กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอความร่วมมือเกษตรกรหยุดการขยายเนื้อที่เพาะปลูกลำไยในเนื้อที่ใหม่ และให้เกษตรกรผู้ปลูกลำไยที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว มาปรับปรุงข้อมูลทะเบียนผู้ปลูกลำไย เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลให้ตรงตามความเป็นจริง พร้อมช่วยเหลือและสนับสนุนส่งเสริมการผลิตลำไยนอกฤดูในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ โดยจะสนับสนุนสินเชื่อและประสานด้านการตลาดกับผู้ส่งออก
นางอัญชลี อุไรกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้ใช้งบประมาณเป็นจำนวนมากในการบริหารจัดการ แก้ไขปัญหา และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกลำไย เนื่องจากเกษตรกรได้ขยายเนื้อที่เพาะปลูกลำไยอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผลผลิตที่ออกสู่ตลาดกระจุกตัวในช่วงสั้นๆระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมเท่านั้น ทำให้ราคาผลผลิตในช่วงดังกล่าวตกต่ำ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้มีมาตรการบริหารจัดการและควบคุมเนื้อที่เพาะปลูกลำไยไม่ให้เพิ่มขึ้น โดยขอความร่วมมือเกษตรกรหยุดการขยายเนื้อที่เพาะปลูกลำไยในเนื้อที่ใหม่ และ ให้เกษตรกรผู้ปลูกลำไยที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว มาปรับปรุงข้อมูลทะเบียนผู้ปลูกลำไย เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลให้ตรงตามความเป็นจริง
จากบัญชีรายชื่อครัวเรือนเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ เรื่องกำหนดให้ผู้ปลูกลำไยขึ้นทะเบียน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 21 เมษายน 2548 โดยให้ผู้ปลูกหรือผู้ครอบครองต้นลำไยที่ข้อมูลไม่ถูกต้อง ต้องยื่นแบบคำร้องขอปรับปรุงข้อมูลทะเบียนผู้ปลูกลำไย ต่อเจ้าหน้าที่ ณ องค์การบริหารส่วนตำบลที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้วในตำบลนั้น และหรือสถานที่อื่นใดที่เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลจะได้นัดหมาย ภายในกำหนดเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2549 — 21 มีนาคม 2549 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ บัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน เอกสารหลักฐานกรรมสิทธิ์ที่ดิน หรือสิทธิทำกิน หรือสัญญาเช่าพื้นที่ปลูกลำไย และแบบคำร้องปรับปรุงข้อมูลทะเบียนผู้ปลูกลำไย
ทั้งนี้ เกษตรกรผู้มาขอปรับปรุงทะเบียนจะต้องแจ้งข้อมูลการปลูกลำไย ตามความเป็นจริง หากมีการแจ้งข้อมูลแก่ทางราชการเป็นเท็จ จะมีโทษตามกฎหมาย และเกษตรกรรายใดไม่มายื่นแบบคำร้องขอปรับปรุงข้อมูลลำไยในครั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะยึดถือข้อมูลที่เคยได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว และหากข้อมูลที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้เดิมไม่ถูกต้อง หรือไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ภายหลังถ้าทางราชการตรวจสอบได้จะถือว่าแจ้งข้อมูลการปลูกลำไยที่เป็นเท็จแก่ทางราชการจะมีโทษตามกฎหมาย
นางอัญชลี กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการยกระดับราคาลำไยให้สูงขึ้น รัฐบาลไม่ต้องเข้าไปแทรกแซงตลาด แต่มีจะมาตรการช่วยเหลือและสนับสนุนส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน พะเยา ลำปาง ตาก แพร่ และน่าน ผลิตลำไยนอกฤดู โดยถ่ายทอดความรู้ด้านเทคนิคการผลิตลำไยนอกฤดู พร้อมทั้งสนับสนุนสินเชื่อให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรผลิตลำไยคุณภาพและได้มาตรฐานสินค้า (Q) ตรงตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ และจะประสานด้านการตลาดกับผู้ส่งออก เพื่อรับซื้อผลผลิตและกำหนดราคาไว้ล่วงหน้าสำหรับพื้นที่ส่งเสริมการผลิตลำไยนอกฤดูด้วย.
