ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ศาลปกครองกลางเพิกถอนประกาศ ธปท.ที่กำหนดคุณลักษณะต้องห้ามของอดีตกรรมการผู้จัดการ ธ.กรุงไทย
นายประศักดิ์ ศิริพาณิชย์ ตุลาการผู้แถลงคดีศาลปกครองกลาง ในคดีที่นายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการ ธ.กรุงไทย ยื่นฟ้องธนาคาร
แห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นจำเลยที่ 1 และ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ผู้ว่าการ ธปท.ในขณะนั้นเป็นจำเลยที่ 2 ในข้อหาเจ้าหน้าที่กระทำการโดย
มิชอบด้วยกฎหมาย และมีการออกกฎระเบียบโดยคำสั่งมิชอบด้วยกฎหมาย โดยได้แถลงว่า เห็นควรให้เพิกถอนประกาศ ธปท.ที่กำหนดคุณลักษณะ
ต้องห้ามของผู้ฟ้อง (นายวิโรจน์) เนื่องจากเข้าข่ายการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ส่วนคำร้องอื่นให้ยก รวมถึงกรณีที่นายวิโรจน์ฟ้องเรียกค่าเสียหาย
จาก ธปท. เนื่องจากผู้ที่ทำให้นายวิโรจน์เสียหายคือ ธ.กรุงไทย ไม่ใช่ ธปท. ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 47 หลังจาก ธปท.ซึ่ง
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการในขณะนั้น ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษผู้บริหารและพนักงาน ธ.กรุงไทย หลังตรวจพบว่ามีการปล่อยกู้ให้แก่
ลูกหนี้ที่ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้มูลค่าถึง 9,900 ล.บาท และออกประกาศห้ามนายวิโรจน์ ดำรงตำแหน่งในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเงิน
และบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (ไทยโพสต์, กรุงเทพธุรกิจ, ข่าวสด)
2. ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในเดือน ส.ค.49 ลดลง 1.93% จากเดือนก่อนหน้า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
รายงานข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในเดือน ส.ค.49 ว่า ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยมีปริมาณการใช้จ่าย
61,522.07 ล.บาท ลดลง 1.93% จากเดือนก่อนหน้า โดยปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของ ธพ.ไทยมียอดลดลงมากที่สุด 3.70% ส่วนการ
ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ออกโดยสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (นอนแบงก์) ลดลง 0.52% ขณะที่การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ออกโดยสาขา
ธนาคารต่างประเทศยังคงเพิ่มขึ้น 1.94% ทั้งนี้ หากพิจารณาแยกประเภทของการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตพบว่า การใช้จ่ายในต่างประเทศมีจำนวน
2,122.27 ล.บาท ลดลง 12.65% จากเดือนก่อนหน้า ส่วนการเบิกเงินสดล่วงหน้ามีจำนวน 13,833.26 ล.บาท ลดลง 9.77% ขณะที่ยอด
การใช้จ่ายในประเทศมีจำนวน 45,566.54 ล.บาทเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม แม้ปริมาณการใช้จ่ายรวมจะลดลง แต่ยอดสินเชื่อ
คงค้างบัตรเครดิตยังคงเพิ่มขึ้น โดยในเดือน ส.ค.49 ยอดสินเชื่อคงค้างมีจำนวน 158,696.33 ล.บาท เพิ่มขึ้น 1.53% จากเดือนก่อนหน้า
สอดคล้องกับจำนวนบัญชีบัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้น 1.29% จากเดือนก่อนหน้า โดยมีจำนวนบัญชีรวม 10,585,242 บัญชี (กรุงเทพธุรกิจ, ไทยโพสต์)
3. ภาวะเศรษฐกิจภายใต้ในเดือน ส.ค.49 ชะลอตัว ขณะที่หลายภาคธุรกิจขยายตัวได้ดี รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) แจ้งว่า ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจของภาคใต้ในภาพรวมเมื่อเดือน ส.ค.49 จะชะลอตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน แต่ในหลายภาคธุรกิจยัง
ขยายตัวได้ดี เช่น ภาคการท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 38.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การส่งออกมีมูลค่าถึง
946 ล.ดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว 22.4% โดยเฉพาะการส่งออกยางพารา ไม้ยางแปรรูป เฟอร์นิเจอร์ สัตว์แช่แข็ง และอาหารกระป๋อง
