จากการที่รัฐบาลประกาศตัวให้ทั่วโลกรับรู้ว่าประเทศไทยกำลังจะก้าวเป็นเมืองแห่งแฟชั่นและศูนย์กลางธุรกิจแฟชั่นของภูมิภาค ทำให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแฟชั่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อัญมณีและเครื่องประดับ รวมถึงรองเท้าและผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง มีการตื่นตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ด้วยภาครัฐมีจุดประสงค์ที่จะผลักดันและส่งเสริมอุตสาหกรรมแฟชั่นของไทยให้สามารถสร้าง
รายได้เข้าประเทศจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าในปี 2547 นี้ อุตสาหกรรมแฟชั่นจะมีมูลค่าถึง 4.2 ล้านบาท โดยดัชนีผลผลิตของอุตสาหกรรมแฟชั่นดังกล่าวในปี 2547 ช่วงเดือนมกราคม - มิถุนายน นับว่ามีการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการฝึกอบรมด้านการออกแบบ การแข่งขันประกวดออกแบบเสื้อผ้า
รองเท้า และเครื่องประดับที่ภาครัฐร่วมกับภาคเอกชนจัดขึ้น เช่น โครงการ Young Designer Contest ที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2547 เป็นต้น
บริษัท แทรมป์ เลเทอร์ จำกัด เป็นผู้ผลิตที่อยู่ในอุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง
โดยสินค้าที่ผลิต ได้แก่ กระเป๋าหนังสตรี กระเป๋าธนบัตร พวงกุญแจ เข็มขัด และรองเท้าสตรี ซึ่งสินค้าดังกล่าวมีช่องทางการจัดจำหน่ายอยู่ภายในประเทศเท่านั้น แต่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากสินค้าจะวางขายอยู่ในร้านคิงพาวเวอร์ซึ่งเป็นร้านที่ตั้งอยู่ในสนามบิน หรือตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าที่มีชาวต่างชาตินิยมมาเลือกซื้อสินค้ากลับบ้าน เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิร์ลด พลาซ่า เป็นต้น โดยลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่จะมีบริษัทนำเที่ยวพามาเป็นหมู่คณะ
คุณสรัญญา จิตราภาษย์ ผู้จัดการทั่วไปได้เล่าถึงความเป็นมาของบริษัท แทรมป์ เลเทอร์ จำกัด ว่า เริ่มต้นกิจการจากการเป็นธุรกิจภายในครอบครัว มีการบริหารงานโดยรุ่นของบิดาและมารดาของตัวคุณสรัญญาเอง ซึ่งในอดีตสินค้าของบริษัทจะมีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอยู่ในระดับบน และมีช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากสินค้าที่ผลิตมีรูปแบบและสีสันที่เรียบง่ายไม่เน้นตามความนิยมของแฟชั่น
จวบจนปัจจุบันเมื่อคุณสรัญญาเข้ามาบริหารกิจการต่อจากบิดาและมารดาในต้นปี 2547 กลุ่มเป้าหมายของบริษัทจึงได้มีการเปลี่ยนแปลง โดยกลุ่มลูกค้าจะอยู่ในระดับกลางถึงระดับบน และแบ่งช่วงอายุลูกค้ากลุ่มเป้าหมายออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงอายุ 20 - 40 ปี และช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป
แผนการตลาดในอนาคตจะเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนไทยมากขึ้นโดยเปิดหน้าร้านขายสินค้าอยู่ในพื้นที่
ที่เป็นศูนย์รวมแฟชั่นของทุกเพศทุกวัย เช่น สยามแสควร์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่สามารถหาซื้อสินค้าได้สะดวกและง่ายขึ้น
ในปี 2547 แบรนด์ "TRAMPIONI" เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าคนไทยที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์รองเท้าและเครื่องหนังกันมากขึ้น เพราะเริ่มเปิดตัวในงานแสดงสินค้าต่างๆ 5 - 6 ครั้ง ต่อปี อีกทั้งรูปแบบและสีสันของสินค้าได้มีการออกแบบให้ตรงตามความนิยมของแฟชั่น จึงทำให้สะดุดตาผู้พบเห็นไม่น้อย
