กรุงเทพ--4 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
ด้วยกระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ว่าเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2548 นายสมปอง สงวนบรรพ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์และนางสาวกาญจนา เทพารักษ์ หัวหน้าสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ได้ให้การต้อนรับนางเหวียน หมีถ้วน รองหัวหน้าหอการค้า ผู้แทนศูนย์ส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว และผู้แทนกรมการวางแผน และการลงทุน ของจังหวัดลุ่มแม่น้ำโขงของเวียดนาม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการค้าการลงทุนและขอรับการสนับสนุนสำหรับกิจกรรมส่งเสริมการค้าการลงทุนของของจังหวัดลุ่มแม่น้ำโขง โดยผลการหารือสรุปสาระได้ดังนี้
สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมนครเกิ่น เธอ (Vietnam Chamber of Commerce and Industry -VCCI- Can Tho Branch) และศูนย์ส่งเสริมการลงทุนนครเกิ่น เธอ (Investment Promotion Center-IPC-Can Tho City) จะจัดงานสัมมนาในหัวข้อ “ศักยภาพด้านการค้าการลงทุนของจังหวัดลุ่มแม่น้ำโขงเวียดนาม” วันที่ 29 เมษายน 2548 ที่นครโฮจิมินห์ นอกจากนั้นผู้แทน VCCI และ IPCจังหวัดลุ่มแม่น้ำโขงจะเดินทางเยือนประเทศไทยและสิงคโปร์ในเดือนสิงหาคมศกนี้ เพื่อเชิญชวนภาคเอกชนเข้าไปลงทุนในจังหวัดลุ่มแม่น้ำโขง โดยในประเทศไทย คณะผู้แทนฯประสงค์จะพบกับผู้แทนสภาหอการค้าไทยด้วยเพื่อหารือแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ
ในการนี้สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้แจ้งว่ายินดีที่จะร่วมมือกับ VCCI และ IPC ที่นครเกิ่น เธอ อย่างเต็มที่ และได้แจ้งฝ่ายเวียดนามว่าขณะนี้ไทยและเวียดนามกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำความตกลง JSEP (Joint Strategy for Economic Partnership) และมีการริเริ่มโครงการร่วมมือทางการค้าการท่องเที่ยวและการศึกษาร่วมกัน เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์อันใกล้ชิดมากขึ้น นอกเหนือไปจากการลงทุนของไทยในจังหวัดลุ่มแม่น้ำโขง เช่น อาหารกระป๋อง โรงสีข้าว และนิคมอุตสาหกรรม
กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งว่า นครเกิ่น เธอ สามารถผลิตข้าวปีละ 1 ล้านตัน ส่งออกข้าวได้ปีละ 4 แสนตัน ผลิตผลไม้ได้ปีละประมาณ 1 แสนตัน และต้องการเชิญชวนให้คนไทยเข้าไปลงทุนในสาขาการเกษตรไฮเทค การแปรรูปสินค้าการเกษตร ข้าว การส่งออกผลไม้ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เช่นเดียวกับจังหวัดเห่า ยาง ซึ่งมีพื้นที่การเกษตรสำหรับการปลูกผักและผลไม้ 20,000 เฮคตาร์ จังหวัดอื่นๆได้แก่จังหวัดอันยาง ที่เป็นศูนย์กลางการค้าขายและขนส่งสินค้าระหว่างเวียดนามและประเทศเพื่อนบ้านและจังหวัดก่าเมาซึ่งเป็นทางผ่านของการขนส่งสินค้าระหว่างไทยและเวียดนาม ประสงค์เชิญชวนการลงทุนจากไทยในสาขาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและพลังงานไฟฟ้า
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ด้วยกระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ว่าเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2548 นายสมปอง สงวนบรรพ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์และนางสาวกาญจนา เทพารักษ์ หัวหน้าสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ได้ให้การต้อนรับนางเหวียน หมีถ้วน รองหัวหน้าหอการค้า ผู้แทนศูนย์ส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว และผู้แทนกรมการวางแผน และการลงทุน ของจังหวัดลุ่มแม่น้ำโขงของเวียดนาม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการค้าการลงทุนและขอรับการสนับสนุนสำหรับกิจกรรมส่งเสริมการค้าการลงทุนของของจังหวัดลุ่มแม่น้ำโขง โดยผลการหารือสรุปสาระได้ดังนี้
สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมนครเกิ่น เธอ (Vietnam Chamber of Commerce and Industry -VCCI- Can Tho Branch) และศูนย์ส่งเสริมการลงทุนนครเกิ่น เธอ (Investment Promotion Center-IPC-Can Tho City) จะจัดงานสัมมนาในหัวข้อ “ศักยภาพด้านการค้าการลงทุนของจังหวัดลุ่มแม่น้ำโขงเวียดนาม” วันที่ 29 เมษายน 2548 ที่นครโฮจิมินห์ นอกจากนั้นผู้แทน VCCI และ IPCจังหวัดลุ่มแม่น้ำโขงจะเดินทางเยือนประเทศไทยและสิงคโปร์ในเดือนสิงหาคมศกนี้ เพื่อเชิญชวนภาคเอกชนเข้าไปลงทุนในจังหวัดลุ่มแม่น้ำโขง โดยในประเทศไทย คณะผู้แทนฯประสงค์จะพบกับผู้แทนสภาหอการค้าไทยด้วยเพื่อหารือแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ
ในการนี้สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้แจ้งว่ายินดีที่จะร่วมมือกับ VCCI และ IPC ที่นครเกิ่น เธอ อย่างเต็มที่ และได้แจ้งฝ่ายเวียดนามว่าขณะนี้ไทยและเวียดนามกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำความตกลง JSEP (Joint Strategy for Economic Partnership) และมีการริเริ่มโครงการร่วมมือทางการค้าการท่องเที่ยวและการศึกษาร่วมกัน เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์อันใกล้ชิดมากขึ้น นอกเหนือไปจากการลงทุนของไทยในจังหวัดลุ่มแม่น้ำโขง เช่น อาหารกระป๋อง โรงสีข้าว และนิคมอุตสาหกรรม
กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งว่า นครเกิ่น เธอ สามารถผลิตข้าวปีละ 1 ล้านตัน ส่งออกข้าวได้ปีละ 4 แสนตัน ผลิตผลไม้ได้ปีละประมาณ 1 แสนตัน และต้องการเชิญชวนให้คนไทยเข้าไปลงทุนในสาขาการเกษตรไฮเทค การแปรรูปสินค้าการเกษตร ข้าว การส่งออกผลไม้ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เช่นเดียวกับจังหวัดเห่า ยาง ซึ่งมีพื้นที่การเกษตรสำหรับการปลูกผักและผลไม้ 20,000 เฮคตาร์ จังหวัดอื่นๆได้แก่จังหวัดอันยาง ที่เป็นศูนย์กลางการค้าขายและขนส่งสินค้าระหว่างเวียดนามและประเทศเพื่อนบ้านและจังหวัดก่าเมาซึ่งเป็นทางผ่านของการขนส่งสินค้าระหว่างไทยและเวียดนาม ประสงค์เชิญชวนการลงทุนจากไทยในสาขาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและพลังงานไฟฟ้า
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-