ส่วนภาคการเงิน ธพ.ในพื้นที่มียอดสินเชื่อคงค้างจำนวน 284,000 ล.บาท เพิ่มขึ้น 21.9% ขณะที่ยอดเงินฝากคงค้างมีจำนวน 363,000 ล.บาท
เพิ่มขึ้น 10.4% (มติชน)
4. คาดว่าปี 49 สินเชื่อในระบบ ธพ.จะขยายตัว 6% ตามเป้าหมาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยถึงภาพรวมการขยาย
สินเชื่อของ ธพ.ในปี 49 ว่า แนวโน้มการขยายสินเชื่อในระบบธนาคารยังอยู่ในระดับที่ดี แม้จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในหลายด้าน แต่เชื่อว่า
สินเชื่อของ ธพ.ทั้งระบบจะขยายตัวในอัตรา 6% ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เนื่องจากเป็นช่วงที่สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น
น้ำตาลและข้าว ออกสู่ตลาดส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าเกษตร และเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยการเติบโตของสินเชื่อได้มากขึ้น
(กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. คาดว่ายอดค้าปลีกของ สรอ.ในเดือน ก.ย.49 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 จากเดือนก่อน รายงานจากนิวยอร์ค เมื่อ 11 ต.ค.49
ผลสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์โดยรอยเตอร์คาดว่ายอดค้าปลีกของ สรอ.ในเดือน ก.ย.49 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 จากเดือนก่อนซึ่ง
เป็นอัตราเดียวกับเดือน ส.ค.49 โดยเป็นผลจากยอดขายรถยนต์ซึ่งจากรายงานของผู้ผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 ในขณะที่ยอดขายน้ำมัน
เชื้อเพลิงกลับลดลงจากราคาที่ลดลงมาอยู่ที่เฉลี่ย 2.31 ดอลลาร์ สรอ.ต่อแกลลอนในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ย.49 ต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือน
ก.พ.49 โดยหากไม่รวมยอดขายรถยนต์แล้วคาดว่ายอดค้าปลีกในเดือน ก.ย.49 จะไม่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน และหากไม่รวมทั้งยอดขายรถยนต์
และน้ำมันแล้วคาดว่ายอดค้าปลีกในเดือน ก.ย.49 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 จากเดือนก่อน ทั้งนี้คาดว่าเป็นผลจากราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้ผู้บริโภคมี
เงินเหลือที่จะจับจ่ายซื้อสินค้าอื่นเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดค้าปลีกในอีกหลายเดือนข้างหน้าจะเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ก.พาณิชย์ สรอ.มีกำหนดจะรายงานยอดค้าปลีกในเดือน ก.ย.49 อย่างเป็นทางการในวันที่ 13 ต.ค.49 เวลา 8.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น
(รอยเตอร์)
2. จีดีพีของเขตยูโรช่วงครึ่งหลังปี 49 และต้นปี 50 จะเติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ครั้งก่อน รายงานจากกรุงบรัสเซลส์
ประเทศเบลเยี่ยม เมื่อวันที่ 11 ต.ค.49 คณะกรรมาธิการของสหภาพยุโรป กล่าวว่า เศรษฐกิจของเขตยูโรในช่วงครึ่งหลังปี 49 และต้นปี 50
จะขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ครั้งก่อน โดยปรับลดลงพยากรณ์เศรษฐกิจในไตรมาส 3 เหลือร้อยละ 0.4 — 0.8 จากร้อยละ 0.5 — 0.9
ขณะที่ผู้ว่าการ ธ.กลางสหภาพยุโรป กล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในเขตยูโรค่อนข้างจะแข็งแกร่งกว่าข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้น ซึ่งยืนยันได้ว่าการ
ขยายตัวของเศรษฐกิจได้เร่งตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 3 ไตรมาสสุดท้าย ด้านนักเศรษฐศาสตร์หลายคนคาดว่า ธ.กลางสหภาพยุโรปจะปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. จากร้อยละ 3.25 เป็นร้อยละ 3.5 แต่ก็มีบางคนคาดว่าอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้และไปปรับขึ้นในปี 50 ถ้าเศรษฐกิจ
ชะลอตัวลง (รอยเตอร์)
3. ราคาสินค้าขายส่งของเยอรมนีในเดือน ก.ย. ลดลงจากเดือนที่แล้วร้อยละ 0.5 รายงานจากเบอร์ลิน เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 49
