การออกแบบผลิตภัณฑ์โลหะ (Metal Design)
วิวัฒนาการของ Metal Design
เครื่องมือเครื่องใช้ในยุคก่อนประวัติศาสตร์เริ่มจากกระดูกสัตว์และหิน ต่อมาอีกหลายพันปีจึงได้รู้จักนำโลหะมาใช้ ยุคนี้จะเรียกว่ายุคสำริด ชนเผ่าในตะวันออกกลางหรือแถบในเอเชียไมเนอร์เป็นกลุ่มแรกที่รู้จักนำทองแดงมาออกแบบเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ในยุคสมัยอียิปต์โบราณเมื่อ 4500 ปี ก่อนคริสตกาล มีการใช้ทองแดงทำเป็นอาวุธ เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เครื่องเรือน และเครื่องประดับกาย การเริ่มต้นจากทองแดงก็ทำให้อียิปต์เชี่ยวชาญเรื่องทองคำด้วย
ในยุคเมโสโปเตเมีย (ปลาย 4,000 ปี ก่อนคริสตกาล) ความนิยมของผลิตภัณฑ์โลหะทองแดงถึงขั้นสูงสุด ต่อมาได้เผยแพร่ความนิยมมายังเอเชียใต้ จากอินเดียมาถึงจีน และผ่านต่อไปยังยุโรปตามเส้นทางการค้า ชาวกรีกเรียกทองแดงว่า Chalkos เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากทองแดงในยุคนั้นก็เลยได้ชื่อว่า Chalkos ความนิยมผลิตภัณฑ์โลหะทองแดงได้เผยแพร่ไปถึงอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นการกำเนิดวัฒนธรรมการออกแบบทองแดงที่แท้จริง จึงเรียกช่วงเวลานั้นว่า Copper Calture หลังจากนั้นโลกก็เข้าสู่ยุคเหล็ก (Iron Age) เริ่มต้นราว 1,600 ปี ก่อนคริสตกาล โดยเริ่มจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อไปยังอียิปต์เมื่อราว 700 ปี ก่อนคริสตกาล งานออกแบบผลิตภัณฑ์โลหะเหล็กเฟื่องฟูมากในช่วงศตวรรษที่ 5-15 โดยเฉพาะงานศิลปะแบบโกธิค ที่ตอบสนองพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์เป็นหลัก ต่อมาถึงยุคเรอเนซอง ซึ่งเป็นยุคทองอิตาลีงานออกแบบผลิตภัณฑ์โลหะเหล็กมีความพลิ้วไหวเหมือนของจริง ยุคบาโรคต่อมาฝรั่งเศสเป็นผู้นำการออกแบบผลิตภัณฑ์โลหะเหล็ก ทำเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในราชสำนัก ในคฤหาสน์ของผู้ร่ำรวยในยุคนั้น ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 19 ผลิตภัณฑ์โลหะเหล็กได้ลดความหรูหราลง กลายเป็นของใช้สำหรับคนทุกชั้น และในเวลาต่อมานักออกแบบจากกลุ่มสแกนดิเนเวียและเยอรมันได้นำเอาเหล็กมาออกแบบให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่ายนำไปสู่ยุคโมเดิร์นไลฟ์ไปทั่วโลก จากนั้นก็มีการนำโลหะชนิดต่าง ๆ มาผสมผสานกันเป็นโลหะผสมและพัฒนาตลอดเรื่อยมา ตัวอย่างเช่น โลหะอัลลอย ซึ่งเป็นโลหะผสมพิเศษที่รวมคุณสมบัติเด่น ๆ ของโลหะหลัก ผลิตได้ง่าย น้ำหนักเบา เหนียว แกร่งทนทาน สามารถรองรับเทคนิคการตกแต่งผิวแบบใหม่ ๆ ได้ดี และยังนำกลับมาแปรรูปใช้งานได้อีกด้วย เห็นได้ว่าแนวนิยมการออกแบบผลิตภัณฑ์โลหะเปลี่ยนไปเสมอในแต่ละยุคของสังคมโลก
แนวคิดในการออกแบบผลิตภัณฑ์โลหะประเภทงานเฟอร์นิเจอร์
ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์โลหะในเรื่องนี้ได้นำแนวคิดของนักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งได้ให้ข้อคิดเห็นถึงหลักในการออกแบบที่ควรประกอบด้วย
- ใช้เรื่องของการพักผ่อน และคืนฮอร์โมนของความหนุ่มสาวให้กระฉับกระเฉง มีชีวิตชีวามากขึ้นเป็นคอนเซ็ปต์หลัก
- นำเสนอเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับเมืองไทยให้มีความเป็นสากลมากขึ้น เพื่อให้การแต่งบ้านมีความเรียบง่ายไม่ซับซ้อน
- ในความเรียบง่ายนั้น ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำแบบใคร ด้านนวัตกรรมในการออกแบบที่เน้นฟังชั่นควบคู่กับความสวยงามและมีเทคนิคในเรื่องการผลิตและวัสดุ
- มีวิธีใช้ที่สามารถมองแล้วรู้ว่าใช้อย่างไร โดยไม่ต้องเปิดคู่มือให้ยุ่งยาก
- เน้นการออกแบบกึ่งแฟชั่น
- หาจังหวะที่เหมาะสมให้เข้ากับวัสดุแต่ละอย่าง ๆ ภายใต้เทคโนโลยีการผลิตและเวลาที่มีจำกัดในรูปทรงเดียวกันอาจมีได้หลายวัสดุตามแต่ความชอบของแต่ละบุคคล
- ในส่วนของเทรนด์ขณะนี้ ต้องเน้นในเรื่องของความเบาบาง โปร่ง โล่ง และการผสมผสานวัสดุ ให้ลงตัว
- การออกแบบจะมีความแปลก และมีความหวาดเสียวมากขึ้น เพื่อดึงดูดคนให้เดินเข้ามาหาและทดสอบความแข็งแรงของชิ้นงานที่ตั้งอยู่
จากแนวคิดดังกล่าว นักออกแบบยังได้ให้ข้อคิดเห็นสรุปท้ายว่า นักออกแบบไทยมีความเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องคิดอะไรใหม่ ๆ ไม่ใช่คิดอะไรที่คล้าย ๆ กัน คนไทยคิดอะไรออกมาก็คือ คนไทย จะทำให้โมเดิร์นหรือคล้ายอิตาลีแค่ไหน ก็ยังรู้สึกว่าไม่ใช่ของอิตาลี กลิ่นอายความเป็นไทยมีเสน่ห์ในตรงนี้ เหนือกว่านั้นก็คือ การเล่าเรื่องราวแนวคิดของสิ่งที่ได้ออกแบบได้ว่ามาจากอะไร คิดยังไง ควรสร้างความประทับใจในแนวคิด ดีกว่าจะบอกว่าของที่ออกแบบมานั้นเหมือนของใคร
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-
วิวัฒนาการของ Metal Design
เครื่องมือเครื่องใช้ในยุคก่อนประวัติศาสตร์เริ่มจากกระดูกสัตว์และหิน ต่อมาอีกหลายพันปีจึงได้รู้จักนำโลหะมาใช้ ยุคนี้จะเรียกว่ายุคสำริด ชนเผ่าในตะวันออกกลางหรือแถบในเอเชียไมเนอร์เป็นกลุ่มแรกที่รู้จักนำทองแดงมาออกแบบเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ในยุคสมัยอียิปต์โบราณเมื่อ 4500 ปี ก่อนคริสตกาล มีการใช้ทองแดงทำเป็นอาวุธ เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เครื่องเรือน และเครื่องประดับกาย การเริ่มต้นจากทองแดงก็ทำให้อียิปต์เชี่ยวชาญเรื่องทองคำด้วย
ในยุคเมโสโปเตเมีย (ปลาย 4,000 ปี ก่อนคริสตกาล) ความนิยมของผลิตภัณฑ์โลหะทองแดงถึงขั้นสูงสุด ต่อมาได้เผยแพร่ความนิยมมายังเอเชียใต้ จากอินเดียมาถึงจีน และผ่านต่อไปยังยุโรปตามเส้นทางการค้า ชาวกรีกเรียกทองแดงว่า Chalkos เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากทองแดงในยุคนั้นก็เลยได้ชื่อว่า Chalkos ความนิยมผลิตภัณฑ์โลหะทองแดงได้เผยแพร่ไปถึงอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นการกำเนิดวัฒนธรรมการออกแบบทองแดงที่แท้จริง จึงเรียกช่วงเวลานั้นว่า Copper Calture หลังจากนั้นโลกก็เข้าสู่ยุคเหล็ก (Iron Age) เริ่มต้นราว 1,600 ปี ก่อนคริสตกาล โดยเริ่มจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อไปยังอียิปต์เมื่อราว 700 ปี ก่อนคริสตกาล งานออกแบบผลิตภัณฑ์โลหะเหล็กเฟื่องฟูมากในช่วงศตวรรษที่ 5-15 โดยเฉพาะงานศิลปะแบบโกธิค