นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่าร้าน Wal-Mart ในสหรัฐฯได้ออกข้อกำหนดให้สินค้ากุ้งที่จำหน่ายใน Wal-Mart ต้องเป็นกุ้งที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงาน Aquaculture Certification Council, Inc (ACC) เท่านั้น ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ในเดือนตุลาคม 2549 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ทั้งนี้ระเบียบดังกล่าวไม่ใช่เป็นระเบียบที่ใช้บังคับโดย FDA ของสหรัฐฯ
ระเบียบดังกล่าวกำหนดให้สินค้ากุ้งนำเข้าที่จะจำหน่ายใน Wal-Mart จะต้องผ่านการรับรองว่า กุ้งนำเข้านั้นได้รับการเพาะเลี้ยงตามมาตรฐาน Best Aquaculture Practices (BAP) จาก Aquaculture Certification Council, Inc (ACC) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนที่ไม่หวังผลกำไร และจัดตั้งขึ้นเพื่อให้การรับรองกระบวนการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ในปัจจุบันสถาบัน ACC ให้บริการออกใบรับรองแก่ โรงเพาะฟักกุ้ง (Hatchery) ฟาร์มเลี้ยงกุ้ง (Farm) และ โรงงานแปรรูปกุ้ง (Processing Plant) โดยมีขั้นตอนขอการรับรอง (Certification) ประกอบด้วย
1. การลงทะเบียนเพื่อขอใบรับรอง : ผู้สมัครต้องลงทะเบียนแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจและส่ง คืนใบลงทะเบียนพร้อมค่าธรรมเนียมจำนวน 500 เหรียญสหรัฐฯ ให้แก่ ACC เพื่อที่ ACC จะให้ใบตอบรับเข้าร่วมโครงการ โดยออกหมายเลขประจำตัวให้แก่ผู้สมัคร และให้คำแนะนำต่างๆ
2. การเตรียมการและคัดเลือกผู้ตรวจสอบ : หลังจากลงทะเบียน ผู้สมัครมีเวลา 1 ปี ที่จะส่งคืนใบสมัครและคัดเลือกผู้ตรวจสอบที่ได้รับการยอมรับจาก ACC ให้เดินทางมาตรวจสอบฟาร์มหรือโรงงานของผู้สมัคร ทั้งนี้ผู้ประกอบการสามารถคัดเลือกผู้ตรวจสอบ (Certifier) ได้จากรายชื่อใน ACC Accredited Certifier ซึ่งจะคิดค่าบริการจากการให้คำปรึกษารายวันและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ในอัตราระหว่าง 400-800 เหรียญสหรัฐฯ ต่อวัน
3. การตรวจสอบ : ในการตรวจสอบสถานที่โรงงาน/ฟาร์ม ผู้ตรวจสอบจะตรวจสอบข้อมูลต่างๆ และกระบวนการผลิตรวมทั้งพิจารณาเกี่ยวกับทรัพยากรบุคคล และรายงานผลให้ผู้สมัครและ ACC ทราบภายใน 14 วัน
4. ค่าธรรมเนียมเข้าร่วมโครงการ : หลังจากการตรวจสอบเสร็จสิ้น ผู้สมัครต้องจ่ายค่า ธรรมเนียมให้ ACC เป็นจำนวนแตกต่างกันไปตามหลักเกณฑ์ ได้แก่ ประเภทโรงงานกำลังการผลิต หรือปริมาณการส่งออกและปริมาณสินค้าสำเร็จรูปที่ส่งออกจากโรงงานในปีก่อนหน้า ซึ่งจะอยู่ระหว่าง 500 - 8,000 เหรียญฯสหรัฐ
5. ตรวจสอบรายชื่อในเว็บไซด์ของ ACC : หลังจากได้รับใบรับรอง และจ่ายค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว ACC จะนำรายชื่อและสถานที่ติดต่อของบริษัทผู้เข้าร่วมโครงการลงในเว็บไซด์
6. การเก็บรวบรวมข้อมูลและสถิติ : โรงงานที่ได้รับการรับรองจะต้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพของน้ำเสียและการบำบัดน้ำเสีย
7. อายุของใบรับรอง : 2 ปี สำหรับโรงเพาะและฟาร์ม และ1 ปี สำหรับโรงงานแปรรูป
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่าสหรัฐฯเป็นตลาดส่งออกสินค้ากุ้งที่สำคัญของไทย โดยมีมูลค่าส่งออกเฉลี่ยประมาณปีละ 36,000 ล้านบาท โดยในปี พ.ศ. 2548 มีมูลค่าการส่งออกจำนวน 38,388.8 ล้านบาท และในช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค.- ก.ค.) ของปี 2549 มีมูลค่าส่งออก 23,958.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5,759.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 31.65 ทั้งนี้ผู้นำเข้าอาหารรายใหญ่ของสหรัฐฯ อาทิ Melissa’s World Variety และ Rhee Brothers จะนำเข้ากุ้งสดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูปจากไทยแล้วกระจายสินค้าผ่านเครือข่ายร้านค้าปลีกของบริษัท ได้แก่ Wal-Mart, Safeway, Wegman และ Costco ดังนั้นหากผู้ประกอบการไทยที่ส่งสินค้ากุ้งไปยังสหรัฐฯสมัครเข้าร่วมโครงการตรวจสอบเพื่อการรับรองมาตรฐานของ ACC ดังกล่าวก็จะเป็นประโยชน์ในการรักษาตลาดของตน ในสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นตลาดหลักของไทยได้ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถหาได้จากเว็บไซด์ http://www.aquaculturecertification.org
