แท็ก
ศิลปะ
ขั้นตอนการทำภาพนูนต่ำจากเหยื่อกระดาษหัตถกรรม
1. การปั้นแบบพิมพ์ (MOLD)
การทำต้นแบบพิมพ์ จะดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการสร้างต้นแบบพิมพ์ เป็นงานที่ต้องอาศัยฝีมือ ความรู้พื้นฐานและทักษะทางด้านศิลปะ เข้ามาประกอบในการปั้นแบบพิมพ์ด้วย โดยการใช้ดินน้ำมัน มาปั้นขึ้นรูปตามต้นแบบที่ต้องการ จัดทำต้นแบบและขนาดให้มีความเหมาะสม ต้องไม่สูงเกินไปและต่ำเกินไปนัก ต้องคำนึงถึงการใช้เยื้อกระดาษกดลงไปในแบบพิมพ์ปูนพลาสเตอร์การลอกและการแกะเยื่อกระดาษออกจากแบบพิมพ์ปูนพาสเตอร์ด้วย จากนั้นใช้เครื่องมือในการปั้นตกแต่งและเก็บลายละเอียดส่วนต่างๆของแบบพิมพ์ให้เห็นเด่นชัด สำหรับผู้ที่ไม่ถนัดในการปั้นต้นแบบพิมพ์ สามารถใช้วัสดุอื่นที่อยู่ในธรรมชาติ เช่น ผลไม้ต่างๆ ผลิตภัณฑ์จากไม้แกะสลัก หรือปูนปั้นรูปแบบต่างๆ เป็นต้น สามารถนำมาเป็นต้นแบบพิมพ์แทนได้
2. การหล่อแบบพิมพ์ด้วยปูนพลาสเตอร์
หลังจากปั้นด้วยดินน้ำมันเสร็จเรียบร้อยแล้ว นำกรอบไม้ที่จัดเตรียมไว้มาวางแล้วจัดแบบให้มีความเหมาะสมกับชิ้นงาน ใช้ดินน้ำมันอุดตามร่องรอยต่างๆของกรอบไม้ด้านนอกให้ทั่ว จากนั้นจึงนำปูนพลาสเตอร์มาผสมกับน้ำสะอาดที่เตรียมไว้ในภาชนะ ตักปูนพลาสเตอร์ใส่ลงไปในน้ำ สังเกตดูที่ปูนพลาสเตอร์ต้องให้เสมอกันกับผิวน้ำที่ใส่ลงไปในภาชนะ แล้วใช้ช้อนคนหรือกวนละลายปูนพลาสเตอร์กับน้ำให้เข้ากัน การคนต้องให้ไปในทิศทางเดียวกัน อย่าให้จับตัวกันเป็นก้อน เวลาในการคนย่อมเป็นผลดีต่อความแข็งแรงของปูนพาสเตอร์ ตลอดจนการดูดซึมของน้ำเมื่อคนละลายดีแล้วนำปูนพลาสเตอร์เทลงในแบบพิมพ์แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แข็งตัว และเมื่อแข็งตัวดีแล้วจึงถอดกรอบไม้ออกจากแบบพิมพ์ ตรวจสอบและตกแต่งให้เรียบร้อยก่อนนำไปใช้งาน
3. การเตรียมเยื่อและการกดเยื่อกระดาษ
โดยการนำกระดาษที่ใช้ประโยชน์แล้ว เช่น กล่องกระดาษลูกฟูกต่างๆ และเศษกระดาษสาที่ใช้แล้ว มาแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน แล้วใช้เครื่องตีเยื่อกระดาษต้นแบบ “ ใบโค้ง” ที่ออกแบบและพัฒนาโดยทีมงาน OIOM (One Idca One Month) สำนักพัฒนาอุตสาหกรรมในครอบครัวและ หัตกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ตีเยื่อกระดาษเพื่อให้เยื่อกระดาษนั้นแตกกระจายไม่ให้รวมตัวกันเป็นก้อน ปรากฏว่าเยื่อกระดาษที่ผ่านแช่น้ำและตีเยื่อมาแล้ว