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-
นางอัญชลี อุไรกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันรัฐบาลได้ใช้งบประมาณเป็นจำนวนมากในการบริหารจัดการ แก้ไขปัญหา และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกลำไย เนื่องจากเกษตรกรได้ขยายเนื้อที่เพาะปลูกลำไยอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผลผลิตที่ออกสู่ตลาดกระจุกตัวในช่วงสั้นๆระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมเท่านั้น ทำให้ราคาผลผลิตในช่วงดังกล่าวตกต่ำ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้มีมาตรการบริหารจัดการและควบคุมเนื้อที่เพาะปลูกลำไยไม่ให้เพิ่มขึ้น โดยขอความร่วมมือเกษตรกรหยุดการขยายเนื้อที่เพาะปลูกลำไยในเนื้อที่ใหม่ และ ให้เกษตรกรผู้ปลูกลำไยที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว มาปรับปรุงข้อมูลทะเบียนผู้ปลูกลำไย เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลให้ตรงตามความเป็นจริง
จากบัญชีรายชื่อครัวเรือนเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ เรื่องกำหนดให้ผู้ปลูกลำไยขึ้นทะเบียน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 21 เมษายน 2548 โดยให้ผู้ปลูกหรือผู้ครอบครองต้นลำไยที่ข้อมูลไม่ถูกต้อง ต้องยื่นแบบคำร้องขอปรับปรุงข้อมูลทะเบียนผู้ปลูกลำไย ต่อเจ้าหน้าที่ ณ องค์การบริหารส่วนตำบลที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้วในตำบลนั้น และหรือสถานที่อื่นใดที่เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลจะได้นัดหมาย ภายในกำหนดเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2549 — 21 มีนาคม 2549 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ บัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน เอกสารหลักฐานกรรมสิทธิ์ที่ดิน หรือสิทธิทำกิน หรือสัญญาเช่าพื้นที่ปลูกลำไย และแบบคำร้องปรับปรุงข้อมูลทะเบียนผู้ปลูกลำไย
ทั้งนี้ เกษตรกรผู้มาขอปรับปรุงทะเบียนจะต้องแจ้งข้อมูลการปลูกลำไย ตามความเป็นจริง หากมีการแจ้งข้อมูลแก่ทางราชการเป็นเท็จ จะมีโทษตามกฎหมาย และเกษตรกรรายใดไม่มายื่นแบบคำร้องขอปรับปรุงข้อมูลลำไยในครั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะยึดถือข้อมูลที่เคยได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว และหากข้อมูลที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้เดิมไม่ถูกต้อง หรือไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ภายหลังถ้าทางราชการตรวจสอบได้จะถือว่าแจ้งข้อมูลการปลูกลำไยที่เป็นเท็จแก่ทางราชการจะมีโทษตามกฎหมาย
นางอัญชลี กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการยกระดับราคาลำไยให้สูงขึ้น รัฐบาลไม่ต้องเข้าไปแทรกแซงตลาด แต่มีจะมาตรการช่วยเหลือและสนับสนุนส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน พะเยา ลำปาง ตาก แพร่ และน่าน ผลิตลำไยนอกฤดู โดยถ่ายทอดความรู้ด้านเทคนิคการผลิตลำไยนอกฤดู พร้อมทั้งสนับสนุนสินเชื่อให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรผลิตลำไยคุณภาพและได้มาตรฐานสินค้า (Q) ตรงตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ และจะประสานด้านการตลาดกับผู้ส่งออก เพื่อรับซื้อผลผลิตและกำหนดราคาไว้ล่วงหน้าสำหรับพื้นที่ส่งเสริมการผลิตลำไยนอกฤดูด้วย.
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-