การส่งออกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์รวม 9 เดือนแรก ปี 2549 มีมูลค่า 1,158,770 ล้านบาทเพิ่มขึ้น ร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 2548 เป็นจากการขยายตัวของเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 18 และเครื่องใช้ไฟฟ้ายังคงทรงตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียงร้อยละ 2 เท่านั้น เนื่องจากการส่งออกสินค้าหลัก เช่น เครื่องปรับอากาศ ที่ชะลอตัวจากเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและผลกระทบบางส่วนจากการกฎระเบียบ EU ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของสินค้านี้ อีกทั้งตลาดญี่ปุ่นที่ลดลงเช่นกัน ถึงร้อยละ 29 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอาจเนื่องจากรุ่นการผลิตค่อนข้างเก่าไม่ตอบสนองความต้องการของตลาดไทยเผชิญกับการแข่งขันของตลาดจีนที่ส่งออกกลับยังบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นเช่นกัน ซึ่งแต่เดิมตั้งเป้าหมายจะขายในประเทศจีนเองเป็นส่วนใหญ่
สำหรับการส่งออกทั้งกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิกส์ในเดือนกันยายนมีมูลค่า 139,552 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้นถึงร้อยละ1 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนและเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในส่วนมูลค่าส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ มีมูลค่าส่งออก 88,892 ล้านบาท ชะลอตัวร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนและปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้แก่ ส่วนประกอบของอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเพิ่มขึ้นไม่มากนักเนื่องจากตลาดส่งออกใหญ่อย่างจีนลดลงมากถึงร้อยละ 46 เมื่อเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังมีการทำการซื้อขายแนวใหม่อย่างธุรกิจ dot-com เพื่อแบ่งส่วนตลาดบางส่วนไปโดยพร้อมที่จะสู้ด้วยราคาและทำยอดขายเพิ่ม market share อีกด้วย
3. แนวโน้ม
ภาวการณ์ผลิตและขายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในเดือนตุลาคม 2549 และไตรมาส 4 คาดว่าในกลุ่มภาพและเครื่องเสียง (AV) อาจจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปี เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลต่างๆ ส่วนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนกันยายนและช่วงปลายปี คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงเช่นกัน เนื่องจากความต้องการสินค้า Consumer Electronic ของโลกที่ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เช่น Notebook MP3 DVD Player เป็นต้น ซึ่งในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จะอาศัยการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนกันยายน 2549 มีค่า 172.52 เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2549 (171.26) ร้อยละ 0.7 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (163.89) ร้อยละ 5.3
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2549 ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่องคำนวณ อุตสาหกรรมการแปรรูปผลไม้และผัก อุตสาหกรรมการผลิตมอลต์ลิกเคอและมอลต์ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง อุตสาหกรรมการผลิตอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดไว้ในที่อื่น เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่องคำนวณอุตสาหกรรมการผลิตอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดไว้ในที่อื่น อุตสาหกรรมการผลิตมอลต์ลิกเคอและมอลต์ อุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันจากพืช น้ำมันจากสัตว์ และไขมันจากสัตว์ อุตสาหกรรมการแปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ เป็นต้น
- อัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนกันยายน 2549 มีค่า 68.27 ทรงตัวโดยลดลงเล็กน้อยจากเดือนสิงหาคม 2549 (68.89) และลดลงเล็กน้อยจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (69.15)
