เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ (4 มิ.ย.48) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่างถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมของพรรคเพื่อยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจกรณีทุจริตในการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด(ซี ที เอ็ก 9000)ในสนามบินสุวรรณภูมิว่า จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะผู้บริหารพรรค และที่ประชุมส.ส.ในวันที่ 7 มิ.ย. นี้ และคาดว่าจะได้สรุปในวันที่ 8 มิ.ย. นี้ หลังจากนั้นจะเข้าหารือกับพรรคชาติไทยภายในสัปดาห์นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากจะมีเรื่องเครื่องตรวจวัตถุระเบิดแล้ว ส่วนจะยื่นเรื่องอื่นอภิปรายอีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ดู แต่ขณะนี้เรากำลังดูข้อมูลของซีทีเอ็กซ์ 9000 อยู่ เมื่อถามว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประสานกับฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ เพราะมีส.ส.พรรคไทยรักไทยบางคนก็พร้อมที่จะให้ความร่ววมือกับฝ่ายค้าน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรายังไม่สรุปถึงขั้นที่ไปเกี่ยวข้องกับรัฐบาล เพราะต้องดูทีละส่วนก่อน แล้วจึงไปหารือกับพรรคชาติไทย เพื่อให้ทั้ง 2 พรรคจะได้ข้อสรุปร่วมกัน ดังนั้น ขอให้มั่นใจว่า พรรคประชาธิปัตย์และพรรคฝ่ายค้านติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจัง
‘อย่างที่ได้ไล่ดูมาตั้งแต่ต้น เชื่อว่ามีความไม่ชอบมาพากล และมีการทุจริต แต่ตอนนี้กำลังจะดูความรับผิดชอบของรมต.และผู้เกี่ยวข้องว่าอยู่ตรงไหน จะต้องตรงกับรูปแบบที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าด้วยการอภิปราย’ นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนที่นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ รมต.สำนักนายกฯ ระบุว่าไม่อยากให้การอภิปรายเป็นเรื่องการเมือง และให้เชื่อมั่นกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมต.คมนาคม นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รมว.ยุติธรรม และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของฝ่ายรัฐบาลว่ามีความเชื่อมั่นและมีความไว้วางใจ แต่เมื่อฝ่ายค้านขอเปิดอภิปรายแสดงว่าเรามีเหตุผล เพราะดูจากการทำงานในช่วงที่ผ่านมา ยังไม่เห็นความคืบหน้าที่ชัดเจนของรัฐบาลที่จะเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ ช่วงต้นและกลางก็พูดอย่าง พอตั้งคณะกรรมการ ฯ ก็พูดอีกอย่าง ตนเข้าใจว่าคงจะมีการเตรียมการที่จะไปเล่นงานระดับเจ้าหน้าที่ในบางประเด็นเท่านั้น เพื่อเบี่ยงเบนไปจากภาพรวม
ด้านนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และหนึ่งในคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรอบที่คณะทำงานจะพิจารณา ในเรื่องของการทุจริตเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด ทางพรรคจะดูตั้งแต่การจัดซื้อจัดจ้าง การล็อกสเป็กราคาที่เกินจริง และคนที่รับสินบน และรัฐพยายามปกป้อง ปกปิด และบิดเบือนข้อมูลทั้งหมด ทั้งนี้ข้อมูลที่ทางพรรคได้รับมาก็จะเป็นของกรรมมาธิการที่ได้รับมาจากข้าราชการ รวมถึงเอกสารจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะนำมาประกอบการพิจารณา ทางคณะทำงานก็จะลำดับเหตุการณ์เพื่อเชื่อมโยงว่าคนผิดคือใครเป็นรัฐมนตรีคนไหน หรือข้าราชการคนไหนที่กระทำผิด
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 4 มิ.ย. 2548--จบ--
-ดท-
ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากจะมีเรื่องเครื่องตรวจวัตถุระเบิดแล้ว ส่วนจะยื่นเรื่องอื่นอภิปรายอีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ดู แต่ขณะนี้เรากำลังดูข้อมูลของซีทีเอ็กซ์ 9000 อยู่ เมื่อถามว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประสานกับฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ เพราะมีส.ส.พรรคไทยรักไทยบางคนก็พร้อมที่จะให้ความร่ววมือกับฝ่ายค้าน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรายังไม่สรุปถึงขั้นที่ไปเกี่ยวข้องกับรัฐบาล เพราะต้องดูทีละส่วนก่อน แล้วจึงไปหารือกับพรรคชาติไทย เพื่อให้ทั้ง 2 พรรคจะได้ข้อสรุปร่วมกัน ดังนั้น ขอให้มั่นใจว่า พรรคประชาธิปัตย์และพรรคฝ่ายค้านติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจัง
‘อย่างที่ได้ไล่ดูมาตั้งแต่ต้น เชื่อว่ามีความไม่ชอบมาพากล และมีการทุจริต แต่ตอนนี้กำลังจะดูความรับผิดชอบของรมต.และผู้เกี่ยวข้องว่าอยู่ตรงไหน จะต้องตรงกับรูปแบบที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าด้วยการอภิปราย’ นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ส่วนที่นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ รมต.สำนักนายกฯ ระบุว่าไม่อยากให้การอภิปรายเป็นเรื่องการเมือง และให้เชื่อมั่นกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมต.คมนาคม นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รมว.ยุติธรรม และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของฝ่ายรัฐบาลว่ามีความเชื่อมั่นและมีความไว้วางใจ แต่เมื่อฝ่ายค้านขอเปิดอภิปรายแสดงว่าเรามีเหตุผล เพราะดูจากการทำงานในช่วงที่ผ่านมา ยังไม่เห็นความคืบหน้าที่ชัดเจนของรัฐบาลที่จะเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ ช่วงต้นและกลางก็พูดอย่าง พอตั้งคณะกรรมการ ฯ ก็พูดอีกอย่าง ตนเข้าใจว่าคงจะมีการเตรียมการที่จะไปเล่นงานระดับเจ้าหน้าที่ในบางประเด็นเท่านั้น เพื่อเบี่ยงเบนไปจากภาพรวม
ด้านนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และหนึ่งในคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรอบที่คณะทำงานจะพิจารณา ในเรื่องของการทุจริตเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด ทางพรรคจะดูตั้งแต่การจัดซื้อจัดจ้าง การล็อกสเป็กราคาที่เกินจริง และคนที่รับสินบน และรัฐพยายามปกป้อง ปกปิด และบิดเบือนข้อมูลทั้งหมด ทั้งนี้ข้อมูลที่ทางพรรคได้รับมาก็จะเป็นของกรรมมาธิการที่ได้รับมาจากข้าราชการ รวมถึงเอกสารจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะนำมาประกอบการพิจารณา ทางคณะทำงานก็จะลำดับเหตุการณ์เพื่อเชื่อมโยงว่าคนผิดคือใครเป็นรัฐมนตรีคนไหน หรือข้าราชการคนไหนที่กระทำผิด
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 4 มิ.ย. 2548--จบ--
-ดท-