--กรมการค้าต่างประเทศ--
-สส-
ระเบียบดังกล่าวกำหนดให้สินค้ากุ้งนำเข้าที่จะจำหน่ายใน Wal-Mart จะต้องผ่านการรับรองว่า กุ้งนำเข้านั้นได้รับการเพาะเลี้ยงตามมาตรฐาน Best Aquaculture Practices (BAP) จาก Aquaculture Certification Council, Inc (ACC) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนที่ไม่หวังผลกำไร และจัดตั้งขึ้นเพื่อให้การรับรองกระบวนการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ในปัจจุบันสถาบัน ACC ให้บริการออกใบรับรองแก่ โรงเพาะฟักกุ้ง (Hatchery) ฟาร์มเลี้ยงกุ้ง (Farm) และ โรงงานแปรรูปกุ้ง (Processing Plant) โดยมีขั้นตอนขอการรับรอง (Certification) ประกอบด้วย
1. การลงทะเบียนเพื่อขอใบรับรอง : ผู้สมัครต้องลงทะเบียนแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจและส่ง คืนใบลงทะเบียนพร้อมค่าธรรมเนียมจำนวน 500 เหรียญสหรัฐฯ ให้แก่ ACC เพื่อที่ ACC จะให้ใบตอบรับเข้าร่วมโครงการ โดยออกหมายเลขประจำตัวให้แก่ผู้สมัคร และให้คำแนะนำต่างๆ
2. การเตรียมการและคัดเลือกผู้ตรวจสอบ : หลังจากลงทะเบียน ผู้สมัครมีเวลา 1 ปี ที่จะส่งคืนใบสมัครและคัดเลือกผู้ตรวจสอบที่ได้รับการยอมรับจาก ACC ให้เดินทางมาตรวจสอบฟาร์มหรือโรงงานของผู้สมัคร ทั้งนี้ผู้ประกอบการสามารถคัดเลือกผู้ตรวจสอบ (Certifier) ได้จากรายชื่อใน ACC Accredited Certifier ซึ่งจะคิดค่าบริการจากการให้คำปรึกษารายวันและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ในอัตราระหว่าง 400-800 เหรียญสหรัฐฯ ต่อวัน
3. การตรวจสอบ : ในการตรวจสอบสถานที่โรงงาน/ฟาร์ม ผู้ตรวจสอบจะตรวจสอบข้อมูลต่างๆ และกระบวนการผลิตรวมทั้งพิจารณาเกี่ยวกับทรัพยากรบุคคล และรายงานผลให้ผู้สมัครและ ACC ทราบภายใน 14 วัน
4. ค่าธรรมเนียมเข้าร่วมโครงการ : หลังจากการตรวจสอบเสร็จสิ้น ผู้สมัครต้องจ่ายค่า ธรรมเนียมให้ ACC เป็นจำนวนแตกต่างกันไปตามหลักเกณฑ์ ได้แก่ ประเภทโรงงานกำลังการผลิต หรือปริมาณการส่งออกและปริมาณสินค้าสำเร็จรูปที่ส่งออกจากโรงงานในปีก่อนหน้า ซึ่งจะอยู่ระหว่าง 500 - 8,000 เหรียญฯสหรัฐ
5. ตรวจสอบรายชื่อในเว็บไซด์ของ ACC : หลังจากได้รับใบรับรอง และจ่ายค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว ACC จะนำรายชื่อและสถานที่ติดต่อของบริษัทผู้เข้าร่วมโครงการลงในเว็บไซด์
6. การเก็บรวบรวมข้อมูลและสถิติ : โรงงานที่ได้รับการรับรองจะต้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพของน้ำเสียและการบำบัดน้ำเสีย
7. อายุของใบรับรอง : 2 ปี สำหรับโรงเพาะและฟาร์ม และ1 ปี สำหรับโรงงานแปรรูป
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่าสหรัฐฯเป็นตลาดส่งออกสินค้ากุ้งที่สำคัญของไทย โดยมีมูลค่าส่งออกเฉลี่ยประมาณปีละ 36,000 ล้านบาท โดยในปี พ.ศ. 2548 มีมูลค่าการส่งออกจำนวน 38,388.8 ล้านบาท และในช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค.- ก.ค.) ของปี 2549 มีมูลค่าส่งออก 23,958.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5,759.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 31.65 ทั้งนี้ผู้นำเข้าอาหารรายใหญ่ของสหรัฐฯ อาทิ Melissa’s World Variety และ Rhee Brothers จะนำเข้ากุ้งสดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูปจากไทยแล้วกระจายสินค้าผ่านเครือข่ายร้านค้าปลีกของบริษัท ได้แก่ Wal-Mart, Safeway, Wegman และ Costco ดังนั้นหากผู้ประกอบการไทยที่ส่งสินค้ากุ้งไปยังสหรัฐฯสมัครเข้าร่วมโครงการตรวจสอบเพื่อการรับรองมาตรฐานของ ACC ดังกล่าวก็จะเป็นประโยชน์ในการรักษาตลาดของตน ในสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นตลาดหลักของไทยได้ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถหาได้จากเว็บไซด์ http://www.aquaculturecertification.org
--กรมการค้าต่างประเทศ--
-สส-