วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๔๘ เวลา ๑๑.๕๕ นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้นล่าง อาคารรัฐสภา ๑ นายไพศาล จันทรภักดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบูรณ์ พรรคไทยรักไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ได้แถลงถึงเรื่องที่จะให้มีการยุบองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (รสพ.) ว่า ทางคณะกรรมาธิการการคมนาคมได้เชิญ นายก่อแก้ว พิกุลทอง รักษาการแทนผู้อำนวยการ นายประสงค์ ตันมณีวัฒนา ประธานกรรมการ ฝ่ายผู้บริหารองค์การ และ ตัวแทนพนักงาน ประมาณ ๒๐ คน นำโดยนางชุลีพร ด้วงฉิม หัวหน้ากองการขนส่งสินค้าข้ามแดน และนายคณิศร นิ่มศรีทอง ผู้ช่วยฝ่ายการตลาด มาชี้แจงในที่ประชุม
โดยผลสรุปคือ ทางพนักงาน รสพ. มีความประสงค์ให้ทางรัฐบาลดำเนินการปรับปรุงพื้นฟูองค์กรต่อไป แต่ถ้าจะยกเลิกหรือยุบ รสพ. ขอให้ทางรัฐบาลจัดการจ่ายค่าชดเชย สวัสดิการ ตามกฎหมายทุกอย่าง และทางฝ่ายผู้บริหารของ รสพ. ได้ศึกษาพิจารณาเสนอแนวทางแก้ไของค์กร รสพ. ต่อรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ๒ แนวทาง คือ
๑. หากมีการพื้นฟู รสพ. จะต้องชำระหนี้สะสม ๑,๘๐๐ ล้านบาท และลดขนาดองค์กรลงได้ รวมทั้งปรับฐานเงินเดือนของสวัสดิการพนักงาน ตลอดจนควรมีการพัฒนาบุคลากรด้วย
๒. หากมีการยุบ รสพ. ลงต้องใช้งบประมาณชำระหนี้สะสมที่มีอยู่ ๑,๘๐๐ ล้านบาท จ่ายเงินชดเชยให้พนักงาน ๑,๗๐๐ คน ประมาณ ๔๐๐ ล้านบาท และจัดหาที่ทำงานให้กับพนักงานที่มีความประสงค์ หรือยังสามารถทำงานต่อยังหน่วยงานรัฐ ประมาณ ๑,๐๐๐ คน ตลอดจนต้องจัดหาทุนเพื่อซื้อ รถยนตร์เก่าขององค์กรเพื่อประกอบธุรกิจต่อไป
ซึ่งทางคณะกรรมาธิการการคมนาคม เห็นว่าแนวทางแก้ไขทั้ง ๒ มีความเป็นไปได้ และต้องให้การแก้ปัญหาดังกล่าวนี้สามารถแก้ปัญหาระยะยาวหรือเป็นประโยชน์ต่อพนักงานและองค์กรด้วย และควรมีการศึกษาภารกิจของ รสพ. ว่ายังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่
------------------------------
โดยผลสรุปคือ ทางพนักงาน รสพ. มีความประสงค์ให้ทางรัฐบาลดำเนินการปรับปรุงพื้นฟูองค์กรต่อไป แต่ถ้าจะยกเลิกหรือยุบ รสพ. ขอให้ทางรัฐบาลจัดการจ่ายค่าชดเชย สวัสดิการ ตามกฎหมายทุกอย่าง และทางฝ่ายผู้บริหารของ รสพ. ได้ศึกษาพิจารณาเสนอแนวทางแก้ไของค์กร รสพ. ต่อรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ๒ แนวทาง คือ
๑. หากมีการพื้นฟู รสพ. จะต้องชำระหนี้สะสม ๑,๘๐๐ ล้านบาท และลดขนาดองค์กรลงได้ รวมทั้งปรับฐานเงินเดือนของสวัสดิการพนักงาน ตลอดจนควรมีการพัฒนาบุคลากรด้วย
๒. หากมีการยุบ รสพ. ลงต้องใช้งบประมาณชำระหนี้สะสมที่มีอยู่ ๑,๘๐๐ ล้านบาท จ่ายเงินชดเชยให้พนักงาน ๑,๗๐๐ คน ประมาณ ๔๐๐ ล้านบาท และจัดหาที่ทำงานให้กับพนักงานที่มีความประสงค์ หรือยังสามารถทำงานต่อยังหน่วยงานรัฐ ประมาณ ๑,๐๐๐ คน ตลอดจนต้องจัดหาทุนเพื่อซื้อ รถยนตร์เก่าขององค์กรเพื่อประกอบธุรกิจต่อไป
ซึ่งทางคณะกรรมาธิการการคมนาคม เห็นว่าแนวทางแก้ไขทั้ง ๒ มีความเป็นไปได้ และต้องให้การแก้ปัญหาดังกล่าวนี้สามารถแก้ปัญหาระยะยาวหรือเป็นประโยชน์ต่อพนักงานและองค์กรด้วย และควรมีการศึกษาภารกิจของ รสพ. ว่ายังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่
------------------------------