ไทยและชิลีจับมือกันร่วมศึกษาส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน

          กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเปิดเผยผลการศึกษาร่วมไทย-ชิลี สรุปได้ว่าหากทั้งสองประเทศมีความตกลงการค้าเสรีระหว่างกันแล้ว จะทำให้การค้าสินค้า  บริการ และการลงทุนระหว่างกันขยายตัวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การที่ทั้งสองประเทศมีระบบสาธารณูปโภค ตลอดจนการขนส่งที่ดีจะทำให้ทั้งสองประเทศสามารถเป็นประตูเชื่อมการค้าระหว่างเอเซียตะวันออกเฉียงใต้กับละติน อเมริกาได้ในอนาคต 
          ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงรายงานการศึกษา ซึ่งครอบคลุมถึงหัวข้อภาพรวมทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับชิลี นโยบายและระบบการค้าและการลงทุนของแต่ละประเทศ การค้าบริการ ภาคเกษตรกรรม ความโปร่งใส ความร่วมมือในสาขาต่างๆ ตลอดจนการศึกษาวิเคราะห์เชิงปริมาณ เพื่อวิเคราะห์และประเมินผลกระทบจากการลดภาษีต่อการค้า และการลงทุนระหว่างกัน โดยใช้แบบจำลองทางเศรษฐศาสตร์ (Partial Equilibrium Model) ซึ่งจากการวิเคราะห์และประเมินผล ฝ่ายไทยพบว่า ในปี 2548 การค้าระหว่างกันจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีก 5,552 ล้านบาท เทียบกับมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับชิลีที่เกิดขึ้นจริงในปี 2548 ซึ่งมีมูลค่า 11,331 ล้านบาทแล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ฝ่ายชิลีพบว่า ในปี 2548 มูลค่าการค้าระหว่างกันจะเพิ่มขึ้นอีก 4,480 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากมูลค่าจริงในปี 2548 ร้อยละ 40 
          นอกจากนี้ ผลการศึกษายังพบว่า หากมีความตกลงการค้าเสรีระหว่างกันแล้ว จะส่งผลให้การค้าบริการและการลงทุนขยายตัวยิ่งขึ้น ประกอบกับทั้งสองประเทศต่างก็มีระบบสาธารณูปโภคและการขนส่งที่ดี ดังนั้นทั้งสองประเทศจะสามารถเป็นประตูเชื่อมการค้าระหว่างเอเซียตะวันออกเฉียงใต้กับละตินอเมริกาได้ในอนาคต
          จากประสบการณ์ของชิลีในการทำเขตการค้าเสรีกับเม็กซิโกและแคนาดา พบว่ามูลค่าการค้าระหว่างกันหลังการมีความตกลงการค้าเสรีขยายตัวมากกว่าที่ประมาณการไว้ เนื่องจากมีการค้าขายในรายการสินค้าที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพในการผลิตแต่ไม่เคยค้าขายกันมาก่อน 
          การร่วมกันศึกษาระหว่างไทยกับชิลี เป็นผลสืบเนื่องจากในระหว่างการประชุมผู้นำเอเปค ครั้งที่ 13 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2548 ณ เมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย และ Mr.Ignacio Walker รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศชิลี ได้มีแถลงการณ์ร่วมกันศึกษาเพื่อหาแนวทางในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุน โดยวิเคราะห์ขอบเขต ความเป็นไปได้ และผลประโยชน์จากการทำความตกลงการค้าเสรี 
          ทั้งนี้มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับชิลีในระยะ 6 เดือนแรกของปี 2549 มีมูลค่า 8,451 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2548 ร้อยละ 40 โดยจำแนกเป็นมูลค่าที่ไทยส่งออกไปยังชิลี 4,418 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 86 และมูลค่านำเข้าจากชิลี 4,033 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้าชิลี 385 ล้านบาท สินค้าออกที่สำคัญของไทยที่ส่งเข้าชิลีได้แก่ รถยนต์ เครื่องซักผ้า อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ฯลฯ ส่วนสินค้าเข้าที่สำคัญได้แก่ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง สินแร่โลหะ สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ฯ
          กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-