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตทรงตัวโดยลดลงเล็กน้อยจากเดือนสิงหาคม 2549 ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตเยื่อกระดาษ กระดาษ และกระดาษแข็ง อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมอุตสาหกรรมการผลิตเม็ดพลาสติก อุตสาหกรรมการผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงเล็กน้อยจากเดือนเดียวกันของปีก่อนได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม อุตสาหกรรมการผลิตเม็ดพลาสติก อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ เป็นต้น
สถานภาพการประกอบกิจการอุตสาหกรรมเดือนกันยายน 549
- ภาวะการประกอบกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนกันยายน 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม 2549 มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการจำนวน 573 ราย เพิ่มขึ้นในจำนวนที่น้อยกว่าเดือนสิงหาคม 2549 ซึ่งมีโรงงานเริ่มประกอบกิจการจำนวน 583 รายหรือน้อยกว่าร้อยละ -1.7 ในส่วนของจำนวนเงินลงทุน มียอดเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 20,720.34 ล้านบาทลดลงจากเดือนสิงหาคม 2549 ซึ่งมีการ
ลงทุนเพิ่ม 33,261.38 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ --37.7 และการจ้างงานรวมมีจำนวน 18,236 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2549 ที่มีจำนวนการจ้างงาน 15,263 คน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.5
- ภาวะการประกอบกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนกันยายน 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการเพิ่มขึ้นในจำนวนที่น้อยกว่าเดือนกันยายน 2548 ซงมีโรงงานเริ่มประกอบกิจการจำนวน 616 รายหรือคิดเป็นจำนวนน้อยกว่าร้อยละ -7.0 และมีการจ้างงานลดลงจากเดือนกันยายน 2548 ที่มีจำนวนการจ้างงาน 19,521 คน ร้อยละ -6.6 ในส่วนของ
จำนวนเงินลงทุนลดลงจากเดือนกันยายน 2548 ซึ่งมีการลงทุนเพิ่ม 39,488.40 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ -47.5
- อุตสาหกรรมที่มีจำนวนโรงงานเริ่มประกอบกิจการมากที่สุดในเดือนกันยายน 2549 คือ อุตสาหกรรมขุดหรือลอก กรวด ทรายหรือดิน จำนวน 61 ราย รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำเครื่องเรือนจากไม้ ยาง อโลหะอื่น ซึ่งมิได้ทำจากพลาสติกอัดเข้ารูป จำนวน 43 ราย
- อุตสาหกรรมที่เริ่มประกอบกิจการโดยมีการลงทุนสูงสุดในเดือนกันยายน 2549 คืออุตสาหกรรมสร้าง ดัดแปลง เปลี่ยนแปลงสภาพอากาศยาน หรือเรือไฮโดรคราฟท์ 3,968 ล้านบาท รองลงมาคือ อุตสาหกรรมชุบเคลือบผิวผลิตภัณฑ์ โดยไม่มีการผลิต มีเงินทุน 2,096 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่เริ่มประกอบกิจการและมีการจ้างงานสูงสุดในเดือนกันยายน 2549 คือ อุตสาหกรรมผลิต ซ่อมเครื่องรับวิทยุ เครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องเรดาร์ คาปาซิเตอร์ คนงาน 3,328 คน รองลงมาคือ อุตสาหกรรมตัดเย็บเครื่องนุ่งห่ม ผ้าเช็ดหน้า เนกไท ถุงมือ ถุงเท้าจากผ้า หนังสัตว์ คนงาน 2,878 คน
- ภาวะการเลิกกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนกันยายน 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม 2549 มีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 128 ราย น้อยกว่าเดือนสิงหาคม 2549 ซึ่งมีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 183 ราย คิดเป็นร้อยละ -30.1 ในส่วนของเงินทุนมีจำนวน 3,207.11 ล้านบาท น้อยกว่าเดือนสิงหาคมที่การเลิกกิจการคิดเป็นเงินทุน 5,685.14 ล้านบาท
สำหรับการเลิกจ้างงานมีจำนวน 3,818 คน น้อยกว่าเดือนสิงหาคม 2549 ซึ่งเลิกจ้างงานจำนวน 6,800 คน
- ภาวะการเลิกกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนกันยายน 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวนน้อยกว่าเดือนกันยายน 2548 ซึ่งมีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 390 ราย คิดเป็นร้อยละ -67.2 ในส่วนการเลิกจ้างงานน้อยกว่าเดือนกันยายน 2548 ที่การเลิกจ้างงานมีจำนวน 7,115 คน และในส่วนของเงินทุนของการเลิกกิจการน้อยกว่าเดือนกันยายน 2548 ที่การเลิกกิจการคิดเป็นเงินทุน 4,812.51 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่มีจำนวนโรงงานเลิกกิจการมากที่สุดในเดือนกันยายน 2549 คือ อุตสาหกรรมทำผลิตภัณฑ์คอนกรีต คอนกรีตผสม ผลิตภัณฑ์ยิมซั่ม ปูนปลาสเตอร์ จำนวน 13 ราย รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำเครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องเรือน เครื่องประดับจากพลาสติกและอุตสาหกรรมกลึง เจาะ คว้าน กัด ไส เจียน เชื่อมโลหะทั่วไป จำนวน 8 รายเท่ากัน
