พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร
วันพุธที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 41/2549
คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า
ตั้งแต่วันที่ 5-11 เมษายน 2549
ในช่วงวันที่ 5-7 และ 10-11 เม.ย. ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศร้อน ประกอบกับมีลมใต้พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าว ทำให้มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงในระยะนี้ และในวันที่ 8-9 เม.ย. จะมีแนวพัดสอบเข้าหากันของลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พาดผ่านประเทศไทยตอนบน ทำให้มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจายและ ลมกระโชกแรงบางแห่ง สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ
ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้
เหนือ
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10-20 % ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 30% ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10-20 % ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 30% ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม. ระยะนี้จะมีอากาศร้อน ปริมาณการระเหยของน้ำจากดินและพืชมีมาก เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณโคนต้นพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อสงวนความชื้นในดิน รวมทั้งควรค้ำยันกิ่งของไม้ผลที่กำลัง ให้ผลผลิตให้แข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหายจากลมกระโชกแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะนี้
ตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึง เป็นแห่งๆ 10-20 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 20-50 % ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึง เป็นแห่งๆ 10-20 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 20-50 % ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 8- 9 เม.ย.จะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง อาจทำความเสียหายให้แก่อาคารบ้านเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง เกษตรกรควรระวังอันตรายและเตรียมป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้บริเวณที่มีฝนตก เกษตรกรควร กักเก็บน้ำไว้ใช้ในระยะต่อไปด้วย
กลาง
อากาศร้อนทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 20 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-60 % ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
อากาศร้อนทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ 20 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-60 % ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย.จะเกิดลมกระโชกแรงขึ้นได้ ชาวสวนผลไม้ควรป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ไว้ด้วย นอกจากนี้ควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนชนิดต่างๆ
ตะวันออก
อากาศร้อนทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากในช่วงวันที่ 4-5 และ 8-9 เม.ย. ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. #อากาศร้อนทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30 % ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากในช่วงวันที่ 4-5 และ 8-9 เม.ย. ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ชาวสวนผลไม้ควรสำรวจอุปกรณ์ที่ใช้ค้ำยันกิ่งและลำต้นของไม้ผลและซ่อมแซมให้แข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหายเนื่องจากลมกระโชกแรงในระยะนี้ ส่วนผู้ที่ปลูกทุเรียนควรระวังและป้องกันการระบาดของศัตรูพืชจำพวกหนอนชนิดต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผลเสียหายได้
ใต้
ทางฝั่งตะวันออกมีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-20 % ของพื้นที่ทางตอนกลาง ของภาคส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา ในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-40 % ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝน ฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30 % ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ลมตะวันตก เฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทางฝั่งตะวันออกมีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-20 % ของพื้นที่ทางตอนกลาง ของภาคส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา ในช่วงวันที่ 8-9 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย 30-40 % ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีฝน ฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30 % ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ลมตะวันตก เฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ระยะนี้ทางตอนบนของภาคมีฝนตกน้อยไม้ผลที่กำลังออกดอกและติดผลอ่อน เช่น มังคุดและเงาะ ชาวสวนควรดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอ เพราะหากขาดน้ำจะทำให้ ดอกร่วงหล่นและผลแคระแกร็น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74
-สส-