ไม่เพียงแค่นี้แบรนด์ "TRAMPIONI" ยังได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน
ในการสนับสนุนให้นำสินค้าของบริษัทไปร่วมแสดงในงานแฟชั่นโชว์ระดับประเทศ เช่น งานของโครงการกรุงเทพเมืองแฟชั่น ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสมาคมเครื่องหนังและกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
วัตถุดิบที่ใช้สำหรับผลิตสินค้าจะมีทั้งซื้อภายในประเทศและนำเข้ามาจากต่างประเทศ เช่น หนังปลากระเบนและหนังงูสามารถหาซื้อได้ภายในประเทศ แต่ถ้าเป็นหนังจรเข้ต้องสั่งซื้อจากอเมริกาใต้หรือแอฟริกาซึ่งค่อนข้างขาดตลาด และต้องใช้เวลานานในการสั่งซื้อ เพราะจรเข้ 1 ตัว ต้องใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงดู 1 - 2 ปี และกระเป๋าถือสตรี 1 ใบ จะต้องใช้หนังจรเข้จำนวน 1 - 2 ตัว และหากเป็นหนังลูกจรเข้ยิ่งขาดแคลนและมีราคาแพงมากขึ้น ดังนั้น เทคนิคในการวางแบบบนผืนหนังจะต้องใช้ความชำนาญอย่างมาก เพราะจะต้องวางพื้นที่ใช้สอยบนผืนหนังให้คุ้มค่าที่สุด
ขั้นตอนการผลิตสินค้าค่อนข้างใช้เวลานาน เนื่องจากสีสันของสินค้าในปีนี้ทางบริษัทจะเน้นสีสันสดใส เช่น เขียว เหลือง ชมพู ฟ้า ฉะนั้นในการฟอกย้อมสีหนังจะต้องทำการคัดเลือกสีย้อมและทดลองย้อมสีอยู่หลายครั้งจึงจะได้สีที่ตรงตามแบบ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน ต่อ 1 แบบ
ด้านการแข่งขันของสินค้าประเภทรองเท้าและผลิตภัณฑ์เครื่องหนังในช่วงนี้มีการแข่งขันจากสินค้าของประเทศจีนสูง เพราะสินค้าของจีนมีราคาถูกกว่า เนื่องจากใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพต่ำกว่า เช่น หนังเทียม หนังวัว เป็นต้น อีกทั้งค่าแรงงานก็ถูกกว่า ถึงแม้ว่าฝีมือในการตัดเย็บจะสู้สินค้าไทยไม่ได้
ก็ตาม
คุณสรัญญามีแนวคิดว่า การพัฒนาศักยภาพของตนเองเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้สินค้าของไทยหนีห่างจากคู่แข่งได้จึงเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ทางภาครัฐจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การอบรมการเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หรือการอบรมโครงการเสริมสร้างนักออกแบบซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการกรุงเทพเมืองแฟชั่น สนับสนุนโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยมีนักออกแบบแฟชั่นชั้นนำจากประเทศอิตาลีมาถ่ายทอดความรู้ให้กับนักออกแบบไทย และผลที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการนี้ทำให้ได้แนวคิดในการออกแบบ วิธีการมองแนวโน้มของแฟชั่น วิธีการดึงจุดเด่นของสินค้า นับว่าการเข้าร่วมโครงการนี้จะเป็นการจุดประกายให้ตนเองสามารถที่จะสร้างสรรค์ผลงานให้ดีและตรงกับควาต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
โอกาสที่แบรนด์ "TRAMPIONI" หรือสินค้าในอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ออกแบบและผลิตโดยคนไทยจะก้าวเข้าสู่เวทีแฟชั่นของโลกคงมีความเป็นไปได้ไม่ยากเกินไปนัก หากภาครัฐให้การสนับสนุนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง รวมถึงตัวผู้ประกอบการจะต้องติดตามและให้ความร่วมมือกับโครงการต่างๆ ที่ภาครัฐหรือภาคเอกชนจัดขึ้น เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพด้านแนวคิดและด้านคุณภาพการผลิตสินค้าซึ่งนับว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งในการประกอบธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมแฟชั่น
