วันนี้(14 ก.ค. 49)นายศิริโชค โสภา กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงรายงานฉบับสมบูรณ์ของอธิบดีกรมขนส่งทางอากาศเรื่องผลสอบกรณีเครื่องบินการบินไทยเที่ยวบินที่ทีจี 114 ชนิดโบอิ้ง 737-400 ที่ระเบิดที่ท่าอากาศยานกรุงเทพ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2544
ซึ่งส่งให้กับคณะกรรมการความปลอดภัยทางด้านขนส่งแห่งชาติของสหรัฐ (เอ็นทีเอสบี) ว่ารายงานนี้ไม่ได้นำมาเปิดเผยต่อสาธารณชน ซึ่งตนได้มาจากมิสเตอร์โรเบิร์ต สเวลท์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในคณะกรรมการด้านการปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐ
จึงอยากตั้งข้อสังเกตว่าการสอบสวนเรื่องนี้ค่อนข้างใช้เวลานานถึง 4 ปี โดยการสอบสวนเสร็จสิ้นเมื่อปี 2548 ซึ่งอธิบดีกรมขนส่งทางอากาศได้ทำหนังสือถึงมิสเตอร์โรเบิร์ต เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2548 แต่จนถึงขณะนี้รายงานฉบับนี้ยังไม่ได้รับการเปิดเผยทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องที่คนไทยทั้งประเทศอยากทราบว่าเกิดอะไรขึ้น นายศิริโชค กล่าวว่า ข้อสรุปของรายงานฉบับนี้แตกต่างจากที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ที่ตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุการระเบิดเกิดจากการวินาศกรรม ลอบสังหาร เพราะในบทสรุประบุว่าการระเบิดเป็นอุบัติเหตุโดยเป็นการระเบิดจากถังน้ำมันส่วนกลาง และไม่มีใครสามารถไปวางระเบิดตรงนั้นได้
นอกจากนั้น รายงานยังระบุชัดเจนว่าไม่ใช่การวินาศกรรมอย่างแน่นอน จึงขอตั้งข้อสังเกตถึงการปกปิดรายงานฉบับนี้ว่าอาจจะทำให้นายกรัฐมนตรีอับอายหรือไม่ ดังนั้น รัฐบาลควรที่จะนำรายงานฉบับนี้มาเปิดเผย เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องทราบถึงความปลอดภัยของเครื่องบิน ซึ่งเหมือนกับวันนี้ที่นายกรัฐมนตรีกำลังออกมาบอกว่าหน่วยข่าวกรองรายงานว่ามีการคิดที่จะลอบสังหาร ผมไม่อยากให้เหมือนกับตอนที่เครื่องบินระเบิด เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ เพราะคำพูดของผู้นำประเทศมีน้ำหนักมาก
ดังนั้น ต่อจากนี้ไปนายกรัฐมนตรีจะพูดอะไรควรระมัดระวัง อย่าด่วนสรุปก่อนที่จะมีหลักฐาน ทั้งหมดที่นายกรัฐมนตรีพูดออกมาพูดแบบใช้จินตนาการ โดยไม่มีหลักฐานข้อเท็จจริงเลย
"ผมไม่อยากคิดว่าการพูดเรื่องลอบสังหารจะมีนัยทางการเมืองหรือการสร้างสถานการณ์เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นจดหมายถึงประธานาธิบดีสหรัฐหรือไม่อย่างไร แต่คิดว่าท่านอาจจะหวาดระแวงสถานการณ์ที่ไม่ค่อยสงบเท่าไหร่ แต่คิดว่าแม้นายกฯ จะทราบข่าวจากสำนักข่าวกรอง แต่ควรตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อนที่จะนำมาพูด หากเหตุการณ์เหมือนกับระเบิดเครื่องบินเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แล้วใครจะเชื่อถือคำพูดของผู้นำประเทศ" นายศิริโชค กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 14 ก.ค. 2549--จบ--
ซึ่งส่งให้กับคณะกรรมการความปลอดภัยทางด้านขนส่งแห่งชาติของสหรัฐ (เอ็นทีเอสบี) ว่ารายงานนี้ไม่ได้นำมาเปิดเผยต่อสาธารณชน ซึ่งตนได้มาจากมิสเตอร์โรเบิร์ต สเวลท์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในคณะกรรมการด้านการปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐ
จึงอยากตั้งข้อสังเกตว่าการสอบสวนเรื่องนี้ค่อนข้างใช้เวลานานถึง 4 ปี โดยการสอบสวนเสร็จสิ้นเมื่อปี 2548 ซึ่งอธิบดีกรมขนส่งทางอากาศได้ทำหนังสือถึงมิสเตอร์โรเบิร์ต เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2548 แต่จนถึงขณะนี้รายงานฉบับนี้ยังไม่ได้รับการเปิดเผยทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องที่คนไทยทั้งประเทศอยากทราบว่าเกิดอะไรขึ้น นายศิริโชค กล่าวว่า ข้อสรุปของรายงานฉบับนี้แตกต่างจากที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ที่ตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุการระเบิดเกิดจากการวินาศกรรม ลอบสังหาร เพราะในบทสรุประบุว่าการระเบิดเป็นอุบัติเหตุโดยเป็นการระเบิดจากถังน้ำมันส่วนกลาง และไม่มีใครสามารถไปวางระเบิดตรงนั้นได้
นอกจากนั้น รายงานยังระบุชัดเจนว่าไม่ใช่การวินาศกรรมอย่างแน่นอน จึงขอตั้งข้อสังเกตถึงการปกปิดรายงานฉบับนี้ว่าอาจจะทำให้นายกรัฐมนตรีอับอายหรือไม่ ดังนั้น รัฐบาลควรที่จะนำรายงานฉบับนี้มาเปิดเผย เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องทราบถึงความปลอดภัยของเครื่องบิน ซึ่งเหมือนกับวันนี้ที่นายกรัฐมนตรีกำลังออกมาบอกว่าหน่วยข่าวกรองรายงานว่ามีการคิดที่จะลอบสังหาร ผมไม่อยากให้เหมือนกับตอนที่เครื่องบินระเบิด เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ เพราะคำพูดของผู้นำประเทศมีน้ำหนักมาก
ดังนั้น ต่อจากนี้ไปนายกรัฐมนตรีจะพูดอะไรควรระมัดระวัง อย่าด่วนสรุปก่อนที่จะมีหลักฐาน ทั้งหมดที่นายกรัฐมนตรีพูดออกมาพูดแบบใช้จินตนาการ โดยไม่มีหลักฐานข้อเท็จจริงเลย
"ผมไม่อยากคิดว่าการพูดเรื่องลอบสังหารจะมีนัยทางการเมืองหรือการสร้างสถานการณ์เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นจดหมายถึงประธานาธิบดีสหรัฐหรือไม่อย่างไร แต่คิดว่าท่านอาจจะหวาดระแวงสถานการณ์ที่ไม่ค่อยสงบเท่าไหร่ แต่คิดว่าแม้นายกฯ จะทราบข่าวจากสำนักข่าวกรอง แต่ควรตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อนที่จะนำมาพูด หากเหตุการณ์เหมือนกับระเบิดเครื่องบินเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แล้วใครจะเชื่อถือคำพูดของผู้นำประเทศ" นายศิริโชค กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 14 ก.ค. 2549--จบ--