ่าด้วย
ตะวันออก
ลักษณะอากาศ
# มีฝนฟ้าคะนอง 60-70 % ของพื้นที่ตลอดช่วง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ระยะนี้อากาศชื้น เกษตรกรที่ปลูกพืชผักควรระวังและป้องกันการระบาดของโรคราน้ำค้าง ส่วนข้าวโพด ที่กำลังเจริญเติบโตทางฝัก ชาวไร่ควรระวังและป้องกันการระบาดของหนอนเจาะฝักด้วย
ใต้
ลักษณะอากาศ
# ฝั่งตะวันออกในช่วงวันที่ 30 ก.ย. — 1 ต.ค.มีฝนฟ้าคะนอง 30 % ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 2-6 ต.ค. มีฝน ฟ้าคะนอง 70-80 % ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
# ฝั่งตะวันตก ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. — 1 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนอง 30 % ของพื้นที่ ส่วนใช่วงวันที่ 2-6 ต.ค. มีฝนฟ้าคะนอง 60-80 % ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ผลกระทบต่อการเกษตร
# ในช่วงวันที่ 2-6 ต.ค. จะมีฝนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร ซึ่งอาจ ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณพื้นที่การเกษตรในที่ลุ่ม ควรเตรียมพร้อมระบายน้ำทิ้ง นอกจากนี้ควรระวังการระบาดของโรคพืชจากเชื้อรา เช่น โรคผลเน่าและโรคใบจุดในกาแฟ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-