จะได้เยื่อที่มีความยาวและฟูขึ้น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีของกระดาษโดยทั่วไปที่ต้องการเยื่อที่มีความยาว ความเหนียว และความแข็งแรง ทำให้กระดาษไม่ฉีกขาดได้ง่าย ใช้เวลาในการตี ครั้งละ 10 — 15 นาที หรือตามต้องการ จากนั้นถ่ายเยื่อออกจากเครื่องตีเยื่อ นำมาชั่งน้ำหนักเพื่อกำหนดความหนา - บางของกระดาษ เสร็จแล้วนำเยื่อกระดาษที่ผ่านการชั่งน้ำหนักแล้ว มากระจายลงในตะแกรงไม้ที่ขึงด้วยตาข่ายไนล่อนที่วางอยู่ในอ่างน้ำ ใช้มือกระจายเยื่อไปให้ทั่วทั้งตะแกรงและสังเกตดูเยื่อที่กระจายออกไปนั้น ต้องให้มีความสม่ำเสมอทั่วทั้งตะแกรงด้วย เสร็จแล้วยกตะแกรงไม้ขึ้นพักไว้ก่อน โดยให้อยู่เหนือผิวน้ำ เพื่อให้น้ำในตะแกรงไหลออกให้หมด แล้วจึงนำไปตากแดดพอหมาดๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง
เมื่อตากกระดาษกระดาษพอหมาดๆ ได้ที่แล้ว นำเยื่อกระดาษออกจากตะแกรงไม้ มาวางลงบนแบบพิมพ์ปูนพลาสเตอร์ที่ได้จัดเตรียมไว้ แล้วใช้ฟองน้ำค่อยๆ กดเยื่อกระดาษลงไปที่แบบพิมพ์ที่ละน้อยๆ ตามร่องรอยต่างๆ ของแบบพิมพ์จนทั่วทั้งภาพ การกดเยื่อกระดาษแรงๆ จะทำให้เยื่อกระดาษฉีกขาดได้ง่าย และเมื่อกดเยื่อกระดาษเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปล่อยทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นค่อยๆ ลอกและแกะเยื่อกระดาษออกจากแบบพิมพ์ปูนพาสเตอร์ นำไปแขวนและผึ่งลมให้แห้งสนิท เพื่อรอการตกแต่งสีในขั้นตอนสุดท้ายต่อไป
4. การลงสีปัดผลฝุ่น ทอง เงิน นาค
หลังจากผึ่งลมจนแห้งสนิทดีแล้ว นำภาพที่ได้มาพ่นด้วยสีดำสเปรย์พ่นลงไปให้ทั่วทั้งแผ่นภาพแล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นนำสีผงฝุ่นที่ต้องการ ใช้แปรงปัดผงสีฝุ่น และแลคเกอร์เป็นตัวช่วยในการยึดเกาะประสาน ทำการปัดผงฝุ่นสีที่ต้องการไปให้ทั่วทั้งแผ่นภาพ ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นจึงใช้แลคเกอร์สเปรย์พ่นไปให้ทั่วทั้งแผ่นภาพ จะทำให้ภาพที่ได้มีความแข็งแรง ก็จะได้ “ภาพนูนต่ำจากเยื่อกระดาษ” ตามที่ต้องการ
ที่มา: สำนักพัฒนาอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-
1. การปั้นแบบพิมพ์ (MOLD)
