วันนี้ (21 กรกฎาคม 2549) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) การเลือกตั้งสภาสมาชิกสภาเขต (ส.ข.)ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 23 ก.ค.นี้ โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหาเสียงเลือกตั้งอย่างสร้างสรรค์ และไม่ควรใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้องในการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการซื้อเสียง การใช้อำนาจนอกระบบต่างๆ การใช้อิทธิพลเถื่อนมาข่มขู่ผู้สมัคร
นายองอาจกล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบของพรรคประชาธิปัตย์ พบว่ามีความพยายามใช้เงินงบประมาณจากภาษีอากรของประชาชน มาสนับสนุนผู้สมัครของพรรคการเมืองบางพรรค นอกจากนั้นก็มีการใช้หน่วยงานราชการของรัฐบางส่วน เจ้าหน้าที่บางส่วนเข้ามามีส่วนในการสนับสนุนผู้สมัครบางคน
‘พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าน่าจะเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้องก็อยากจะฝากไปถึง กกต.ที่มาดูแลจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ก็ขอให้ช่วยเข้ามาสอดส่องดูแลโดยเฉพาะในวันเสาร์ — อาทิตย์ที่จะถึงนี้ ระยะเวลา 2 — 3 วันที่เหลือนี้ก็จะเป็นช่วงระยะเวลาที่อาจจะมีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในหลายๆพื้นที่ ก็อยากจะให้ กกต.เข้าไปดูแลในเรื่องเหล่านี้’ โฆษก ปชป.กล่าว
ส่วนวิธีการหาเสียงของบางพรรคการเมือง ที่กล่าวโจมตีการทำงานของกรุงเทพมหานครนั้น นายองอาจกล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง ส.ก.- ส.ข. พรรคประชาธิปัตย์ กำลังดูเนื้อหาสาระในข้อความที่พรรคไทยรักไทยลงโฆษณา ซึ่งในเบื้องต้นพบว่า ข้อความดังกล่าวไม่ตรงกับความเป็นจริง อย่างไรก็ตามในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ขอยืนยันว่า การบริหารราชการของผู้ว่า กทม. ยังไม่มีเรื่องใดที่พบว่ามีการทุจริต มีแต่การตั้งข้อกล่าวหา ซึ่งบางเรื่องก็อยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์ความจริง โดยที่ผู้ว่า กทม.ก็ให้ความร่วมมือในการพิสูจน์ความจริง
‘มีการบอกเรื่องของการฮั้วประมูลโครงการ 16 โครงการอย่างนี้เป็นต้น ในความเป็นจริงก็ไม่ถึง 16 โครงการงานทั้งหมดนี้ก็ได้ยุติในระหว่างการสอบสวนทั้งหมดและก็โยกเงินงบประมาณไปใช้ในการต่อขยายรถไฟฟ้าเพราะฉะนั้นขณะนี้ข้อกล่าวหาต่างๆที่เกี่ยงข้องกับการทุจริตก็ยังถือว่าเป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอยเพราะผู้ว่าเองก็ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบการทุจริตและก็ยังไม่มีโครงการใดๆที่พบว่ามีหรือสรุปว่ามีการทุจริตทั้งสิ้น’นายองอาจกล่าว
ส่วนการทำหน้าที่ของกกต.นั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กกต.ต้องไม่จำเป็นต้องรอให้ใครไปร้องเรียนอะไรทั้งสิ้น เพราะกกต.มีฝ่ายสืบสวนสอบสวนอยู่แล้ว ซึ่งสามารถที่จะดำเนินการได้อย่างทันทีทันใดถ้าพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเกิดขึ้น
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนผ่านตู้ปณ.222โดยได้มีเอกสารเป็นใบสำคัญรับเงินที่อาจเข้าข่ายการซื้อเสียงในการเลือกตั้งส.ก.-ส.ข.โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กทม.4 บางขุนเทียนได้มีการแจกจ่ายเงินให้กับผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุคนละ 1,000 บาทนับพันราย จึงอยากให้กระทรวงแรงงานชี้แจงว่าทำไมจึงต้องแจกจ่ายในช่วงการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคได้มอบหมายให้นายสมชาย เอี่ยมมงคลสกุล ผู้สมัครส.ก.เขตบางขุนเทียนตรวจสอบ และแจ้งบันทึกเป็นหลักฐานต่อกกต.ว่าส่อกระทำผิดด้วยการซื้อเสียงหรือไม่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 21 ก.ค. 2549--จบ--
