วันนี้ (7 ส.ค.) พรรคประชาธิปัตย์ นายศิริโชค ศิริโสภา ส.ส. สงขลา และกรรมการบริหาร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีการทุจริตเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด (CTX9000) ของสนามบินสุวรรณภูมิว่า สิ่งที่รัฐบาลและ บทม.ได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้ ไม่ได้เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เคยแถลงต่อสาธารณชน
นายศิริโชคกล่าวว่า ประเด็นที่ 1 กรณีที่ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.คมนาคม บอกแก่สื่อมวลชนว่าไอทีโอกำไร 400 ล้านบาท เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะจากตารางที่คณะกรรมการของนายวิษณุ นำมาแจกให้กับสื่อมวลชนนั้น ไอทีโอยืนยันตลอดว่ากำไรประมาณ 150 ล้านบาท แต่หลังจากที่มีการเปลี่ยนสัญญา จากบริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) มาเซ็นกับจีอีอินวิชั่นโดยตรง ไอทีโอกลับมีกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านบาท ซึ่งตรงนี้ รมต. ต้องตอบให้ชัดเจน เพราะด้วยเหตุนี้หรือไม่ จึงทำให้ไอทีโอยอมรับตามเงื่อนไข ด้วยเหตุเพราะกำไรของไอทีโอได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 150 ล้านบาท มาเป็น 400 ล้านบาท จึงยอมให้ บทม. ปรับ 2.5 ล้านบาทต่อวัน ตามดังที่ รมต.แถลง ซึ่งถ้าหากเป็นจริง ถือว่าเป็นการเล่นละครตบตาพี่น้องประชาชน เพราะเอกสารของนายวิษณุ ระบุไว้อย่างชัดเจน
ส.ส.สงขลา กล่าว ถึงประเด็นที่ 2 ว่า บทม.โกหก ซึ่งได้ขออนุญาตใช้คำว่า โกหก เพราะว่า บทม.ยืนยันว่าค่าใช้จ่ายในส่วนไอทีโอต้องรับเพิ่มขึ้น นั่นคือค่าขนส่ง จากเอกสารของบริษัทแพทริออต ในวันที่ชี้แจงต่อสื่อมวลชน และชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ ตารางที่ นายวรพจน์ ยศะทัตต์ หรือนายเช ได้ยืนยันต่อประชาชนว่าเหตุผลที่ราคาแพงขึ้น เพราะต้องส่งทางเครื่องบิน ซึ่งเดิมนั้นจะขนส่งทางเรือ ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 10 เท่า จาก 50,000 เหรียญ เป็น 500,000 เหรียญ วันนี้ตนได้นำเอกสารเพื่อมาเป็นสิ่งยืนยันว่า บทม. ได้แถลงไปนั้นคือการโกหกหลอกลวงพี่น้องประชาชน ราคาที่คิดเอาไว้แล้ว ก็เป็นราคาที่ส่งทางเครื่องบิน ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร
ส.ส.ศิริโชคกล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่ 3 เมื่อตอนสัญญาระหว่างแพทริออตกับอินวิชั่น ก่อนที่จะมีการเปิดสัญญาระหว่าง บทม. กับ จีอีอินวิชั่น รัฐบาลชี้แจงเหตุผลที่บวกจาก 1,432 ล้านบาท เป็น 2,003 ล้านบาท ว่าส่วนหนึ่งมาจากซอฟต์แวร์ อะไหล่ บางส่วน ซึ่งตรงนี้มีมูลค่าประมาณ 225-242 ล้านบาท ซึ่งปรากฏในเอกสารของคุณเชเหมือนกันว่า มูลค่าของซอฟต์แวร์เหล่านี้ เครือข่ายรวมสัญญาณของเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรแกรมตรวจสอบกระเป๋า โปรแกรมและวิธีใช้งานของระบบตรวจสอบกระเป๋า โปรแกรมสำหรับตรวจสอบยาเสพติด เฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องตรวจสอบกระเป๋า ตู้ควบคุมสำหรับการตรวจสอบวัตถุระเบิด ผู้เชี่ยวชาญสำหรับการติดตั้ง การประสานงานและเชื่อมโยงระบบสายพาน