ที่ตอบสนองพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์เป็นหลัก ต่อมาถึงยุคเรอเนซอง ซึ่งเป็นยุคทองอิตาลีงานออกแบบผลิตภัณฑ์โลหะเหล็กมีความพลิ้วไหวเหมือนของจริง ยุคบาโรคต่อมาฝรั่งเศสเป็นผู้นำการออกแบบผลิตภัณฑ์โลหะเหล็ก ทำเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในราชสำนัก ในคฤหาสน์ของผู้ร่ำรวยในยุคนั้น ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 19 ผลิตภัณฑ์โลหะเหล็กได้ลดความหรูหราลง กลายเป็นของใช้สำหรับคนทุกชั้น และในเวลาต่อมานักออกแบบจากกลุ่มสแกนดิเนเวียและเยอรมันได้นำเอาเหล็กมาออกแบบให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่ายนำไปสู่ยุคโมเดิร์นไลฟ์ไปทั่วโลก จากนั้นก็มีการนำโลหะชนิดต่าง ๆ มาผสมผสานกันเป็นโลหะผสมและพัฒนาตลอดเรื่อยมา ตัวอย่างเช่น โลหะอัลลอย ซึ่งเป็นโลหะผสมพิเศษที่รวมคุณสมบัติเด่น ๆ ของโลหะหลัก ผลิตได้ง่าย น้ำหนักเบา เหนียว แกร่งทนทาน สามารถรองรับเทคนิคการตกแต่งผิวแบบใหม่ ๆ ได้ดี และยังนำกลับมาแปรรูปใช้งานได้อีกด้วย เห็นได้ว่าแนวนิยมการออกแบบผลิตภัณฑ์โลหะเปลี่ยนไปเสมอในแต่ละยุคของสังคมโลก
แนวคิดในการออกแบบผลิตภัณฑ์โลหะประเภทงานเฟอร์นิเจอร์
ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์โลหะในเรื่องนี้ได้นำแนวคิดของนักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งได้ให้ข้อคิดเห็นถึงหลักในการออกแบบที่ควรประกอบด้วย
- ใช้เรื่องของการพักผ่อน และคืนฮอร์โมนของความหนุ่มสาวให้กระฉับกระเฉง มีชีวิตชีวามากขึ้นเป็นคอนเซ็ปต์หลัก
- นำเสนอเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับเมืองไทยให้มีความเป็นสากลมากขึ้น เพื่อให้การแต่งบ้านมีความเรียบง่ายไม่ซับซ้อน
- ในความเรียบง่ายนั้น ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำแบบใคร ด้านนวัตกรรมในการออกแบบที่เน้นฟังชั่นควบคู่กับความสวยงามและมีเทคนิคในเรื่องการผลิตและวัสดุ
- มีวิธีใช้ที่สามารถมองแล้วรู้ว่าใช้อย่างไร โดยไม่ต้องเปิดคู่มือให้ยุ่งยาก
- เน้นการออกแบบกึ่งแฟชั่น
- หาจังหวะที่เหมาะสมให้เข้ากับวัสดุแต่ละอย่าง ๆ ภายใต้เทคโนโลยีการผลิตและเวลาที่มีจำกัดในรูปทรงเดียวกันอาจมีได้หลายวัสดุตามแต่ความชอบของแต่ละบุคคล
- ในส่วนของเทรนด์ขณะนี้ ต้องเน้นในเรื่องของความเบาบาง โปร่ง โล่ง และการผสมผสานวัสดุ ให้ลงตัว
- การออกแบบจะมีความแปลก และมีความหวาดเสียวมากขึ้น เพื่อดึงดูดคนให้เดินเข้ามาหาและทดสอบความแข็งแรงของชิ้นงานที่ตั้งอยู่
จากแนวคิดดังกล่าว นักออกแบบยังได้ให้ข้อคิดเห็นสรุปท้ายว่า นักออกแบบไทยมีความเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่สิ่งสำคัญก็คือต้องคิดอะไรใหม่ ๆ ไม่ใช่คิดอะไรที่คล้าย ๆ กัน คนไทยคิดอะไรออกมาก็คือ คนไทย จะทำให้โมเดิร์นหรือคล้ายอิตาลีแค่ไหน ก็ยังรู้สึกว่าไม่ใช่ของอิตาลี กลิ่นอายความเป็นไทยมีเสน่ห์ในตรงนี้ เหนือกว่านั้นก็คือ การเล่าเรื่องราวแนวคิดของสิ่งที่ได้ออกแบบได้ว่ามาจากอะไร คิดยังไง ควรสร้างความประทับใจในแนวคิด ดีกว่าจะบอกว่าของที่ออกแบบมานั้นเหมือนของใคร
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-