สำนักงานสถิติของเยอรมนีเปิดเผยว่า ในเดือน ก.ย. ราคาสินค้าขายส่งของเยอรมนีลดลงจากเดือนก่อนหน้าร้อยละ 0.5 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ
0.6 ในเดือน ส.ค. แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วราคาสินค้าขายส่งกลับเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 และลดลงมากกว่าผลการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์
โดยรอยเตอร์ที่คาดว่าราคาค้าส่งในเดือน ก.ย. จะลดลงจากเดือน ส.ค. เฉลี่ยร้อยละ 0.3 ขณะที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนคาดว่าจะเพิ่มขึ้น
เฉลี่ยร้อยละ 3.3 เนื่องจากราคาน้ำมันในเดือนก.ย. ลดลงร้อยละ 5.8 หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 ในเดือน ส.ค. ขณะที่ต้นทุนของ
แร่ เหล็ก เหล็กกล้า อโลหะ และสินค้ากึ่งสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 ในเดือน ส.ค. ส่วนราคาเครื่องจักร
และอุปกรณ์สำนักงานลดลงร้อยละ 0.5 ชะลอตัวจากที่ลดลงร้อยละ 1.7 ในเดือนก่อนหน้า (รอยเตอร์)
4. จีนเกินดุลการค้าเดือน ก.ย.49 อยู่ที่ระดับ 15.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. รายงานจากกรุงปังกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่
12 ต.ค.49 จีนเกินดุลการค้าในเดือน ก.ย.49 จำนวน 15.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงจาก 18.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ในเดือน
ส.ค.49 แต่ยังสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 13.7 พันล้านดอลลาร์ สรอ. และสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนที่เกินดุลการค้าเพียง
7.6 พันล้านดอลลาร์สรอ. ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในภาคการส่งออกที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.6 ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 32.8 ในเดือน
ส.ค.49 ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.0 ลดลงจากร้อยละ 24.6 ในเดือน ส.ค.49 ทำให้ยอดสะสมการเกินดุลการค้าช่วง 9 เดือนแรกปีนี้
มีจำนวน 109.85 พันล้านดอลลาร์ สรอ. มากกว่ายอดเกินดุลการค้าทั้งปีของปี 48 ที่มีจำนวน 102 พันล้านดอลลาร์ สรอ. (รอยเตอร์)
5. IMF คาดว่าในปีหน้าเศรษฐกิจของเกาหลีใต้จะชะลอตัวลง รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 49 IMF เปิดเผยว่า
เศรษฐกิจของเกาหลีใต้ในปีหน้าจะชะลอตัวลงเนื่องจากเศรษฐกิจ สรอ.ชะลอตัวลงอย่างมากอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อนและหากราคาน้ำมันจะ
เพิ่มขึ้นอีกขณะที่ภาวะการเงินของโลกตึงตัว ทั้งนี้ในรายงานเศรษฐกิจรายปีของเกาหลีใต้ IMF กล่าวว่าภายหลังจากที่เศรษฐกิจเกาหลีใต้ขยาย
ตัวอย่างแข็งแกร่งมาเป็นเวลาหลายปี คาดว่าในปีหน้าเศรษฐกิจจะขยายตัวเพียงร้อยละ 4.3 ชะลอตัวจากที่เติบโตร้อยละ 5.0 ในปีนี้ เนื่อง
จากเศรษฐกิจ สรอ. ชะลอตัวลงอย่างมาก และมีความเป็นไปได้ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้ซึ่งเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก
โดยมีสัดส่วนการส่งออกถึงร้อยละ 40 ของ GDP และ สรอ. เป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของเกาหลีใต้รองจากจีน (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 12 ต.ค. 49 11 ต.ค. 49 31 ม.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 37.47 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 37.2750/37.5641 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.12063 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 697.82/10.59 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,150/10,250 10,250/10,350 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 53.37 55.64 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับลด เมื่อ 6 ต.ค. 49 25.59*/24.14* 25.59*/24.14* 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ศาลปกครองกลางเพิกถอนประกาศ ธปท.ที่กำหนดคุณลักษณะต้องห้ามของอดีตกรรมการผู้จัดการ ธ.กรุงไทย
