‘อภิสิทธิ์’ ระบุ ‘ครม.ทักษิณ 2/2’ เป็นเพียงการหมุนเวียน โยกย้าย ตำแหน่ง เผย คาดหวังความเชื่อมั่นจากปัญหาหลัก 3 ด้าน พร้อมเตือน ปัญหาใต้ไม่ควรมองข้ามรอยต่อการทำงานระหว่างรัฐบาลกับคณะกรรมการสมานท์ฉันท์(กอส.)
วันนี้(5ส.ค.)เวลา 08.30 น. นายภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าหัวพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวสัมภาษณ์ทางคลื่นวิทยุ 101.0 ในรายการข่าวยามเช้าถึงภาพรวมการปรับครม.ทักษิณ 2/2ว่า การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ไม่มีการรปรับเปลี่ยนอะไรมาก เป็นเพียงการหมุนเวียน โยกย้าย ‘เมื่อดูตามจำนวนคนหรือจำนวนตำแหน่งดูเหมือนว่ามาก แต่จริงแล้วเป็นเพียงการสลับหรือหมุนเวียนมากกว่า’ นายอภิสิทธิ์กล่าวและว่าสิ่งที่คาดหวังหลังจากมีการปรับคณะรัฐมนตรี คือการเรียกความเชื่อมั่นในปัญหาหลักๆ 3 ด้าน 1.ด้านเศรษฐกิจ 2.ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ3.ปัญหาความการทุจริตคอรัปชั่น
‘สรุปสั้นๆคือทีมเศรษฐกิจสุดท้ายก็ไม่มีการบุคคลภายนอกเข้ามาเสริมเลย แต่เป็นลักษณะของการปรับเปลี่ยนระหว่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กับ นายทนง พิริยะ แต่ผลจะเป็นอย่างไรนั้นต้องติดตามต่อไป’นายอภิสิทธิ์ กล่าวและว่าต้องดูวิธีการสร้างความชัดเจนในการปรับนโยบาย และการสร้างความเชื่อมั่นต่อไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กับการปรับครม. ก็ยังเป็นเพียงการสับเปลี่ยน แ ม้จะมีคนใหม่เข้ามาก็ตาม และที่สำคัญตนเห็นว่าไม่ควรมองข้ามเรื่องการปรับเปลี่ยนตัวบุคคลในช่วงที่เป็นรอยต่อของการทำงานระหว่างรัฐบาลกับคณะกรรมการสมานท์ฉันท์(กอส.) ว่าจะราบรื่นหรือไม่ อย่างไร ตนเห็นด้วยกับหลายฝ่ายที่เห็นว่านายจาตุรนต์ ฉายแสง มีความเหมาะสมกับงานด้านการปฏิรูปการศึกษา แต่ก็มีเรื่องน่าเป็นห่วงคือนายจาตุรนต์ จะทุ่มเทให้งานด้านสิทธิเสรีภาพ ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เต็มที่หรือไม่ ส่วนปัญหาทุจริตคอรัปชั่น หลังจากการปรับครม.ก็ยังไม่มีความชัดเจน จะเห็นได้ว่าการปรับครม.ครั้งนี้มีความพยายามโยกย้ายตัวรัฐมนตรี แต่รัฐมนตรีที่ข้อถูกกล่าวหาในเรื่องเครื่องตรวจระเบิดซีทีเอ็กซ์ ก็ยังมีตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดนี้ กล่าวคือแม้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จะเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แต่ก็มีคำสั่งให้กำกับดูแลงานด้านคมนาคม
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 5 ส.ค. 2548--จบ--
วันนี้(5ส.ค.)เวลา 08.30 น. นายภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าหัวพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวสัมภาษณ์ทางคลื่นวิทยุ 101.0 ในรายการข่าวยามเช้าถึงภาพรวมการปรับครม.ทักษิณ 2/2ว่า การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ไม่มีการรปรับเปลี่ยนอะไรมาก เป็นเพียงการหมุนเวียน โยกย้าย ‘เมื่อดูตามจำนวนคนหรือจำนวนตำแหน่งดูเหมือนว่ามาก แต่จริงแล้วเป็นเพียงการสลับหรือหมุนเวียนมากกว่า’ นายอภิสิทธิ์กล่าวและว่าสิ่งที่คาดหวังหลังจากมีการปรับคณะรัฐมนตรี คือการเรียกความเชื่อมั่นในปัญหาหลักๆ 3 ด้าน 1.ด้านเศรษฐกิจ 2.ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ3.ปัญหาความการทุจริตคอรัปชั่น
‘สรุปสั้นๆคือทีมเศรษฐกิจสุดท้ายก็ไม่มีการบุคคลภายนอกเข้ามาเสริมเลย แต่เป็นลักษณะของการปรับเปลี่ยนระหว่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กับ นายทนง พิริยะ แต่ผลจะเป็นอย่างไรนั้นต้องติดตามต่อไป’นายอภิสิทธิ์ กล่าวและว่าต้องดูวิธีการสร้างความชัดเจนในการปรับนโยบาย และการสร้างความเชื่อมั่นต่อไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กับการปรับครม. ก็ยังเป็นเพียงการสับเปลี่ยน แ ม้จะมีคนใหม่เข้ามาก็ตาม และที่สำคัญตนเห็นว่าไม่ควรมองข้ามเรื่องการปรับเปลี่ยนตัวบุคคลในช่วงที่เป็นรอยต่อของการทำงานระหว่างรัฐบาลกับคณะกรรมการสมานท์ฉันท์(กอส.) ว่าจะราบรื่นหรือไม่ อย่างไร ตนเห็นด้วยกับหลายฝ่ายที่เห็นว่านายจาตุรนต์ ฉายแสง มีความเหมาะสมกับงานด้านการปฏิรูปการศึกษา แต่ก็มีเรื่องน่าเป็นห่วงคือนายจาตุรนต์ จะทุ่มเทให้งานด้านสิทธิเสรีภาพ ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เต็มที่หรือไม่ ส่วนปัญหาทุจริตคอรัปชั่น หลังจากการปรับครม.ก็ยังไม่มีความชัดเจน จะเห็นได้ว่าการปรับครม.ครั้งนี้มีความพยายามโยกย้ายตัวรัฐมนตรี แต่รัฐมนตรีที่ข้อถูกกล่าวหาในเรื่องเครื่องตรวจระเบิดซีทีเอ็กซ์ ก็ยังมีตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดนี้ กล่าวคือแม้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จะเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แต่ก็มีคำสั่งให้กำกับดูแลงานด้านคมนาคม
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 5 ส.ค. 2548--จบ--