เมื่อเวลา 13.15 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการวิจารณ์คดีการจับกุมร้อยโทธวัชชัย กลิ่นชะนะ ว่า คิดว่าเราน่าจะเห็นตรงกันทุกฝ่ายว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าการเสนอข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา และให้การสืบสวนสอบสวนเป็นไปตามข้อเท็จจริง โดยไม่มีเป้าหมายในทางการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น ถือเป็นแนวทางที่ดีที่สุด และจะเป็นจุดที่เป็นความเชื่อมั่นของประชาชน แต่เป็นจุดทึ่ทำให้เกิดความเสียหายด้านภาพลักษณ์ให้น้อยที่สุดของประเทศ ในส่วนของทางตำรวจเอง จะต้องรู้หน้าที่และทำตรงนี้ให้ดีที่สุด ที่ผ่านมาการนำเสนอข่าวสาร มีการนำเสนอบางเรื่องที่เกินเลยจนทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นแรงระเบิด หรือลด 2 คันที่ถูกจับกุม ซึ่งเมื่อพิสูจน์ว่าไม่ใช่แล้วทำให้ความน่าเชื่อถือน้อยลงไป
โพลล์ไม่เชื่อว่าเป็นเห่ตุการณ์จริง อภสิทธิ์ ยอมรับว่านี่เป็นความเสียหาย และทำให้เกิดความเสียขึ้นในบ้านเมือง ทั้งในแง่ของความแตกแยก และภาพลักษณ์ของต่างประเทศ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างโปร่งใส อย่าตกเป็นเครื่องมือของใครในทางการเมือง
คิดว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความน่าเชื่อถือต่อการสืบสวนสอบสวนในคดีดังกล่าว อภสิทธิ์ สำคัญทึ่การนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริง ตามวันเวลาที่เหมาะสม และไม่นำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่น อย่างที่ผ่านมา ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าอะไรเป็นอะไร เพราะความสับสนของ ข้อมูล มีการช่วงชิงที่จะพูด ว่าเรื่องนั้นเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ และในที่สุดก็ขัดกับข้อเท็จจริง และเกิดปัญหาตามมา
เมื่อถามว่าเป็นไปได้ไหมที่จะตั้งเป็นคณะกรรมการกลางในการสอบสวนสืบสวน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือต่อคดี อภสิทธิ์ ระบุทราบแต่ว่าเวลานี้แจ้งเฉพาะข้อกล่าวหาเป็นเรื่องการครอบครองวัตถุระเบิด และตนยังไม่เห็นคำอธิบายที่ชัดเจนว่าเป็นการมุ่งร้ายลอบสังหารใคร ทำโดยวิธีใด และหลักฐานต่าง ๆ ดูแล้วยังไม่พร้อมที่จะยืนยันอย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นขณะนี้ตนคิดว่าต้องตั้งหลักให้ดี เพราะทีผ่านมาพูดเกินเลยทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ น่าจะถอยหลังกลับไปตั้งหลักใหม่ว่าอะไรเป็นอะไร และถ้าตำรวจทำให้หน่วยงานอื่นเข้ามาช่วยทำงานก็จะเพิ่มน้ำหนักได้ โดยไม่กระทบต่อกระบวนการตามปกติของกระบวนการยุติธรรม
หลังเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทำให้มีการสร้างสถานการณ์ความรุนแรง เป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไปอย่างไรหรือไม่ อภิสิทธิ์ กล่าวว่าอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่และใช้สิทธิ์ของตัวเองอยู่ในขอบเขต โดยคำนึงถึงการช่วยกันทำให้บ้านเมือง สงบ หลีกเหลี่ยงที่จะทำให้เกิดเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นใด ๆ ทั้งสิ้น และเรียกร้องเสมอว่าคนเป็นผุ้นำและเป็นรัฐบาล ต้องส่งสัญญาณตรงนี้ให้ชัดเจนก่อน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 28 ส.ค. 2549--จบ--
โพลล์ไม่เชื่อว่าเป็นเห่ตุการณ์จริง อภสิทธิ์ ยอมรับว่านี่เป็นความเสียหาย และทำให้เกิดความเสียขึ้นในบ้านเมือง ทั้งในแง่ของความแตกแยก และภาพลักษณ์ของต่างประเทศ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างโปร่งใส อย่าตกเป็นเครื่องมือของใครในทางการเมือง
คิดว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความน่าเชื่อถือต่อการสืบสวนสอบสวนในคดีดังกล่าว อภสิทธิ์ สำคัญทึ่การนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริง ตามวันเวลาที่เหมาะสม และไม่นำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่น อย่างที่ผ่านมา ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าอะไรเป็นอะไร เพราะความสับสนของ ข้อมูล มีการช่วงชิงที่จะพูด ว่าเรื่องนั้นเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ และในที่สุดก็ขัดกับข้อเท็จจริง และเกิดปัญหาตามมา
เมื่อถามว่าเป็นไปได้ไหมที่จะตั้งเป็นคณะกรรมการกลางในการสอบสวนสืบสวน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือต่อคดี อภสิทธิ์ ระบุทราบแต่ว่าเวลานี้แจ้งเฉพาะข้อกล่าวหาเป็นเรื่องการครอบครองวัตถุระเบิด และตนยังไม่เห็นคำอธิบายที่ชัดเจนว่าเป็นการมุ่งร้ายลอบสังหารใคร ทำโดยวิธีใด และหลักฐานต่าง ๆ ดูแล้วยังไม่พร้อมที่จะยืนยันอย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นขณะนี้ตนคิดว่าต้องตั้งหลักให้ดี เพราะทีผ่านมาพูดเกินเลยทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ น่าจะถอยหลังกลับไปตั้งหลักใหม่ว่าอะไรเป็นอะไร และถ้าตำรวจทำให้หน่วยงานอื่นเข้ามาช่วยทำงานก็จะเพิ่มน้ำหนักได้ โดยไม่กระทบต่อกระบวนการตามปกติของกระบวนการยุติธรรม
หลังเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทำให้มีการสร้างสถานการณ์ความรุนแรง เป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไปอย่างไรหรือไม่ อภิสิทธิ์ กล่าวว่าอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่และใช้สิทธิ์ของตัวเองอยู่ในขอบเขต โดยคำนึงถึงการช่วยกันทำให้บ้านเมือง สงบ หลีกเหลี่ยงที่จะทำให้เกิดเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นใด ๆ ทั้งสิ้น และเรียกร้องเสมอว่าคนเป็นผุ้นำและเป็นรัฐบาล ต้องส่งสัญญาณตรงนี้ให้ชัดเจนก่อน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 28 ส.ค. 2549--จบ--