นายประศักดิ์ ศิริพาณิชย์ ตุลาการผู้แถลงคดีศาลปกครองกลาง ในคดีที่นายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการ ธ.กรุงไทย ยื่นฟ้องธนาคาร
แห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นจำเลยที่ 1 และ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ผู้ว่าการ ธปท.ในขณะนั้นเป็นจำเลยที่ 2 ในข้อหาเจ้าหน้าที่กระทำการโดย
มิชอบด้วยกฎหมาย และมีการออกกฎระเบียบโดยคำสั่งมิชอบด้วยกฎหมาย โดยได้แถลงว่า เห็นควรให้เพิกถอนประกาศ ธปท.ที่กำหนดคุณลักษณะ
ต้องห้ามของผู้ฟ้อง (นายวิโรจน์) เนื่องจากเข้าข่ายการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ส่วนคำร้องอื่นให้ยก รวมถึงกรณีที่นายวิโรจน์ฟ้องเรียกค่าเสียหาย
จาก ธปท. เนื่องจากผู้ที่ทำให้นายวิโรจน์เสียหายคือ ธ.กรุงไทย ไม่ใช่ ธปท. ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 47 หลังจาก ธปท.ซึ่ง
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการในขณะนั้น ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษผู้บริหารและพนักงาน ธ.กรุงไทย หลังตรวจพบว่ามีการปล่อยกู้ให้แก่
ลูกหนี้ที่ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้มูลค่าถึง 9,900 ล.บาท และออกประกาศห้ามนายวิโรจน์ ดำรงตำแหน่งในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเงิน
และบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (ไทยโพสต์, กรุงเทพธุรกิจ, ข่าวสด)
2. ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในเดือน ส.ค.49 ลดลง 1.93% จากเดือนก่อนหน้า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
รายงานข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในเดือน ส.ค.49 ว่า ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยมีปริมาณการใช้จ่าย
61,522.07 ล.บาท ลดลง 1.93% จากเดือนก่อนหน้า โดยปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของ ธพ.ไทยมียอดลดลงมากที่สุด 3.70% ส่วนการ
ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ออกโดยสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (นอนแบงก์) ลดลง 0.52% ขณะที่การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ออกโดยสาขา
ธนาคารต่างประเทศยังคงเพิ่มขึ้น 1.94% ทั้งนี้ หากพิจารณาแยกประเภทของการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตพบว่า การใช้จ่ายในต่างประเทศมีจำนวน
2,122.27 ล.บาท ลดลง 12.65% จากเดือนก่อนหน้า ส่วนการเบิกเงินสดล่วงหน้ามีจำนวน 13,833.26 ล.บาท ลดลง 9.77% ขณะที่ยอด
การใช้จ่ายในประเทศมีจำนวน 45,566.54 ล.บาทเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม แม้ปริมาณการใช้จ่ายรวมจะลดลง แต่ยอดสินเชื่อ
คงค้างบัตรเครดิตยังคงเพิ่มขึ้น โดยในเดือน ส.ค.49 ยอดสินเชื่อคงค้างมีจำนวน 158,696.33 ล.บาท เพิ่มขึ้น 1.53% จากเดือนก่อนหน้า
สอดคล้องกับจำนวนบัญชีบัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้น 1.29% จากเดือนก่อนหน้า โดยมีจำนวนบัญชีรวม 10,585,242 บัญชี (กรุงเทพธุรกิจ, ไทยโพสต์)
3. ภาวะเศรษฐกิจภายใต้ในเดือน ส.ค.49 ชะลอตัว ขณะที่หลายภาคธุรกิจขยายตัวได้ดี รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) แจ้งว่า ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจของภาคใต้ในภาพรวมเมื่อเดือน ส.ค.49 จะชะลอตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน แต่ในหลายภาคธุรกิจยัง
ขยายตัวได้ดี เช่น ภาคการท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 38.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การส่งออกมีมูลค่าถึง
946 ล.ดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว 22.4% โดยเฉพาะการส่งออกยางพารา ไม้ยางแปรรูป เฟอร์นิเจอร์ สัตว์แช่แข็ง และอาหารกระป๋อง
