กรุงเทพ--25 ก.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานเพิ่มเติมจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีสเกี่ยวกับเหตุการณ์ชิงทรัพย์อย่างอุกอาจในฝรั่งเศสที่เกิดบ่อยครั้ง โดยในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ชิงทรัพย์เฉพาะที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของสถานเอกอัครราชทูตฯ ถึง 4 ครั้ง จึงขอเตือนคนไทยที่จะเดินทางไปฝรั่งเศสให้เพิ่มความระมัดระวังทรัพย์สินเป็นพิเศษ หรืออาจพิจารณาเลื่อนหรืองดการเดินทางไปฝรั่งเศสในช่วงหน้าร้อนหากไม่จำเป็น
กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ชิงทรัพย์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ในช่วงเดือนที่ผ่านมาว่า อัครราชทูตฝ่ายการพาณิชย์ได้ถูกชิงทรัพย์ขณะเดินทางโดยรถยนต์ของสถานเอกอัครราชทูตฯ บนถนน Greuze ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตฯ ในช่วงเวลาที่มีคนสัญจรพลุกพล่าน โดยคนร้ายได้ทุบกระจกรถขณะรถจอดรอสัญญานไฟเพื่อเข้าชิงกระเป๋า โดยได้ทำร้ายอัครราชทูตฝ่ายการพาณิชย์ที่พยามขัดขืน จนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และได้วิ่งขึ้นรถจักรยานต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยในปัจจุบันยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้
นอกจากนั้น ในเดือนที่ผ่านมา พบว่าเมื่อวันที่ 6 และ 21 มิถุนายน 2549 คนร้ายได้
ทุบกระจกรถยนต์สถานทูตฯ เพื่อชิงทรัพย์บนทางหลวง A1 ที่วิ่งเข้าสู่กรุงปารีส และเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2549 คณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทย ที่เดินทางโดยรถของสถานทูตฯ ถูกคนร้ายทุบกระจกรถบนถนนวงแหวนด้านในกรุงปารีสในช่วงจราจรหนาแน่น
กระทรวงการต่างประเทศจึงขอเตือนให้คนไทยทั้งผู้มีถิ่นพำนักถาวรและผู้ที่เดินทางไปฝรั่งเศสเพิ่มความระมัดระวังต่อทรัพย์สิน และหากไม่จำเป็นต้องเดินทางในช่วงหน้าร้อนนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวไปฝรั่งเศสมากและอาจเป็นสิ่งจูงใจกับกลุ่มมิจฉาชีพ ก็ขอให้เลื่อนหรืองดการเดินทางออกไปก่อน แต่หากจำเป็นต้องเดินทางไปฝรั่งเศส ขอให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษตามมาตรการ ดังนี้
1. ขอให้จัดเก็บทรัพย์สินและเอกสารสำคัญไว้อยู่กับตัวตลอดเวลา
2. ไม่ควรใส่เครื่องประดับหรือของมีค่าซึ่งจะเป็นสิ่งจูงใจ ในขณะเดินทางหรือท่องเที่ยว
3. ขอให้สำรวจทรัพย์สินและสิ่งของมีค่าที่นำติดตัวไปด้วยเสมอ
4. ขอให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษหากต้องเดินทางคนเดียวหรืออยู่ในที่มีคนพลุกพล่าน และไม่ควรอยู่ในที่ลับสายตาผู้อื่น
5. ขอให้ระมัดระวังตัว อย่าพูดคุยหรือรับฟังและให้เดินเลี่ยงออกไป หากมีบุคคลไม่เป็นที่รู้จักมาทักทายหรือเสนอให้ความช่วยเหลือหรือขอความช่วยเหลือหรือเสนอที่จะมอบสิ่งใดๆ ให้ในลักษณะล่อลวงหรือผิดปกติ
6. ขอให้เพิ่มความระมัดระวังกับคนแปลกหน้าหรือรถจักรยานยนต์ที่สัญจรไปมา และไม่ควรวางทรัพย์สินไว้ทางด้านข้างกระจกรถ เนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพมักใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวขณะเดินอยู่บนบาทวิถีหรือทุบกระจกข้างของรถโดยสารเพื่อชิงทรัพย์ขณะสัญจรในท้องถนน
7. ขอให้ตั้งสติหากรู้ตัวว่ากำลังถูกชิงทรัพย์ เพราะมิจฉาชีพอาจทำร้ายร่างกายได้ แต่หากคิดว่ามิจฉาชีพไม่อยู่ในวิสัยที่จะทำร้ายร่างกายได้ ให้ร้องขอความช่วยเหลือ และรีบแจ้งพนักงานตำรวจท้องที่ในทันที
ทั้งนี้ หากเกิดเหตุการณ์ขึ้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ยินดีให้ความช่วยเหลือ
คนไทย โดยสามารถติดต่อได้ที่ (33-1) 56 26 50 50
