ไขปัญหาภาษี ผู้ประกอบการส่งออกที่ดี

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 27, 2005 14:26 —สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

          เพื่อให้การพิจารณาคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มแก่ผู้ประกอบการส่งออกที่สุจริต เป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็ว อันจะเป็นประโยชน์แก่การส่งออกของประเทศ
กรมสรรพากรจึงกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการจัดระดับผู้ประกอบการส่งออกที่ดีของกรมสรรพากรตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.596/2545 ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2545 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2546 เป็นต้นมา
จึงขอนำมาเป็นประเด็นปุจฉา-วิสัชนา ดังนี้
ปุจฉา ผู้ประกอบการส่งออกที่ดีมีกี่ประเภทอะไรบ้าง
วิสัชนา ผู้ประกอบการส่งออกที่ดีมีสองประเภท คือ ผู้ประกอบการส่งออกทั่วไป และผู้ส่งของออกระดับบัตรทองของกรมศุลกากร
ปุจฉา คุณสมบัติของผู้ประกอบการส่งออกทั่วไปที่ขอรับการจัดระดับให้เป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ดีมีอย่างไรบ้าง
วิสัชนา คุณสมบัติของผู้ประกอบการส่งอกทั่วไปมีดังนี้
1.เป็นบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด ที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
2.มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป
3.มีการส่งสินค้าไปขายยังต่างประเทศในอัตราส่วนตั้งแต่ร้อยละ 70 ขึ้นไปของ ยอดขายรวมสำหรับระยะเวลา 12 เดือน ก่อนยื่นคำขอรับการจัดระดับ และได้นำเงินตราต่างประเทศ จากการนั้นเข้ามาในประเทศไทยหรือมีหลักฐานการหักกลบลบหนี้
4.มีความมั่นคง ต่อเนื่องและน่าเชื่อถือในการประกอบการ และมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน อาคาร โรงงาน ฯลฯ
5.มีทรัพย์สินสุทธิมากกว่าหนี้สินสุทธิ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปีสุดท้ายก่อนยื่นคำขอรับการจัดระดับ
6.มีประวัติการเสียภาษีที่ดี มีการเสียภาษีสอดคล้องกับสภาพเป็นจริงของกิจการ ไม่มีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงภาษี
7.เป็นสมาชิกของสมาคมหรือองค์กรภาคเอกชน (ในทางการค้า) เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฯลฯ และสมาคมหรือองค์กรดังกล่าวรับรองฐานะการเงินว่ามีความมั่นคงและเชื่อถือได้
ปุจฉา คุณสมบัติของผู้ประกอบการส่งออกระดับบัตรทองของกรมศุลกากรที่ขอรับการจัดระดับให้เป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ดีมีอย่างไรบ้าง
วิสัชนา คุณสมบัติของผู้ประกอบการส่งออกระดับบัตรทองของกรมศุลกากรมีดังนี้
1.เป็นผู้ส่งของออกระดับบัตรทองของกรมศุลกากร
2.เป็นบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด ที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
3.มีการส่งสินค้าไปขายยังต่างประเทศในอัตราส่วนตั้งแต่ร้อยละ 50 ขึ้นไป ของยอดขายรวม สำหรับระยะเวลา 12 เดือน ก่อนขอรับการจัดระดับ และได้นำเงินตราต่างประเทศ จากการนั้นเข้ามาในประเทศไทยหรือมีหลักฐานการหักกลบลบหนี้
4.มีความมั่นคง ต่อเนื่องและน่าเชื่อถือในการประกอบการ และมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน อาคาร โรงงาน ฯลฯ
5.มีทรัพย์สินสุทธิมากกว่าหนี้สินสุทธิ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปีสุดท้ายก่อนขอรับการจัดระดับ
6.มีประวัติการเสียภาษีที่ดี มีการเสียภาษีสอดคล้องกับสภาพเป็นจริงของกิจการไม่มีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงภาษี
7.เป็นสมาชิกของสมาคมหรือองค์กรภาคเอกชน (ในทางการค้า) เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฯลฯ และสมาคมหรือองค์กรดังกล่าวรับรองฐานะการเงินว่ามีความมั่นคงและเชื่อถือได้
ปุจฉา นอกจากคุณสมบัติดังกล่าว ผู้ประกอบการส่งออกพึงมีคุณสมบัติอื่นใดเพิ่มเติม ซึ่งเป็นองค์ประกอบในการพิจารณาเป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ดีได้บ้าง
วิสัชนา คุณสมบัติอื่นที่ผู้ส่งออกพึงมี ได้แก่
1.มีระบบการจัดการ และระบบการควบคุมภายในที่ดี เช่น มีระบบการตรวจสอบภายใน การจัดทำประมาณการแผนการส่งออก มีงบการเงินเป็นรายเดือนหรือรายไตรมาส
2.ได้รับการรับรองระบบมาตรฐาน (ISO) แขนงต่างๆ จากสำนักมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
3.ได้รับรางวัลหรือประกาศเกียรติคุณด้านต่างๆ ทั้งจากหน่วยงานของรัฐบาลและหรือภาคเอกชน
4.คุณสมบัติอื่นๆ ในทำนองเดียวกับที่กล่าวมาข้างต้น
อนึ่ง กรณีที่ผู้ประกอบการส่งออกที่มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วน แต่มีเหตุอันสมควร คณะกรรมการพิจารณาจัดระดับผู้ประกอบการส่งออกที่ดี อาจพิจารณายกเว้นคุณสมบัติดังกล่าวให้ได้
ปุจฉา ผู้ประกอบการส่งออกที่จะได้รับการจัดระดับให้เป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ดี จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขใดบ้าง
วิสัชนา ผู้ประกอบการส่งออกที่ดี จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
1.ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยการนำเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ตามวิธีปฏิบัติในการขอให้นำเงินภาษีมูลค่าเพิ่มเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร แนบท้ายคำสั่งนี้
2.กรณีมีสถานประกอบการหลายแห่ง ต้องได้รับอนุมัติให้ยื่นแบบแสดงรายการ และชำระภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกัน
3.ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่รับรองงบการเงินสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่ยื่นคำขอต้องได้รับการแต่งตั้งจากมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น และต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขตามมาตรา 3 สัตต แห่งประมวลรัษฎากร โดยให้แจ้งชื่อ เลขทะเบียนของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต พร้อมทั้งชื่อสำนักงานผู้สอบบัญชี และให้แจ้งชื่อผู้ทำบัญชีพร้อมทั้งสำนักงานบัญชีด้วย
ที่มา: หอการค้าไทย www.thaiechamber.com
-ดท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