กรุงเทพ--7 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานไทย-ยูนนาน ครั้งที่ 2 เพื่อกระชับความสัมพันธ์และสานต่อความร่วมมือระหว่างจังหวัดภาคเหนือตอนบนของไทยกับมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549 หลังจากที่ได้มีการประชุมคณะทำงานไทย-ยูนนาน ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนเมษายน 2547 โดยมีอธิบดีกรมเอเชียตะวันออกเป็นประธานคณะทำงานฝ่ายไทย และมีอธิบดีสำนักงานการต่างประเทศ มณฑลยูนนานเป็นประธานคณะทำงานฝ่ายจีน โดยนางโจว หง อธิบดีสำนักงานการต่างประเทศได้นำคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายยูนนานมาร่วมประชุมที่จังหวัดเชียงราย
กรอบความร่วมมือดังกล่าวมุ่งเน้นการส่งเสริมให้กลุ่มยุทธศาสตร์จังหวัดลานนามีความสัมพันธ์อันดีและมีความร่วมมืออย่างรอบด้านกับมณฑลยูนนาน ซึ่งเป็นมณฑลยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญทางจีนตอนใต้
ผลการประชุมที่สำคัญ ได้แก่
1. ด้านการค้าและการลงทุน
1.1 เห็นพ้องให้มีการจัดตั้งสภาธุรกิจไทยภาคเหนือ-ยูนนาน โดยหอการค้าภาคเหนือและ China Council for the Promotion of International Trade (CCPIT) ยูนนานจะเป็นผู้ประสานงานหลัก
1.2 คณะทำงานเฉพาะกิจ (Technical Task Force) ด้านการค้าที่จัดตั้งขึ้น จะมีการเร่งหารือเพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคการค้าระหว่างกัน
1.3 ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือในการจัดการแสดงสินค้ามากขึ้น
1.4 จีนยินดีสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าของไทยที่นครคุนหมิงและเมืองจิ่งหง ซึ่งฝ่ายไทยก็จะพิจารณาตามหลักต่างตอบแทน หากจีนประสงค์จะจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าในไทย
2. ด้านการท่องเที่ยวและคมนาคม
2.1 ทั้งสองฝ่ายได้พิจารณาที่จะขยายความร่วมมือในการให้ Visa on Arrival แก่นักท่องเที่ยวไทย-จีน เพื่ออำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยว โดยเมื่อเส้นทางคมนาคมถนนสาย R3E ที่ผ่านลาวเสร็จสมบูรณ์ในปี 2007 รวมทั้งเส้นทาง R3W ที่ผ่านพม่าเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะมีปริมาณนักท่องเที่ยวไปมาหาสู่กันมากขึ้น
2.2 ฝ่ายจีนเสนอให้ตั้งกลุ่มทำงานเฉพาะกิจด้านท่องเที่ยวภายใต้คณะทำงานฯ โดยให้ สนง. การท่องเที่ยวของมณฑลยูนนานและ สนง.ททท. ภาคเหนือ ร่วมมือกันทำงานส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างยูนนานและกลุ่มจังหวัดลานนา ร่วมกันทำประชาสัมพันธ์เพื่อแนะนำการท่องเที่ยวทั้งในจีนและไทย และร่วมกันจัด package tour ส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งทางน้ำในแม่น้ำโขงและทางบก
3. ด้านการพัฒนาสังคม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงด้านสาธารณสุข ความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง และการศึกษา
3.1 เห็นพ้องให้มีการจัดตั้งความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องแบบใหม่ระหว่างยูนนานกับ 8 จังหวัดลานนาของไทย แทนที่จะเป็นการจับคู่ระหว่างเมือง/จังหวัด
3.2 เห็นควรจะเพิ่มความเข้มข้นในการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาเพิ่มขึ้น และจะมีการจัดตั้ง Technical Task Force เพื่อความสะดวกในการประสานงานและจัดทำฐานข้อมูลสถาบันการศึกษาที่เข้ามาเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ จะมีการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม ศิลปะ การแสดงต่างๆ รวมถึงข้อมูลด้านโบราณสถานและโบราณวัตถุ เพื่อเพิ่มพูนการไปมาหาสู่และการท่องเที่ยว
3.3 ด้านสาธารณสุข จะร่วมมือกันบนพื้นฐานความร่วมมือระหว่างรัฐบาลที่มีอยู่ 1) สร้างระบบป้องกันโรคระบาดร้ายแรงล่วงหน้า แลกเปลี่ยนวิทยาศาสตร์การแพทย์ การศึกษาวิจัยทางการแพทย์ 2) สร้างกลไกการติดต่อที่มีความสม่ำเสมอและต่อเนื่อง 3) การแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการแพทย์ทางเลือก
3.4 ด้านการป้องกันโรคพืชและโรคสัตว์ 1) มีมาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายพืชและสัตว์ร่วมกัน โดยการตั้งสถานีตรวจและกักกันที่ชายแดน 2) แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโรคระบาดสัตว์ที่สำคัญ เช่น ไข้หวัดนก โรค ปากเท้าเปื่อย และโรคสุกรบ้า 3) การทำวิจัยร่วมเรื่องโรคระบาดสัตว์ และ 4) การแลกเปลี่ยนฝึกอบรม และสัมมนาทางวิชาการ
การประชุมใช้เวลาเพียง 1 วัน แต่ก็สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและบรรลุเป้าประสงค์ที่ทั้งสองฝ่ายได้ตั้งไว้ในด้านต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเตรียมการที่ดีและเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกันอย่างจริงจัง และสามารถร่วมกันวางแนวทางที่ชัดเจนสำหรับความร่วมมือในอนาคต
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