การประสานและเชื่อมโยงระบบให้เข้ากับระบบย่อยๆ ชิ้นส่วนสำรอง ช่างฝึกอบรม รวมทั้งสิ้นประมาณ 252 ล้านบาท ซึ่งปรากฏในเอกสารที่นายวิษณุนำมาชี้แจงต่อประชาชน วันนี้รายการเหล่านี้หายไปเหลือเพียงไม่กี่รายการ เหลือระบบการตรวจสอบยาเสพติด เหลือระบบไฟฟ้า เหลือการอบรม รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 75 ล้านบาท แต่ปรากฏว่ามี 2 รายการเพิ่มเติมคือ ค่าดำเนินการ 9% เป็นเงิน 191 ล้านบาท และรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉิน 2.7% เป็นมูลค่า 66,521,038 บาท ทั้งสองรายการไม่เคยปรากฏให้เอกสารชี้แจงของนายวิษณุเลย
"หลังเปิดสัญญาเห็นว่ามีอุปกรณ์ซ้ำซ้อน จึงตัดอุปกรณ์เหล่านี้ออก แล้วไปเพิ่มอีก 2 รายการเข้ามา เพื่อตกแต่งตัวเลขให้เท่ากับ 2,608 ล้านบาท เท่าเดิม นี่คือตัวอย่างที่ต้องการจะแสดงให้เห็นว่ามันมีส่วนต่างกับราคาจริง แล้ววันนี้ บทม. ก็เท่ากับยอมรับหรือจำนนในด้านเอกสารแล้ว คือมีความจำเป็นต้องไปบวกในส่วนของสำรองจ่ายฉุกเฉิน ทั้งๆ ที่รายการนี้ไม่เคยมีปรากฏในเอกสารมาก่อน ผมจึงยืนยันตลอดว่ากระทรวงคมนาคมและ บทม. โกหกประชาชน ฉะนั้น รมต. ต้องตอบคำถามว่า ทำไมเมื่อเปลี่ยนสัญญาแล้ว ไอทีโอจึงกำไรเพิ่มจาก 150 ล้านบาท เป็น 400 ล้านบาท ทั้งๆ ที่มีเอกสารยืนยันตลอด" นายศิริโชคกล่าว
และในวันอังคารนี้ จะมีการประชุมคณะทำงานด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและคมนาคมของพรรค และต้องพูดคุยถึงกรณีนี้รวมไปถึงกรณีรอยร้าวในสนามบิน เพราะดูจากวิธีการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ มีความน่าเป็นห่วง ว่าจริงๆ รอยร้าวนี้เกิดขึ้นจากอะไร ซึ่งวันอังคารนี้น่าจะมีข้อสรุปออกมาจากคณะทำงานฯ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 7 ส.ค. 2548--จบ--
นายศิริโชคกล่าวว่า ประเด็นที่ 1 กรณีที่ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.คมนาคม บอกแก่สื่อมวลชนว่าไอทีโอกำไร 400 ล้านบาท เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะจากตารางที่คณะกรรมการของนายวิษณุ นำมาแจกให้กับสื่อมวลชนนั้น ไอทีโอยืนยันตลอดว่ากำไรประมาณ 150 ล้านบาท แต่หลังจากที่มีการเปลี่ยนสัญญา จากบริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) มาเซ็นกับจีอีอินวิชั่นโดยตรง ไอทีโอกลับมีกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านบาท ซึ่งตรงนี้ รมต. ต้องตอบให้ชัดเจน เพราะด้วยเหตุนี้หรือไม่ จึงทำให้ไอทีโอยอมรับตามเงื่อนไข ด้วยเหตุเพราะกำไรของไอทีโอได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 150 ล้านบาท มาเป็น 400 ล้านบาท จึงยอมให้ บทม. ปรับ 2.5 ล้านบาทต่อวัน ตามดังที่ รมต.แถลง ซึ่งถ้าหากเป็นจริง ถือว่าเป็นการเล่นละครตบตาพี่น้องประชาชน เพราะเอกสารของนายวิษณุ ระบุไว้อย่างชัดเจน