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-
รายได้เข้าประเทศจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าในปี 2547 นี้ อุตสาหกรรมแฟชั่นจะมีมูลค่าถึง 4.2 ล้านบาท โดยดัชนีผลผลิตของอุตสาหกรรมแฟชั่นดังกล่าวในปี 2547 ช่วงเดือนมกราคม - มิถุนายน นับว่ามีการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการฝึกอบรมด้านการออกแบบ การแข่งขันประกวดออกแบบเสื้อผ้า
รองเท้า และเครื่องประดับที่ภาครัฐร่วมกับภาคเอกชนจัดขึ้น เช่น โครงการ Young Designer Contest ที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2547 เป็นต้น
บริษัท แทรมป์ เลเทอร์ จำกัด เป็นผู้ผลิตที่อยู่ในอุตสาหกรรมรองเท้าและผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง
โดยสินค้าที่ผลิต ได้แก่ กระเป๋าหนังสตรี กระเป๋าธนบัตร พวงกุญแจ เข็มขัด และรองเท้าสตรี ซึ่งสินค้าดังกล่าวมีช่องทางการจัดจำหน่ายอยู่ภายในประเทศเท่านั้น แต่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เนื่องจากสินค้าจะวางขายอยู่ในร้านคิงพาวเวอร์ซึ่งเป็นร้านที่ตั้งอยู่ในสนามบิน หรือตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าที่มีชาวต่างชาตินิยมมาเลือกซื้อสินค้ากลับบ้าน เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิร์ลด พลาซ่า เป็นต้น โดยลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่จะมีบริษัทนำเที่ยวพามาเป็นหมู่คณะ
คุณสรัญญา จิตราภาษย์ ผู้จัดการทั่วไปได้เล่าถึงความเป็นมาของบริษัท แทรมป์ เลเทอร์ จำกัด ว่า เริ่มต้นกิจการจากการเป็นธุรกิจภายในครอบครัว มีการบริหารงานโดยรุ่นของบิดาและมารดาของตัวคุณสรัญญาเอง ซึ่งในอดีตสินค้าของบริษัทจะมีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอยู่ในระดับบน และมีช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากสินค้าที่ผลิตมีรูปแบบและสีสันที่เรียบง่ายไม่เน้นตามความนิยมของแฟชั่น
จวบจนปัจจุบันเมื่อคุณสรัญญาเข้ามาบริหารกิจการต่อจากบิดาและมารดาในต้นปี 2547 กลุ่มเป้าหมายของบริษัทจึงได้มีการเปลี่ยนแปลง โดยกลุ่มลูกค้าจะอยู่ในระดับกลางถึงระดับบน และแบ่งช่วงอายุลูกค้ากลุ่มเป้าหมายออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงอายุ 20 - 40 ปี และช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป
แผนการตลาดในอนาคตจะเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนไทยมากขึ้นโดยเปิดหน้าร้านขายสินค้าอยู่ในพื้นที่
ที่เป็นศูนย์รวมแฟชั่นของทุกเพศทุกวัย เช่น สยามแสควร์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่สามารถหาซื้อสินค้าได้สะดวกและง่ายขึ้น
ในปี 2547 แบรนด์ "TRAMPIONI" เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าคนไทยที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์รองเท้าและเครื่องหนังกันมากขึ้น เพราะเริ่มเปิดตัวในงานแสดงสินค้าต่างๆ 5 - 6 ครั้ง ต่อปี อีกทั้งรูปแบบและสีสันของสินค้าได้มีการออกแบบให้ตรงตามความนิยมของแฟชั่น จึงทำให้สะดุดตาผู้พบเห็นไม่น้อย
ไม่เพียงแค่นี้แบรนด์ "TRAMPIONI" ยังได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน
