นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่าได้รับแจ้งจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในประเทศ ณ กรุงมอสโก ว่าเจ้าหน้าที่ศุลกากรของประเทศรัสเซียมีความเข้มงวดในการตรวจสอบหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าFORM A ที่ใช้ประกอบการขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากร โดยหนังสือรับรองฯดังกล่าวจะต้องระบุรายละเอียดให้ชัดเจนและสอดคล้องกับระเบียบที่ประเทศรัสเซียกำหนดโดยเฉพาะการระบุรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าที่ส่งออกและข้อมูลอื่นๆ เช่น
1 ช่องที่ 3 “Means of transport and route (as far as known)” จะต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการขนส่งสินค้า ได้แก่ การระบุสนามบิน และท่าเรือของที่หมายปลายทาง
2 ช่องที่ 5 “Item number” หากมีสินค้าหลายรายการให้ระบุหมายเลข 1, 2, 3, 4, ...... เรียงตามลำดับของชนิดสินค้า
3 ช่องที่ 6 “Marks and numbers of packages” ให้ระบุเครื่องหมายและหมายเลขของหีบห่อสินค้า
4 ช่องที่ 7 “Number and kind of packages, destination of good” โดยหากสินค้ามีหลายชนิดให้ระบุชนิดของสินค้าที่ส่งออกแต่ละชนิดให้ชัดเจน รวมทั้งระบุน้ำหนักสุทธิ จำนวนและลักษณะของหีบห่อ เช่น กล่อง/กล่องพลาสติก/กล่องโฟม เป็นต้น
5 ช่องที่ 9 “Gross weight or other quantity” ให้ระบุน้ำหนักรวม (Gross weight) ของสินค้าให้ตรงกับน้ำหนักรวมของสินค้าที่ระบุไว้ในเอกสารหลักฐานการขนส่ง (Bill of lading-B/L หรือ Airway Bill- AWB)
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2548 ไทยส่งสินค้าออกไปรัสเซียมูลค่า รวมทั้งสิ้น 13,136.73 ล้านบาท โดยเป็นการส่งออกสินค้าที่มีการใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรจำนวน 139.6 ล้านบาท รายการสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิพิเศษฯ สูง ได้แก่ สับปะรดบรรจุกระป๋อง ข้าว พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก และผัก — ผลไม้ เป็นต้น ซึ่งในทางปฏิบัติศุลกากรของประเทศรัสเซียจะให้ผู้นำเข้าของตนเสียภาษีเต็มอัตราตามที่กำหนดไว้ก่อน หลังจากนั้นจึงให้ผู้นำเข้านำหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า FORM A ไปยื่นเพื่อขอคืนภาษีสำหรับส่วนที่ได้รับการลดหย่อนในภายหลัง ดังนั้นผู้ที่ส่งออกสินค้าไปยังประเทศรัสเซียและต้องการใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรจึงต้องปฏิบัติตามระเบียบของประเทศรัสเซีย อย่างเคร่งครัดโดยระบุข้อความรายละเอียดในหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า FORM A ให้ถูกต้องตามที่กำหนด ทั้งนี้สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก http://www.dft.moc.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเจ้าหน้าที่สำนักบริการการค้าต่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ โทร. 02 — 5474753, 02 — 5474832, 02 — 5 042713 — 14, 02 — 2492106, 02 — 2402232 และ 02 — 2493978
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-
1 ช่องที่ 3 “Means of transport and route (as far as known)” จะต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการขนส่งสินค้า ได้แก่ การระบุสนามบิน และท่าเรือของที่หมายปลายทาง
2 ช่องที่ 5 “Item number” หากมีสินค้าหลายรายการให้ระบุหมายเลข 1, 2, 3, 4, ...... เรียงตามลำดับของชนิดสินค้า
3 ช่องที่ 6 “Marks and numbers of packages” ให้ระบุเครื่องหมายและหมายเลขของหีบห่อสินค้า
4 ช่องที่ 7 “Number and kind of packages, destination of good” โดยหากสินค้ามีหลายชนิดให้ระบุชนิดของสินค้าที่ส่งออกแต่ละชนิดให้ชัดเจน รวมทั้งระบุน้ำหนักสุทธิ จำนวนและลักษณะของหีบห่อ เช่น กล่อง/กล่องพลาสติก/กล่องโฟม เป็นต้น
5 ช่องที่ 9 “Gross weight or other quantity” ให้ระบุน้ำหนักรวม (Gross weight) ของสินค้าให้ตรงกับน้ำหนักรวมของสินค้าที่ระบุไว้ในเอกสารหลักฐานการขนส่ง (Bill of lading-B/L หรือ Airway Bill- AWB)
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2548 ไทยส่งสินค้าออกไปรัสเซียมูลค่า รวมทั้งสิ้น 13,136.73 ล้านบาท โดยเป็นการส่งออกสินค้าที่มีการใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรจำนวน 139.6 ล้านบาท รายการสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิพิเศษฯ สูง ได้แก่ สับปะรดบรรจุกระป๋อง ข้าว พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก และผัก — ผลไม้ เป็นต้น ซึ่งในทางปฏิบัติศุลกากรของประเทศรัสเซียจะให้ผู้นำเข้าของตนเสียภาษีเต็มอัตราตามที่กำหนดไว้ก่อน หลังจากนั้นจึงให้ผู้นำเข้านำหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า FORM A ไปยื่นเพื่อขอคืนภาษีสำหรับส่วนที่ได้รับการลดหย่อนในภายหลัง ดังนั้นผู้ที่ส่งออกสินค้าไปยังประเทศรัสเซียและต้องการใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรจึงต้องปฏิบัติตามระเบียบของประเทศรัสเซีย อย่างเคร่งครัดโดยระบุข้อความรายละเอียดในหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า FORM A ให้ถูกต้องตามที่กำหนด ทั้งนี้สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก http://www.dft.moc.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเจ้าหน้าที่สำนักบริการการค้าต่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ โทร. 02 — 5474753, 02 — 5474832, 02 — 5 042713 — 14, 02 — 2492106, 02 — 2402232 และ 02 — 2493978
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-