ส่วนภาคการเงิน ธพ.ในพื้นที่มียอดสินเชื่อคงค้างจำนวน 284,000 ล.บาท เพิ่มขึ้น 21.9% ขณะที่ยอดเงินฝากคงค้างมีจำนวน 363,000 ล.บาท
เพิ่มขึ้น 10.4% (มติชน)
4. คาดว่าปี 49 สินเชื่อในระบบ ธพ.จะขยายตัว 6% ตามเป้าหมาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยถึงภาพรวมการขยาย
สินเชื่อของ ธพ.ในปี 49 ว่า แนวโน้มการขยายสินเชื่อในระบบธนาคารยังอยู่ในระดับที่ดี แม้จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในหลายด้าน แต่เชื่อว่า
สินเชื่อของ ธพ.ทั้งระบบจะขยายตัวในอัตรา 6% ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เนื่องจากเป็นช่วงที่สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น
น้ำตาลและข้าว ออกสู่ตลาดส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าเกษตร และเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยการเติบโตของสินเชื่อได้มากขึ้น
(กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. คาดว่ายอดค้าปลีกของ สรอ.ในเดือน ก.ย.49 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 จากเดือนก่อน รายงานจากนิวยอร์ค เมื่อ 11 ต.ค.49
ผลสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์โดยรอยเตอร์คาดว่ายอดค้าปลีกของ สรอ.ในเดือน ก.ย.49 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 จากเดือนก่อนซึ่ง
เป็นอัตราเดียวกับเดือน ส.ค.49 โดยเป็นผลจากยอดขายรถยนต์ซึ่งจากรายงานของผู้ผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 ในขณะที่ยอดขายน้ำมัน
เชื้อเพลิงกลับลดลงจากราคาที่ลดลงมาอยู่ที่เฉลี่ย 2.31 ดอลลาร์ สรอ.ต่อแกลลอนในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ย.49 ต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือน
ก.พ.49 โดยหากไม่รวมยอดขายรถยนต์แล้วคาดว่ายอดค้าปลีกในเดือน ก.ย.49 จะไม่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน และหากไม่รวมทั้งยอดขายรถยนต์
และน้ำมันแล้วคาดว่ายอดค้าปลีกในเดือน ก.ย.49 จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 จากเดือนก่อน ทั้งนี้คาดว่าเป็นผลจากราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้ผู้บริโภคมี
เงินเหลือที่จะจับจ่ายซื้อสินค้าอื่นเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดค้าปลีกในอีกหลายเดือนข้างหน้าจะเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ก.พาณิชย์ สรอ.มีกำหนดจะรายงานยอดค้าปลีกในเดือน ก.ย.49 อย่างเป็นทางการในวันที่ 13 ต.ค.49 เวลา 8.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น
(รอยเตอร์)
2. จีดีพีของเขตยูโรช่วงครึ่งหลังปี 49 และต้นปี 50 จะเติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ครั้งก่อน รายงานจากกรุงบรัสเซลส์
ประเทศเบลเยี่ยม เมื่อวันที่ 11 ต.ค.49 คณะกรรมาธิการของสหภาพยุโรป กล่าวว่า เศรษฐกิจของเขตยูโรในช่วงครึ่งหลังปี 49 และต้นปี 50
จะขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ครั้งก่อน โดยปรับลดลงพยากรณ์เศรษฐกิจในไตรมาส 3 เหลือร้อยละ 0.4 — 0.8 จากร้อยละ 0.5 — 0.9
ขณะที่ผู้ว่าการ ธ.กลางสหภาพยุโรป กล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในเขตยูโรค่อนข้างจะแข็งแกร่งกว่าข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้น ซึ่งยืนยันได้ว่าการ
ขยายตัวของเศรษฐกิจได้เร่งตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 3 ไตรมาสสุดท้าย ด้านนักเศรษฐศาสตร์หลายคนคาดว่า ธ.กลางสหภาพยุโรปจะปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. จากร้อยละ 3.25 เป็นร้อยละ 3.5 แต่ก็มีบางคนคาดว่าอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้และไปปรับขึ้นในปี 50 ถ้าเศรษฐกิจ
ชะลอตัวลง (รอยเตอร์)
3. ราคาสินค้าขายส่งของเยอรมนีในเดือน ก.ย. ลดลงจากเดือนที่แล้วร้อยละ 0.5 รายงานจากเบอร์ลิน เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 49