นายองอาจกล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบของพรรคประชาธิปัตย์ พบว่ามีความพยายามใช้เงินงบประมาณจากภาษีอากรของประชาชน มาสนับสนุนผู้สมัครของพรรคการเมืองบางพรรค นอกจากนั้นก็มีการใช้หน่วยงานราชการของรัฐบางส่วน เจ้าหน้าที่บางส่วนเข้ามามีส่วนในการสนับสนุนผู้สมัครบางคน
‘พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าน่าจะเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้องก็อยากจะฝากไปถึง กกต.ที่มาดูแลจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ก็ขอให้ช่วยเข้ามาสอดส่องดูแลโดยเฉพาะในวันเสาร์ — อาทิตย์ที่จะถึงนี้ ระยะเวลา 2 — 3 วันที่เหลือนี้ก็จะเป็นช่วงระยะเวลาที่อาจจะมีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในหลายๆพื้นที่ ก็อยากจะให้ กกต.เข้าไปดูแลในเรื่องเหล่านี้’ โฆษก ปชป.กล่าว
ส่วนวิธีการหาเสียงของบางพรรคการเมือง ที่กล่าวโจมตีการทำงานของกรุงเทพมหานครนั้น นายองอาจกล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง ส.ก.- ส.ข. พรรคประชาธิปัตย์ กำลังดูเนื้อหาสาระในข้อความที่พรรคไทยรักไทยลงโฆษณา ซึ่งในเบื้องต้นพบว่า ข้อความดังกล่าวไม่ตรงกับความเป็นจริง อย่างไรก็ตามในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ขอยืนยันว่า การบริหารราชการของผู้ว่า กทม. ยังไม่มีเรื่องใดที่พบว่ามีการทุจริต มีแต่การตั้งข้อกล่าวหา ซึ่งบางเรื่องก็อยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์ความจริง โดยที่ผู้ว่า กทม.ก็ให้ความร่วมมือในการพิสูจน์ความจริง
‘มีการบอกเรื่องของการฮั้วประมูลโครงการ 16 โครงการอย่างนี้เป็นต้น ในความเป็นจริงก็ไม่ถึง 16 โครงการงานทั้งหมดนี้ก็ได้ยุติในระหว่างการสอบสวนทั้งหมดและก็โยกเงินงบประมาณไปใช้ในการต่อขยายรถไฟฟ้าเพราะฉะนั้นขณะนี้ข้อกล่าวหาต่างๆที่เกี่ยงข้องกับการทุจริตก็ยังถือว่าเป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอยเพราะผู้ว่าเองก็ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบการทุจริตและก็ยังไม่มีโครงการใดๆที่พบว่ามีหรือสรุปว่ามีการทุจริตทั้งสิ้น’นายองอาจกล่าว
ส่วนการทำหน้าที่ของกกต.นั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กกต.ต้องไม่จำเป็นต้องรอให้ใครไปร้องเรียนอะไรทั้งสิ้น เพราะกกต.มีฝ่ายสืบสวนสอบสวนอยู่แล้ว ซึ่งสามารถที่จะดำเนินการได้อย่างทันทีทันใดถ้าพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเกิดขึ้น
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนผ่านตู้ปณ.222โดยได้มีเอกสารเป็นใบสำคัญรับเงินที่อาจเข้าข่ายการซื้อเสียงในการเลือกตั้งส.ก.-ส.ข.โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กทม.4 บางขุนเทียนได้มีการแจกจ่ายเงินให้กับผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุคนละ 1,000 บาทนับพันราย จึงอยากให้กระทรวงแรงงานชี้แจงว่าทำไมจึงต้องแจกจ่ายในช่วงการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคได้มอบหมายให้นายสมชาย เอี่ยมมงคลสกุล ผู้สมัครส.ก.เขตบางขุนเทียนตรวจสอบ และแจ้งบันทึกเป็นหลักฐานต่อกกต.ว่าส่อกระทำผิดด้วยการซื้อเสียงหรือไม่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 21 ก.ค. 2549--จบ--