กระทรวงการต่างประเทศได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานไทย-ยูนนาน ครั้งที่ 2 เพื่อกระชับความสัมพันธ์และสานต่อความร่วมมือระหว่างจังหวัดภาคเหนือตอนบนของไทยกับมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549 หลังจากที่ได้มีการประชุมคณะทำงานไทย-ยูนนาน ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนเมษายน 2547 โดยมีอธิบดีกรมเอเชียตะวันออกเป็นประธานคณะทำงานฝ่ายไทย และมีอธิบดีสำนักงานการต่างประเทศ มณฑลยูนนานเป็นประธานคณะทำงานฝ่ายจีน โดยนางโจว หง อธิบดีสำนักงานการต่างประเทศได้นำคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายยูนนานมาร่วมประชุมที่จังหวัดเชียงราย
กรอบความร่วมมือดังกล่าวมุ่งเน้นการส่งเสริมให้กลุ่มยุทธศาสตร์จังหวัดลานนามีความสัมพันธ์อันดีและมีความร่วมมืออย่างรอบด้านกับมณฑลยูนนาน ซึ่งเป็นมณฑลยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญทางจีนตอนใต้
ผลการประชุมที่สำคัญ ได้แก่
1. ด้านการค้าและการลงทุน
1.1 เห็นพ้องให้มีการจัดตั้งสภาธุรกิจไทยภาคเหนือ-ยูนนาน โดยหอการค้าภาคเหนือและ China Council for the Promotion of International Trade (CCPIT) ยูนนานจะเป็นผู้ประสานงานหลัก
1.2 คณะทำงานเฉพาะกิจ (Technical Task Force) ด้านการค้าที่จัดตั้งขึ้น จะมีการเร่งหารือเพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคการค้าระหว่างกัน
1.3 ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือในการจัดการแสดงสินค้ามากขึ้น
1.4 จีนยินดีสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าของไทยที่นครคุนหมิงและเมืองจิ่งหง ซึ่งฝ่ายไทยก็จะพิจารณาตามหลักต่างตอบแทน หากจีนประสงค์จะจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าในไทย
2. ด้านการท่องเที่ยวและคมนาคม
2.1 ทั้งสองฝ่ายได้พิจารณาที่จะขยายความร่วมมือในการให้ Visa on Arrival แก่นักท่องเที่ยวไทย-จีน เพื่ออำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยว โดยเมื่อเส้นทางคมนาคมถนนสาย R3E ที่ผ่านลาวเสร็จสมบูรณ์ในปี 2007 รวมทั้งเส้นทาง R3W ที่ผ่านพม่าเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะมีปริมาณนักท่องเที่ยวไปมาหาสู่กันมากขึ้น
2.2 ฝ่ายจีนเสนอให้ตั้งกลุ่มทำงานเฉพาะกิจด้านท่องเที่ยวภายใต้คณะทำงานฯ โดยให้ สนง. การท่องเที่ยวของมณฑลยูนนานและ สนง.ททท. ภาคเหนือ ร่วมมือกันทำงานส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างยูนนานและกลุ่มจังหวัดลานนา ร่วมกันทำประชาสัมพันธ์เพื่อแนะนำการท่องเที่ยวทั้งในจีนและไทย และร่วมกันจัด package tour ส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งทางน้ำในแม่น้ำโขงและทางบก
3. ด้านการพัฒนาสังคม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงด้านสาธารณสุข ความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง และการศึกษา
3.1 เห็นพ้องให้มีการจัดตั้งความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องแบบใหม่ระหว่างยูนนานกับ 8 จังหวัดลานนาของไทย แทนที่จะเป็นการจับคู่ระหว่างเมือง/จังหวัด
3.2 เห็นควรจะเพิ่มความเข้มข้นในการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาเพิ่มขึ้น และจะมีการจัดตั้ง Technical Task Force เพื่อความสะดวกในการประสานงานและจัดทำฐานข้อมูลสถาบันการศึกษาที่เข้ามาเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ จะมีการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม ศิลปะ การแสดงต่างๆ รวมถึงข้อมูลด้านโบราณสถานและโบราณวัตถุ เพื่อเพิ่มพูนการไปมาหาสู่และการท่องเที่ยว
3.3 ด้านสาธารณสุข จะร่วมมือกันบนพื้นฐานความร่วมมือระหว่างรัฐบาลที่มีอยู่ 1) สร้างระบบป้องกันโรคระบาดร้ายแรงล่วงหน้า แลกเปลี่ยนวิทยาศาสตร์การแพทย์ การศึกษาวิจัยทางการแพทย์ 2) สร้างกลไกการติดต่อที่มีความสม่ำเสมอและต่อเนื่อง 3) การแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการแพทย์ทางเลือก
3.4 ด้านการป้องกันโรคพืชและโรคสัตว์ 1) มีมาตรการควบคุมการเคลื่อนย้ายพืชและสัตว์ร่วมกัน โดยการตั้งสถานีตรวจและกักกันที่ชายแดน 2) แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโรคระบาดสัตว์ที่สำคัญ เช่น ไข้หวัดนก โรค ปากเท้าเปื่อย และโรคสุกรบ้า 3) การทำวิจัยร่วมเรื่องโรคระบาดสัตว์ และ 4) การแลกเปลี่ยนฝึกอบรม และสัมมนาทางวิชาการ
การประชุมใช้เวลาเพียง 1 วัน แต่ก็สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและบรรลุเป้าประสงค์ที่ทั้งสองฝ่ายได้ตั้งไว้ในด้านต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเตรียมการที่ดีและเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกันอย่างจริงจัง และสามารถร่วมกันวางแนวทางที่ชัดเจนสำหรับความร่วมมือในอนาคต
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-