สำนักงานสถิติของเยอรมนีเปิดเผยว่า ในเดือน ก.ย. ราคาสินค้าขายส่งของเยอรมนีลดลงจากเดือนก่อนหน้าร้อยละ 0.5 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ
0.6 ในเดือน ส.ค. แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วราคาสินค้าขายส่งกลับเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 และลดลงมากกว่าผลการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์
โดยรอยเตอร์ที่คาดว่าราคาค้าส่งในเดือน ก.ย. จะลดลงจากเดือน ส.ค. เฉลี่ยร้อยละ 0.3 ขณะที่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนคาดว่าจะเพิ่มขึ้น
เฉลี่ยร้อยละ 3.3 เนื่องจากราคาน้ำมันในเดือนก.ย. ลดลงร้อยละ 5.8 หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 ในเดือน ส.ค. ขณะที่ต้นทุนของ
แร่ เหล็ก เหล็กกล้า อโลหะ และสินค้ากึ่งสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 ในเดือน ส.ค. ส่วนราคาเครื่องจักร
และอุปกรณ์สำนักงานลดลงร้อยละ 0.5 ชะลอตัวจากที่ลดลงร้อยละ 1.7 ในเดือนก่อนหน้า (รอยเตอร์)
4. จีนเกินดุลการค้าเดือน ก.ย.49 อยู่ที่ระดับ 15.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. รายงานจากกรุงปังกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่
12 ต.ค.49 จีนเกินดุลการค้าในเดือน ก.ย.49 จำนวน 15.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงจาก 18.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ในเดือน
ส.ค.49 แต่ยังสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 13.7 พันล้านดอลลาร์ สรอ. และสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนที่เกินดุลการค้าเพียง
7.6 พันล้านดอลลาร์สรอ. ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในภาคการส่งออกที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.6 ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 32.8 ในเดือน
ส.ค.49 ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.0 ลดลงจากร้อยละ 24.6 ในเดือน ส.ค.49 ทำให้ยอดสะสมการเกินดุลการค้าช่วง 9 เดือนแรกปีนี้
มีจำนวน 109.85 พันล้านดอลลาร์ สรอ. มากกว่ายอดเกินดุลการค้าทั้งปีของปี 48 ที่มีจำนวน 102 พันล้านดอลลาร์ สรอ. (รอยเตอร์)
5. IMF คาดว่าในปีหน้าเศรษฐกิจของเกาหลีใต้จะชะลอตัวลง รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 49 IMF เปิดเผยว่า
เศรษฐกิจของเกาหลีใต้ในปีหน้าจะชะลอตัวลงเนื่องจากเศรษฐกิจ สรอ.ชะลอตัวลงอย่างมากอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อนและหากราคาน้ำมันจะ
เพิ่มขึ้นอีกขณะที่ภาวะการเงินของโลกตึงตัว ทั้งนี้ในรายงานเศรษฐกิจรายปีของเกาหลีใต้ IMF กล่าวว่าภายหลังจากที่เศรษฐกิจเกาหลีใต้ขยาย
ตัวอย่างแข็งแกร่งมาเป็นเวลาหลายปี คาดว่าในปีหน้าเศรษฐกิจจะขยายตัวเพียงร้อยละ 4.3 ชะลอตัวจากที่เติบโตร้อยละ 5.0 ในปีนี้ เนื่อง
จากเศรษฐกิจ สรอ. ชะลอตัวลงอย่างมาก และมีความเป็นไปได้ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้ซึ่งเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก
โดยมีสัดส่วนการส่งออกถึงร้อยละ 40 ของ GDP และ สรอ. เป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของเกาหลีใต้รองจากจีน (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 12 ต.ค. 49 11 ต.ค. 49 31 ม.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 37.47 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 37.2750/37.5641 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.12063 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 697.82/10.59 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,150/10,250 10,250/10,350 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 53.37 55.64 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับลด เมื่อ 6 ต.ค. 49 25.59*/24.14* 25.59*/24.14* 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--