ตามที่นายทะเบียนได้มีคำสั่งที่ 7 /2548 เรื่อง ให้บริษัทประกันวินาศภัยหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2548 สั่งให้บริษัท พาณิชย์การประกันภัย จำกัด หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง นั้น
กรมการประกันภัย ขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
เมื่อประมาณปลายปี 2547 ได้ปรากฏต่อกรมการประกันภัยว่า บริษัท พาณิชย์การประกันภัย จำกัด มีฐานะการเงินดำรงเงินกองทุนไม่ครบถ้วนตามกฎหมาย มีปัญหาสภาพคล่อง รวมทั้งจัดสรรทรัพย์สินตามประเภทที่กฎหมายกำหนดไม่เพียงพอกับเงินสำรองสำหรับเบี้ยประกันภัยที่ยังไม่ตกเป็นรายได้ของบริษัทและเงินสำรองสำหรับค่าสินไหมทดแทน กรมการประกันภัยในฐานะผู้กำกับดูแลบริษัทประกันภัยได้ให้บริษัท พาณิชย์การประกันภัย จำกัด ดำเนินการแก้ไข โดยให้คำแนะนำและให้ระยะเวลาแก่บริษัทตามสมควรมาโดยลำดับ แต่บริษัท พาณิชย์การประกันภัย จำกัด ก็ไม่สามารถดำเนินการเพื่อแก้ไขคลี่คลายสถานการณ์ทางการเงินดังกล่าวของบริษัทให้ดีขึ้นได้ ในทางกลับกันกรมการประกันภัยกลับพบว่า บริษัทมีค่าสินไหมทดแทนค้างจ่ายต่อประชาชนในปริมาณที่สูงขึ้น รวมทั้งเรื่องร้องเรียนที่ยื่นต่อกรมการประกันภัยก็มีเป็นจำนวนมาก
กรมการประกันภัยได้ส่งพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ กำกับดูแลการดำเนินงานของบริษัท พาณิชย์การประกันภัย จำกัด รวมทั้งใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ.2535 ดำเนินการกับบริษัทตามขั้นตอนของกฎหมาย นอกจากนี้ กรมการประกันภัยได้เชิญกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทมาพบหลายครั้ง เพื่อรับทราบฐานะการเงินและแผนการดำเนินการเพื่อแก้ไขฐานะการเงินให้ดำรงเงินกองทุนตามกฎหมายและมีสภาพคล่อง แต่บริษัทก็ยังไม่สามารถแก้ไขฐานะการเงินให้มีสภาพดีขึ้นตามที่กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทได้ให้คำมั่นไว้ ประกอบกับมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับค่าสินไหมทดแทนค้างจ่ายเป็นจำนวนมาก
ฉะนั้น หากให้บริษัทรับประกันวินาศภัยต่อไปจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยและประชาชนที่เกี่ยวข้องขยายวงกว้างขึ้น
นายทะเบียนด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เห็นว่า บริษัท พาณิชย์การประกันภัย จำกัด ดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 สั่งให้บริษัท พาณิชย์การ ประกันภัย จำกัด หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2548 เป็นต้นไป จนกว่าจะสามารถแก้ไขปรับปรุงฐานะการเงินและชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ประชาชนได้ ในระหว่างนี้ผู้เอาประกันภัยและประชาชนยังคงเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนหากมีวินาศภัยเกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัยได้ตามปกติ
อนึ่ง การที่นายทะเบียนด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สั่งให้บริษัท พาณิชย์การประกันภัย จำกัด หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราวในครั้งนี้เป็นสถานการณ์เฉพาะของบริษัท พาณิชย์การประกันภัย จำกัด และไม่มีผลกระทบต่อบริษัทประกันวินาศภัยอื่นแต่อย่างใด
ที่มา: http://www.doi.go.th