ในการสนับสนุนให้นำสินค้าของบริษัทไปร่วมแสดงในงานแฟชั่นโชว์ระดับประเทศ เช่น งานของโครงการกรุงเทพเมืองแฟชั่น ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสมาคมเครื่องหนังและกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
วัตถุดิบที่ใช้สำหรับผลิตสินค้าจะมีทั้งซื้อภายในประเทศและนำเข้ามาจากต่างประเทศ เช่น หนังปลากระเบนและหนังงูสามารถหาซื้อได้ภายในประเทศ แต่ถ้าเป็นหนังจรเข้ต้องสั่งซื้อจากอเมริกาใต้หรือแอฟริกาซึ่งค่อนข้างขาดตลาด และต้องใช้เวลานานในการสั่งซื้อ เพราะจรเข้ 1 ตัว ต้องใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงดู 1 - 2 ปี และกระเป๋าถือสตรี 1 ใบ จะต้องใช้หนังจรเข้จำนวน 1 - 2 ตัว และหากเป็นหนังลูกจรเข้ยิ่งขาดแคลนและมีราคาแพงมากขึ้น ดังนั้น เทคนิคในการวางแบบบนผืนหนังจะต้องใช้ความชำนาญอย่างมาก เพราะจะต้องวางพื้นที่ใช้สอยบนผืนหนังให้คุ้มค่าที่สุด
ขั้นตอนการผลิตสินค้าค่อนข้างใช้เวลานาน เนื่องจากสีสันของสินค้าในปีนี้ทางบริษัทจะเน้นสีสันสดใส เช่น เขียว เหลือง ชมพู ฟ้า ฉะนั้นในการฟอกย้อมสีหนังจะต้องทำการคัดเลือกสีย้อมและทดลองย้อมสีอยู่หลายครั้งจึงจะได้สีที่ตรงตามแบบ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน ต่อ 1 แบบ
ด้านการแข่งขันของสินค้าประเภทรองเท้าและผลิตภัณฑ์เครื่องหนังในช่วงนี้มีการแข่งขันจากสินค้าของประเทศจีนสูง เพราะสินค้าของจีนมีราคาถูกกว่า เนื่องจากใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพต่ำกว่า เช่น หนังเทียม หนังวัว เป็นต้น อีกทั้งค่าแรงงานก็ถูกกว่า ถึงแม้ว่าฝีมือในการตัดเย็บจะสู้สินค้าไทยไม่ได้
ก็ตาม
คุณสรัญญามีแนวคิดว่า การพัฒนาศักยภาพของตนเองเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้สินค้าของไทยหนีห่างจากคู่แข่งได้จึงเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ทางภาครัฐจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การอบรมการเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หรือการอบรมโครงการเสริมสร้างนักออกแบบซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการกรุงเทพเมืองแฟชั่น สนับสนุนโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยมีนักออกแบบแฟชั่นชั้นนำจากประเทศอิตาลีมาถ่ายทอดความรู้ให้กับนักออกแบบไทย และผลที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการนี้ทำให้ได้แนวคิดในการออกแบบ วิธีการมองแนวโน้มของแฟชั่น วิธีการดึงจุดเด่นของสินค้า นับว่าการเข้าร่วมโครงการนี้จะเป็นการจุดประกายให้ตนเองสามารถที่จะสร้างสรรค์ผลงานให้ดีและตรงกับควาต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
โอกาสที่แบรนด์ "TRAMPIONI" หรือสินค้าในอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ออกแบบและผลิตโดยคนไทยจะก้าวเข้าสู่เวทีแฟชั่นของโลกคงมีความเป็นไปได้ไม่ยากเกินไปนัก หากภาครัฐให้การสนับสนุนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง รวมถึงตัวผู้ประกอบการจะต้องติดตามและให้ความร่วมมือกับโครงการต่างๆ ที่ภาครัฐหรือภาคเอกชนจัดขึ้น เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพด้านแนวคิดและด้านคุณภาพการผลิตสินค้าซึ่งนับว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งในการประกอบธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมแฟชั่น
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-