- อุตสาหกรรมที่เลิกประกอบกิจการโดยที่มีเงินลงทุนสูงสุดในเดือนกันยายน 2549 คือ อุตสาหกรรมทำขนมปัง หรือขนมเค็ก เงินทุน 616 ล้านบาท รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทอหรือเตรียมเส้นด้ายยืนสำหรับการทอ เงินทุน 581 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่เลิกประกอบกิจการและจำนวนคนงานสูงสุดในเดือนกันยายน 2549 คือ อุตสาหกรรมทำทอหรือเตรียมเส้นด้ายยืนสำหรับการทอ คนงาน 762 คน รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำเครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องเรือน เครื่องประดับจากพลาสติก คนงาน 439 คน
- ภาวะการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในเดือนกันยายน 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม 2549 มีจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก สกท. ทั้งสิ้น 75 โครงการ น้อยกว่าเดือนสิงหาคม 2549 ที่มีจำนวน 134 โครงการ หรือลดลงร้อยละ -44.0 และมีเงินลงทุน 8,900 ล้านบาท น้อยกว่าเดือนสิงหาคม 2549 ที่มีเงินลงทุน 43,300 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ -79.4
- ภาวะการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในเดือนกันยายน 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก สกท.น้อยกว่าเดือนกันยายน 2548 ที่มีจำนวน 108 โครงการ ร้อยละ -30.6 และมีเงินลงทุนน้อยกว่าเดือนกันยายน 2548 ที่มีเงินลงทุน 33,600 ล้านบาท ร้อยละ -73.5
- การกระจายหุ้นของโครงการที่ได้รับการอนุมัติให้การส่งเสริมในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย.2549
การร่วมทุน จำนวน(โครงการ) มูลค่าเงินลงทุน(ล้านบาท)
1.โครงการคนไทย 100% 315 56,400
2.โครงการต่างชาติ 100% 300 91,400
3.โครงการร่วมทุนไทยและต่างชาติ 281 121,900
- ประเภทกิจการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย.2549 คือ หมวดเคมี กระดาษ และพลาสติกมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 106,900 ล้านบาท รองลงมา คือ หมวดอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องไฟฟ้า มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 48,000 ล้านบาท
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
สำหรับการส่งออกทั้งกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิกส์ในเดือนกันยายนมีมูลค่า 139,552 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้นถึงร้อยละ1 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนและเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในส่วนมูลค่าส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ มีมูลค่าส่งออก 88,892 ล้านบาท ชะลอตัวร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนและปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้แก่ ส่วนประกอบของอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเพิ่มขึ้นไม่มากนักเนื่องจากตลาดส่งออกใหญ่อย่างจีนลดลงมากถึงร้อยละ 46 เมื่อเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังมีการทำการซื้อขายแนวใหม่อย่างธุรกิจ dot-com เพื่อแบ่งส่วนตลาดบางส่วนไปโดยพร้อมที่จะสู้ด้วยราคาและทำยอดขายเพิ่ม market share อีกด้วย
3. แนวโน้ม
ภาวการณ์ผลิตและขายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในเดือนตุลาคม 2549 และไตรมาส 4 คาดว่าในกลุ่มภาพและเครื่องเสียง (AV) อาจจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปี เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลต่างๆ ส่วนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนกันยายนและช่วงปลายปี คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงเช่นกัน เนื่องจากความต้องการสินค้า Consumer Electronic ของโลกที่ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เช่น Notebook MP3 DVD Player เป็นต้น ซึ่งในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จะอาศัยการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนกันยายน 2549 มีค่า 172.52 เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2549 (171.26) ร้อยละ 0.7 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (163.89) ร้อยละ 5.3
