คชก. แจ้งข่าวดี ช่วยเหลือเกษตรกรรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พร้อมปรับเพิ่มราคาให้สูงขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 5 บาทในเดือนธันวาคม ขีดเส้นไถ่ถอนคืนภายใน 3 เดือน
นายสุรศักดิ์ พันธ์นพ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 3 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2548 อนุมัติให้ดำเนินการรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ชนิดเมล็ด ปีการผลิต 2548 / 49 มีระยะเวลารับจำนำตั้งแต่เดือนกันยายน-ธันวาคม 2548 โดยกำหนดราคาจำนำข้าวโพดชนิดเมล็ดความชื้นไม่เกิน 14.5 % ในระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2548 กิโลกรัมละ 4.75 บาท และปรับเพิ่มราคาขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 5 บาท ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ โดยได้กำหนดระยะเวลาการ ไถ่ถอนภายใน 3 เดือน นับจากเดือนที่รับจำนำ
สำหรับผู้มีสิทธิ์จำนำต้องเป็นเกษตรกรรายบุคคลที่มีหนังสือรับรองความเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด เลี้ยงสัตว์ที่ออกโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) หรือผู้ที่คณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกร อันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตร ระดับจังหวัดกำหนด กรณีที่ ไม่ใช่ลูกค้าสมาชิก ธ.ก.ส. ข้าวโพดที่นำมาจำนำ ต้องเป็นผลผลิตของเกษตรกรผู้จำนำและยังเป็นกรรมสิทธิ์ของเกษตรกรอยู่ เกษตรกรสามารถจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ ในพื้นที่จังหวัดที่ตนเอง ทำการเพาะปลูกรวมทั้งจังหวัดที่มีอาณาเขตติดต่อกัน ซึ่งสำนักงานการค้าภายในจังหวัดอุดรธานี และจังหวัดเลย ชี้แจงว่าในปีการผลิต 2548 / 49 มีจุดรับจำนำข้าวโพดที่เข้าร่วมโครงการฯ เบื้องต้นแล้ว ที่จังหวัดอุดรธานี จำนวน 4 แห่ง จังหวัดเลย จำนวน 8 แห่ง โดยแต่ละจุดรับจำนำกระจายอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอต่าง ๆ ของจังหวัด ทั้งนี้เกษตรกรที่สนใจ และมีความประสงค์จะจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานการค้าภายในจังหวัด ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ประจำจังหวัดนั้น ๆ ต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-
นายสุรศักดิ์ พันธ์นพ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 3 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2548 อนุมัติให้ดำเนินการรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ชนิดเมล็ด ปีการผลิต 2548 / 49 มีระยะเวลารับจำนำตั้งแต่เดือนกันยายน-ธันวาคม 2548 โดยกำหนดราคาจำนำข้าวโพดชนิดเมล็ดความชื้นไม่เกิน 14.5 % ในระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2548 กิโลกรัมละ 4.75 บาท และปรับเพิ่มราคาขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 5 บาท ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ โดยได้กำหนดระยะเวลาการ ไถ่ถอนภายใน 3 เดือน นับจากเดือนที่รับจำนำ
สำหรับผู้มีสิทธิ์จำนำต้องเป็นเกษตรกรรายบุคคลที่มีหนังสือรับรองความเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด เลี้ยงสัตว์ที่ออกโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและ สหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) หรือผู้ที่คณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกร อันเนื่องมาจากผลิตผลการเกษตร ระดับจังหวัดกำหนด กรณีที่ ไม่ใช่ลูกค้าสมาชิก ธ.ก.ส. ข้าวโพดที่นำมาจำนำ ต้องเป็นผลผลิตของเกษตรกรผู้จำนำและยังเป็นกรรมสิทธิ์ของเกษตรกรอยู่ เกษตรกรสามารถจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ ในพื้นที่จังหวัดที่ตนเอง ทำการเพาะปลูกรวมทั้งจังหวัดที่มีอาณาเขตติดต่อกัน ซึ่งสำนักงานการค้าภายในจังหวัดอุดรธานี และจังหวัดเลย ชี้แจงว่าในปีการผลิต 2548 / 49 มีจุดรับจำนำข้าวโพดที่เข้าร่วมโครงการฯ เบื้องต้นแล้ว ที่จังหวัดอุดรธานี จำนวน 4 แห่ง จังหวัดเลย จำนวน 8 แห่ง โดยแต่ละจุดรับจำนำกระจายอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอต่าง ๆ ของจังหวัด ทั้งนี้เกษตรกรที่สนใจ และมีความประสงค์จะจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานการค้าภายในจังหวัด ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ประจำจังหวัดนั้น ๆ ต่อไป
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-