ส.ส.สงขลา กล่าว ถึงประเด็นที่ 2 ว่า บทม.โกหก ซึ่งได้ขออนุญาตใช้คำว่า โกหก เพราะว่า บทม.ยืนยันว่าค่าใช้จ่ายในส่วนไอทีโอต้องรับเพิ่มขึ้น นั่นคือค่าขนส่ง จากเอกสารของบริษัทแพทริออต ในวันที่ชี้แจงต่อสื่อมวลชน และชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ ตารางที่ นายวรพจน์ ยศะทัตต์ หรือนายเช ได้ยืนยันต่อประชาชนว่าเหตุผลที่ราคาแพงขึ้น เพราะต้องส่งทางเครื่องบิน ซึ่งเดิมนั้นจะขนส่งทางเรือ ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 10 เท่า จาก 50,000 เหรียญ เป็น 500,000 เหรียญ วันนี้ตนได้นำเอกสารเพื่อมาเป็นสิ่งยืนยันว่า บทม. ได้แถลงไปนั้นคือการโกหกหลอกลวงพี่น้องประชาชน ราคาที่คิดเอาไว้แล้ว ก็เป็นราคาที่ส่งทางเครื่องบิน ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร
ส.ส.ศิริโชคกล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่ 3 เมื่อตอนสัญญาระหว่างแพทริออตกับอินวิชั่น ก่อนที่จะมีการเปิดสัญญาระหว่าง บทม. กับ จีอีอินวิชั่น รัฐบาลชี้แจงเหตุผลที่บวกจาก 1,432 ล้านบาท เป็น 2,003 ล้านบาท ว่าส่วนหนึ่งมาจากซอฟต์แวร์ อะไหล่ บางส่วน ซึ่งตรงนี้มีมูลค่าประมาณ 225-242 ล้านบาท ซึ่งปรากฏในเอกสารของคุณเชเหมือนกันว่า มูลค่าของซอฟต์แวร์เหล่านี้ เครือข่ายรวมสัญญาณของเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรแกรมตรวจสอบกระเป๋า โปรแกรมและวิธีใช้งานของระบบตรวจสอบกระเป๋า โปรแกรมสำหรับตรวจสอบยาเสพติด เฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องตรวจสอบกระเป๋า ตู้ควบคุมสำหรับการตรวจสอบวัตถุระเบิด ผู้เชี่ยวชาญสำหรับการติดตั้ง การประสานงานและเชื่อมโยงระบบสายพาน การประสานและเชื่อมโยงระบบให้เข้ากับระบบย่อยๆ ชิ้นส่วนสำรอง ช่างฝึกอบรม รวมทั้งสิ้นประมาณ 252 ล้านบาท ซึ่งปรากฏในเอกสารที่นายวิษณุนำมาชี้แจงต่อประชาชน วันนี้รายการเหล่านี้หายไปเหลือเพียงไม่กี่รายการ เหลือระบบการตรวจสอบยาเสพติด เหลือระบบไฟฟ้า เหลือการอบรม รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 75 ล้านบาท แต่ปรากฏว่ามี 2 รายการเพิ่มเติมคือ ค่าดำเนินการ 9% เป็นเงิน 191 ล้านบาท และรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉิน 2.7% เป็นมูลค่า 66,521,038 บาท ทั้งสองรายการไม่เคยปรากฏให้เอกสารชี้แจงของนายวิษณุเลย
"หลังเปิดสัญญาเห็นว่ามีอุปกรณ์ซ้ำซ้อน จึงตัดอุปกรณ์เหล่านี้ออก แล้วไปเพิ่มอีก 2 รายการเข้ามา เพื่อตกแต่งตัวเลขให้เท่ากับ 2,608 ล้านบาท เท่าเดิม นี่คือตัวอย่างที่ต้องการจะแสดงให้เห็นว่ามันมีส่วนต่างกับราคาจริง แล้ววันนี้ บทม. ก็เท่ากับยอมรับหรือจำนนในด้านเอกสารแล้ว คือมีความจำเป็นต้องไปบวกในส่วนของสำรองจ่ายฉุกเฉิน ทั้งๆ ที่รายการนี้ไม่เคยมีปรากฏในเอกสารมาก่อน ผมจึงยืนยันตลอดว่ากระทรวงคมนาคมและ บทม. โกหกประชาชน ฉะนั้น รมต. ต้องตอบคำถามว่า ทำไมเมื่อเปลี่ยนสัญญาแล้ว ไอทีโอจึงกำไรเพิ่มจาก 150 ล้านบาท เป็น 400 ล้านบาท ทั้งๆ ที่มีเอกสารยืนยันตลอด" นายศิริโชคกล่าว
และในวันอังคารนี้ จะมีการประชุมคณะทำงานด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและคมนาคมของพรรค และต้องพูดคุยถึงกรณีนี้รวมไปถึงกรณีรอยร้าวในสนามบิน เพราะดูจากวิธีการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ มีความน่าเป็นห่วง ว่าจริงๆ รอยร้าวนี้เกิดขึ้นจากอะไร ซึ่งวันอังคารนี้น่าจะมีข้อสรุปออกมาจากคณะทำงานฯ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 7 ส.ค. 2548--จบ--