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2549 ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่องคำนวณ อุตสาหกรรมการแปรรูปผลไม้และผัก อุตสาหกรรมการผลิตมอลต์ลิกเคอและมอลต์ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง อุตสาหกรรมการผลิตอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดไว้ในที่อื่น เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรสำนักงาน เครื่องทำบัญชีและเครื่องคำนวณอุตสาหกรรมการผลิตอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดไว้ในที่อื่น อุตสาหกรรมการผลิตมอลต์ลิกเคอและมอลต์ อุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันจากพืช น้ำมันจากสัตว์ และไขมันจากสัตว์ อุตสาหกรรมการแปรรูปและการถนอมสัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ เป็นต้น
- อัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนกันยายน 2549 มีค่า 68.27 ทรงตัวโดยลดลงเล็กน้อยจากเดือนสิงหาคม 2549 (68.89) และลดลงเล็กน้อยจากเดือนเดียวกันของปีก่อน (69.15)
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตทรงตัวโดยลดลงเล็กน้อยจากเดือนสิงหาคม 2549 ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตเยื่อกระดาษ กระดาษ และกระดาษแข็ง อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมอุตสาหกรรมการผลิตเม็ดพลาสติก อุตสาหกรรมการผลิตหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
- อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงเล็กน้อยจากเดือนเดียวกันของปีก่อนได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องรับโทรทัศน์และวิทยุ และสินค้าที่เกี่ยวข้อง อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม อุตสาหกรรมการผลิตเม็ดพลาสติก อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ เป็นต้น
สถานภาพการประกอบกิจการอุตสาหกรรมเดือนกันยายน 549
- ภาวะการประกอบกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนกันยายน 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม 2549 มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการจำนวน 573 ราย เพิ่มขึ้นในจำนวนที่น้อยกว่าเดือนสิงหาคม 2549 ซึ่งมีโรงงานเริ่มประกอบกิจการจำนวน 583 รายหรือน้อยกว่าร้อยละ -1.7 ในส่วนของจำนวนเงินลงทุน มียอดเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 20,720.34 ล้านบาทลดลงจากเดือนสิงหาคม 2549 ซึ่งมีการ
ลงทุนเพิ่ม 33,261.38 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ --37.7 และการจ้างงานรวมมีจำนวน 18,236 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2549 ที่มีจำนวนการจ้างงาน 15,263 คน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.5
- ภาวะการประกอบกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนกันยายน 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการเพิ่มขึ้นในจำนวนที่น้อยกว่าเดือนกันยายน 2548 ซงมีโรงงานเริ่มประกอบกิจการจำนวน 616 รายหรือคิดเป็นจำนวนน้อยกว่าร้อยละ -7.0 และมีการจ้างงานลดลงจากเดือนกันยายน 2548 ที่มีจำนวนการจ้างงาน 19,521 คน ร้อยละ -6.6 ในส่วนของ
จำนวนเงินลงทุนลดลงจากเดือนกันยายน 2548 ซึ่งมีการลงทุนเพิ่ม 39,488.40 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ -47.5
- อุตสาหกรรมที่มีจำนวนโรงงานเริ่มประกอบกิจการมากที่สุดในเดือนกันยายน 2549 คือ อุตสาหกรรมขุดหรือลอก กรวด ทรายหรือดิน จำนวน 61 ราย รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำเครื่องเรือนจากไม้ ยาง อโลหะอื่น ซึ่งมิได้ทำจากพลาสติกอัดเข้ารูป จำนวน 43 ราย