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานเพิ่มเติมจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีสเกี่ยวกับเหตุการณ์ชิงทรัพย์อย่างอุกอาจในฝรั่งเศสที่เกิดบ่อยครั้ง โดยในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ชิงทรัพย์เฉพาะที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของสถานเอกอัครราชทูตฯ ถึง 4 ครั้ง จึงขอเตือนคนไทยที่จะเดินทางไปฝรั่งเศสให้เพิ่มความระมัดระวังทรัพย์สินเป็นพิเศษ หรืออาจพิจารณาเลื่อนหรืองดการเดินทางไปฝรั่งเศสในช่วงหน้าร้อนหากไม่จำเป็น
กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ชิงทรัพย์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ในช่วงเดือนที่ผ่านมาว่า อัครราชทูตฝ่ายการพาณิชย์ได้ถูกชิงทรัพย์ขณะเดินทางโดยรถยนต์ของสถานเอกอัครราชทูตฯ บนถนน Greuze ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตฯ ในช่วงเวลาที่มีคนสัญจรพลุกพล่าน โดยคนร้ายได้ทุบกระจกรถขณะรถจอดรอสัญญานไฟเพื่อเข้าชิงกระเป๋า โดยได้ทำร้ายอัครราชทูตฝ่ายการพาณิชย์ที่พยามขัดขืน จนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และได้วิ่งขึ้นรถจักรยานต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยในปัจจุบันยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้
นอกจากนั้น ในเดือนที่ผ่านมา พบว่าเมื่อวันที่ 6 และ 21 มิถุนายน 2549 คนร้ายได้
ทุบกระจกรถยนต์สถานทูตฯ เพื่อชิงทรัพย์บนทางหลวง A1 ที่วิ่งเข้าสู่กรุงปารีส และเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2549 คณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทย ที่เดินทางโดยรถของสถานทูตฯ ถูกคนร้ายทุบกระจกรถบนถนนวงแหวนด้านในกรุงปารีสในช่วงจราจรหนาแน่น
กระทรวงการต่างประเทศจึงขอเตือนให้คนไทยทั้งผู้มีถิ่นพำนักถาวรและผู้ที่เดินทางไปฝรั่งเศสเพิ่มความระมัดระวังต่อทรัพย์สิน และหากไม่จำเป็นต้องเดินทางในช่วงหน้าร้อนนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวไปฝรั่งเศสมากและอาจเป็นสิ่งจูงใจกับกลุ่มมิจฉาชีพ ก็ขอให้เลื่อนหรืองดการเดินทางออกไปก่อน แต่หากจำเป็นต้องเดินทางไปฝรั่งเศส ขอให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษตามมาตรการ ดังนี้
1. ขอให้จัดเก็บทรัพย์สินและเอกสารสำคัญไว้อยู่กับตัวตลอดเวลา
2. ไม่ควรใส่เครื่องประดับหรือของมีค่าซึ่งจะเป็นสิ่งจูงใจ ในขณะเดินทางหรือท่องเที่ยว
3. ขอให้สำรวจทรัพย์สินและสิ่งของมีค่าที่นำติดตัวไปด้วยเสมอ
4. ขอให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษหากต้องเดินทางคนเดียวหรืออยู่ในที่มีคนพลุกพล่าน และไม่ควรอยู่ในที่ลับสายตาผู้อื่น
5. ขอให้ระมัดระวังตัว อย่าพูดคุยหรือรับฟังและให้เดินเลี่ยงออกไป หากมีบุคคลไม่เป็นที่รู้จักมาทักทายหรือเสนอให้ความช่วยเหลือหรือขอความช่วยเหลือหรือเสนอที่จะมอบสิ่งใดๆ ให้ในลักษณะล่อลวงหรือผิดปกติ
6. ขอให้เพิ่มความระมัดระวังกับคนแปลกหน้าหรือรถจักรยานยนต์ที่สัญจรไปมา และไม่ควรวางทรัพย์สินไว้ทางด้านข้างกระจกรถ เนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพมักใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวขณะเดินอยู่บนบาทวิถีหรือทุบกระจกข้างของรถโดยสารเพื่อชิงทรัพย์ขณะสัญจรในท้องถนน
7. ขอให้ตั้งสติหากรู้ตัวว่ากำลังถูกชิงทรัพย์ เพราะมิจฉาชีพอาจทำร้ายร่างกายได้ แต่หากคิดว่ามิจฉาชีพไม่อยู่ในวิสัยที่จะทำร้ายร่างกายได้ ให้ร้องขอความช่วยเหลือ และรีบแจ้งพนักงานตำรวจท้องที่ในทันที
ทั้งนี้ หากเกิดเหตุการณ์ขึ้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ยินดีให้ความช่วยเหลือ
คนไทย โดยสามารถติดต่อได้ที่ (33-1) 56 26 50 50
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-