นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบในการประสานและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ที่ 2 ด้านการค้าและการพัฒนา ณ จุดแรกเริ่ม(Trade and In Situ Development) ภายใต้แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) กำหนดนำคณะผู้แทนการค้าซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากส่วนราชการและภาคเอกชนซึ่งรวมทั้งผู้แทนหอการค้าใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องประสบปัญหาความไม่สงบ ๆ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เดินทางไปประชุมเจรจาร่วมกับผู้แทนส่วนราชการและภาคเอกชนของฝ่ายมาเลเซีย ในระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคม 2548 วัตถุประสงค์ของโครงการดังกล่าว เพื่อสร้างโอกาสความร่วมมือด้านการพัฒนาเมืองชายแดนและการค้าชายแดนระหว่างประเทศทั้งสอง การเจรจาแนวทางความร่วมมือด้านการผลิต การขนส่ง การจำหน่าย รวมทั้งความร่วมมือทางธุรกิจการค้ากับนักธุรกิจในพื้นที่ IMT-GT ของมาเลเซีย ได้แก่ รัฐเปอร์ลิส รัฐเคดาห์ รัฐปีนัง รัฐสลังงอ และรัฐกลันตัน สำหรับสินค้าที่คาดว่าจะมีการเจรจาซื้อขายกัน โดยสินค้าที่ฝ่ายไทยมีศักยภาพในการเสนอขาย ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค ยางพารา อาหารกระป๋อง สินค้าประมง เครื่องจักรกล ผักและผลไม้ และสินค้าที่ฝ่ายไทยจะเสนอซื้อ ได้แก่ สัตว์น้ำมีชีวิต เครื่องจักร เครื่องยนต์ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืช ซึ่งนอกจากจะได้เจรจาขยายลู่ทางการค้าและการลงทุนโดยหยิบยกประเด็นปัญหาอุปสรรคต่างๆ ขึ้นหารือแล้ว ยังจะได้หยิบยกประเด็นความร่วมมือในโครงการด้านการค้าและการลงทุนภายใต้แผนงาน IMT-GT อาทิ โครงการนิคมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลจังหวัดปัตตานี โดยเชิญชวนนักลงทุนจากมาเลเซีย เข้ามาลงทุนและพิจารณาแนวทางเชื่อมโยงระบบ Logistic กับโครงการ Halal Industrial Hub ของมาเลเซีย ติดตามความคืบหน้าและพิจารณาแนวทางการเข้าร่วมลงทุนในโครงการการพัฒนาอุตสาหกรรมเมืองชายแดน ได้แก่ KOTA PERDANA และ KOTA PUTRA ของมาเลเซีย ตลอดจนแนวทางการนำระบบการค้าแบบหักบัญชี (Account Trade) มาใช้ในพื้นที่ IMT-GT ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น การดำเนินการตามโครงการดังกล่าว นับเป็นการขยายโอกาสในทางการค้าและการลงทุน อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการไทยเป็นอันมาก ซึ่งปัจจุบันการค้าระหว่างประเทศของไทยกับมาเลเซีย มีมูลค่าเฉลี่ยในแต่ละปี(2545-2547) กว่าปีละ 300,000 ล้านบาท โดยในปี 2547 มีมูลค่ารวมถึง 435,968.4 ล้านบาท และการค้าชายแดนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี ในปี 2547 มีมูลค่าถึง 233,356.63 ล้านบาท ทั้งนี้จะเป็นการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้โดยรวม โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องประสบปัญหาธุรกิจซบเซาอย่างต่อเนื่อง
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-