วันนี้ ( 29 พ.ย. 48 ) เวลา 13.00 น. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงภายหลังการประชุมวันนี้ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาประเด็นใหญ่ 3 เรื่องด้วยกันคือ 1. กรณีที่สมาชิกพรรคไทยรักไทยเสนอร่างพระราชบัญญัติกระจายอำนาจให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าสู่วาระการประชุมสภาในวันพุธที่ 30 พ.ย. 48 ซึ่งมีข่าวว่ารัฐบาลจะนำเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณา โดยที่ประชุมวิปฝ่ายค้านมีข้อเรียกร้องต่อกรณีดังกล่าว 2 ประเด็นคือ 1. ให้พรรคไทยรักไทยพิจารณาถอนเรื่องนี้กลับไปและจัดให้มีการหารือ 4 ฝ่าย คือ ผู้ที่กำกับกฎหมาย ครู องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน ก่อนที่จะเสนอเข้าสู่สภาอีกครั้ง 2. หากรัฐบาลไม่ถอนร่างนี้และยืนยันนำเข้าสู่สภา พรรคฝ่ายค้านจะดูว่ารัฐบาลจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและมีมติออกมาอย่างไร นอกจากนี้จะดูในมติขององค์กรครูที่มาชุมนุมที่หน้ากระทรวงศึกษา อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ย.) เวลา 10.30 น. วิปฝ่ายค้านจะประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ก่อนที่จะมีมติต่อไป
ประเด็นที่สองที่มีการหยิบยกขึ้นมาพิจารณาในที่ประชุม คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยที่ประชุมมีมติดังนี้ 1. พรรคฝ่ายค้านจะเสนอกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่สภาแต่จะเป็นคนละหลักการกับที่รัฐบาลเสนอ คือ รัฐบาลให้แก้ในส่วนของการสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และการเลือกตั้งแต่งตั้งประธานศาลรัฐธรรมนูญ แต่ในส่วนของฝ่ายค้านจะเสนอให้มีช่องทางการแก้รัฐธรรมนูญที่มาจากภาคประชาชน เพราะ 1. รัฐธรรมนูญประกาศใช้มามากกว่า 8 ปีแล้ว ทำให้เห็นข้อดีและสิ่งที่ต้องแก้ไข 2. ปัญหาจากกติกาของรัฐธรรมนูญที่มีข้อวิจารณ์อยู่ 3 เรื่องคือ 1.อคติของพรรคการเมืองที่เอื้อให้พรรคการเมืองใหญ่ยิ่งเติบโต ในขณะที่พรรคการเมืองเล็กต้องล่มสลาย 2.องค์กรอิสระถูกครอบงำ และ 3.ปัญหาของกลไกการตรวจสอบอำนาจรัฐ ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้าจะมีการเสนอคณะทำงานยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ประเด็นสุดท้าย กรณีที่รัฐบาลเสนอแก้ไขกฎหมายองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ วิปฝ่ายค้านเห็นว่ารัฐบาลยังไม่มีเหตุผลเพียงพอในการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งการอ้างสาเหตุเรื่องเคเบิลทีวีกับกรณีวิทยุชุมชนนั้น ก็ไม่ใช่ปัญหาขององค์กร แต่ปัญหาเกิดจากภาครัฐมากกว่า ทั้งนี้คิดว่ารัฐบาลไม่ควรเสนอร่างกฎหมายนี้แต่อย่างไรก็ตามทางวิปฝ่ายค้านจะพิจารณาร่างของรัฐบาลว่ามีเนื้อหาอย่างไร ซึ่งจะได้พิจารณาและหามาตรการต่อไป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 29 พ.ย.2548--จบ--
ประเด็นที่สองที่มีการหยิบยกขึ้นมาพิจารณาในที่ประชุม คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยที่ประชุมมีมติดังนี้ 1. พรรคฝ่ายค้านจะเสนอกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่สภาแต่จะเป็นคนละหลักการกับที่รัฐบาลเสนอ คือ รัฐบาลให้แก้ในส่วนของการสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และการเลือกตั้งแต่งตั้งประธานศาลรัฐธรรมนูญ แต่ในส่วนของฝ่ายค้านจะเสนอให้มีช่องทางการแก้รัฐธรรมนูญที่มาจากภาคประชาชน เพราะ 1. รัฐธรรมนูญประกาศใช้มามากกว่า 8 ปีแล้ว ทำให้เห็นข้อดีและสิ่งที่ต้องแก้ไข 2. ปัญหาจากกติกาของรัฐธรรมนูญที่มีข้อวิจารณ์อยู่ 3 เรื่องคือ 1.อคติของพรรคการเมืองที่เอื้อให้พรรคการเมืองใหญ่ยิ่งเติบโต ในขณะที่พรรคการเมืองเล็กต้องล่มสลาย 2.องค์กรอิสระถูกครอบงำ และ 3.ปัญหาของกลไกการตรวจสอบอำนาจรัฐ ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้าจะมีการเสนอคณะทำงานยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ประเด็นสุดท้าย กรณีที่รัฐบาลเสนอแก้ไขกฎหมายองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ วิปฝ่ายค้านเห็นว่ารัฐบาลยังไม่มีเหตุผลเพียงพอในการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งการอ้างสาเหตุเรื่องเคเบิลทีวีกับกรณีวิทยุชุมชนนั้น ก็ไม่ใช่ปัญหาขององค์กร แต่ปัญหาเกิดจากภาครัฐมากกว่า ทั้งนี้คิดว่ารัฐบาลไม่ควรเสนอร่างกฎหมายนี้แต่อย่างไรก็ตามทางวิปฝ่ายค้านจะพิจารณาร่างของรัฐบาลว่ามีเนื้อหาอย่างไร ซึ่งจะได้พิจารณาและหามาตรการต่อไป
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 29 พ.ย.2548--จบ--