- อุตสาหกรรมที่เริ่มประกอบกิจการโดยมีการลงทุนสูงสุดในเดือนกันยายน 2549 คืออุตสาหกรรมสร้าง ดัดแปลง เปลี่ยนแปลงสภาพอากาศยาน หรือเรือไฮโดรคราฟท์ 3,968 ล้านบาท รองลงมาคือ อุตสาหกรรมชุบเคลือบผิวผลิตภัณฑ์ โดยไม่มีการผลิต มีเงินทุน 2,096 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่เริ่มประกอบกิจการและมีการจ้างงานสูงสุดในเดือนกันยายน 2549 คือ อุตสาหกรรมผลิต ซ่อมเครื่องรับวิทยุ เครื่องรับโทรทัศน์ เครื่องเรดาร์ คาปาซิเตอร์ คนงาน 3,328 คน รองลงมาคือ อุตสาหกรรมตัดเย็บเครื่องนุ่งห่ม ผ้าเช็ดหน้า เนกไท ถุงมือ ถุงเท้าจากผ้า หนังสัตว์ คนงาน 2,878 คน
- ภาวะการเลิกกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนกันยายน 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม 2549 มีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 128 ราย น้อยกว่าเดือนสิงหาคม 2549 ซึ่งมีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 183 ราย คิดเป็นร้อยละ -30.1 ในส่วนของเงินทุนมีจำนวน 3,207.11 ล้านบาท น้อยกว่าเดือนสิงหาคมที่การเลิกกิจการคิดเป็นเงินทุน 5,685.14 ล้านบาท
สำหรับการเลิกจ้างงานมีจำนวน 3,818 คน น้อยกว่าเดือนสิงหาคม 2549 ซึ่งเลิกจ้างงานจำนวน 6,800 คน
- ภาวะการเลิกกิจการของโรงงานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนกันยายน 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวนน้อยกว่าเดือนกันยายน 2548 ซึ่งมีโรงงานที่ปิดดำเนินกิจการจำนวน 390 ราย คิดเป็นร้อยละ -67.2 ในส่วนการเลิกจ้างงานน้อยกว่าเดือนกันยายน 2548 ที่การเลิกจ้างงานมีจำนวน 7,115 คน และในส่วนของเงินทุนของการเลิกกิจการน้อยกว่าเดือนกันยายน 2548 ที่การเลิกกิจการคิดเป็นเงินทุน 4,812.51 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่มีจำนวนโรงงานเลิกกิจการมากที่สุดในเดือนกันยายน 2549 คือ อุตสาหกรรมทำผลิตภัณฑ์คอนกรีต คอนกรีตผสม ผลิตภัณฑ์ยิมซั่ม ปูนปลาสเตอร์ จำนวน 13 ราย รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำเครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องเรือน เครื่องประดับจากพลาสติกและอุตสาหกรรมกลึง เจาะ คว้าน กัด ไส เจียน เชื่อมโลหะทั่วไป จำนวน 8 รายเท่ากัน
- อุตสาหกรรมที่เลิกประกอบกิจการโดยที่มีเงินลงทุนสูงสุดในเดือนกันยายน 2549 คือ อุตสาหกรรมทำขนมปัง หรือขนมเค็ก เงินทุน 616 ล้านบาท รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทอหรือเตรียมเส้นด้ายยืนสำหรับการทอ เงินทุน 581 ล้านบาท
- อุตสาหกรรมที่เลิกประกอบกิจการและจำนวนคนงานสูงสุดในเดือนกันยายน 2549 คือ อุตสาหกรรมทำทอหรือเตรียมเส้นด้ายยืนสำหรับการทอ คนงาน 762 คน รองลงมาคือ อุตสาหกรรมทำเครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องเรือน เครื่องประดับจากพลาสติก คนงาน 439 คน
- ภาวะการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในเดือนกันยายน 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม 2549 มีจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก สกท. ทั้งสิ้น 75 โครงการ น้อยกว่าเดือนสิงหาคม 2549 ที่มีจำนวน 134 โครงการ หรือลดลงร้อยละ -44.0 และมีเงินลงทุน 8,900 ล้านบาท น้อยกว่าเดือนสิงหาคม 2549 ที่มีเงินลงทุน 43,300 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ -79.4
- ภาวะการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในเดือนกันยายน 2549 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน มีจำนวนโครงการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก สกท.น้อยกว่าเดือนกันยายน 2548 ที่มีจำนวน 108 โครงการ ร้อยละ -30.6 และมีเงินลงทุนน้อยกว่าเดือนกันยายน 2548 ที่มีเงินลงทุน 33,600 ล้านบาท ร้อยละ -73.5
- การกระจายหุ้นของโครงการที่ได้รับการอนุมัติให้การส่งเสริมในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย.2549
การร่วมทุน จำนวน(โครงการ) มูลค่าเงินลงทุน(ล้านบาท)
1.โครงการคนไทย 100% 315 56,400
2.โครงการต่างชาติ 100% 300 91,400
3.โครงการร่วมทุนไทยและต่างชาติ 281 121,900
- ประเภทกิจการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย.2549 คือ หมวดเคมี กระดาษ และพลาสติกมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 106,900 ล้านบาท รองลงมา คือ หมวดอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องไฟฟ้า มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 48,000 ล้านบาท
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-