การทำต้นแบบพิมพ์ จะดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการสร้างต้นแบบพิมพ์ เป็นงานที่ต้องอาศัยฝีมือ ความรู้พื้นฐานและทักษะทางด้านศิลปะ เข้ามาประกอบในการปั้นแบบพิมพ์ด้วย โดยการใช้ดินน้ำมัน มาปั้นขึ้นรูปตามต้นแบบที่ต้องการ จัดทำต้นแบบและขนาดให้มีความเหมาะสม ต้องไม่สูงเกินไปและต่ำเกินไปนัก ต้องคำนึงถึงการใช้เยื้อกระดาษกดลงไปในแบบพิมพ์ปูนพลาสเตอร์การลอกและการแกะเยื่อกระดาษออกจากแบบพิมพ์ปูนพาสเตอร์ด้วย จากนั้นใช้เครื่องมือในการปั้นตกแต่งและเก็บลายละเอียดส่วนต่างๆของแบบพิมพ์ให้เห็นเด่นชัด สำหรับผู้ที่ไม่ถนัดในการปั้นต้นแบบพิมพ์ สามารถใช้วัสดุอื่นที่อยู่ในธรรมชาติ เช่น ผลไม้ต่างๆ ผลิตภัณฑ์จากไม้แกะสลัก หรือปูนปั้นรูปแบบต่างๆ เป็นต้น สามารถนำมาเป็นต้นแบบพิมพ์แทนได้
2. การหล่อแบบพิมพ์ด้วยปูนพลาสเตอร์
หลังจากปั้นด้วยดินน้ำมันเสร็จเรียบร้อยแล้ว นำกรอบไม้ที่จัดเตรียมไว้มาวางแล้วจัดแบบให้มีความเหมาะสมกับชิ้นงาน ใช้ดินน้ำมันอุดตามร่องรอยต่างๆของกรอบไม้ด้านนอกให้ทั่ว จากนั้นจึงนำปูนพลาสเตอร์มาผสมกับน้ำสะอาดที่เตรียมไว้ในภาชนะ ตักปูนพลาสเตอร์ใส่ลงไปในน้ำ สังเกตดูที่ปูนพลาสเตอร์ต้องให้เสมอกันกับผิวน้ำที่ใส่ลงไปในภาชนะ แล้วใช้ช้อนคนหรือกวนละลายปูนพลาสเตอร์กับน้ำให้เข้ากัน การคนต้องให้ไปในทิศทางเดียวกัน อย่าให้จับตัวกันเป็นก้อน เวลาในการคนย่อมเป็นผลดีต่อความแข็งแรงของปูนพาสเตอร์ ตลอดจนการดูดซึมของน้ำเมื่อคนละลายดีแล้วนำปูนพลาสเตอร์เทลงในแบบพิมพ์แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แข็งตัว และเมื่อแข็งตัวดีแล้วจึงถอดกรอบไม้ออกจากแบบพิมพ์ ตรวจสอบและตกแต่งให้เรียบร้อยก่อนนำไปใช้งาน
3. การเตรียมเยื่อและการกดเยื่อกระดาษ
โดยการนำกระดาษที่ใช้ประโยชน์แล้ว เช่น กล่องกระดาษลูกฟูกต่างๆ และเศษกระดาษสาที่ใช้แล้ว มาแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน แล้วใช้เครื่องตีเยื่อกระดาษต้นแบบ “ ใบโค้ง” ที่ออกแบบและพัฒนาโดยทีมงาน OIOM (One Idca One Month) สำนักพัฒนาอุตสาหกรรมในครอบครัวและ หัตกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ตีเยื่อกระดาษเพื่อให้เยื่อกระดาษนั้นแตกกระจายไม่ให้รวมตัวกันเป็นก้อน ปรากฏว่าเยื่อกระดาษที่ผ่านแช่น้ำและตีเยื่อมาแล้ว จะได้เยื่อที่มีความยาวและฟูขึ้น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีของกระดาษโดยทั่วไปที่ต้องการเยื่อที่มีความยาว ความเหนียว และความแข็งแรง ทำให้กระดาษไม่ฉีกขาดได้ง่าย ใช้เวลาในการตี ครั้งละ 10 — 15 นาที หรือตามต้องการ จากนั้นถ่ายเยื่อออกจากเครื่องตีเยื่อ นำมาชั่งน้ำหนักเพื่อกำหนดความหนา - บางของกระดาษ เสร็จแล้วนำเยื่อกระดาษที่ผ่านการชั่งน้ำหนักแล้ว มากระจายลงในตะแกรงไม้ที่ขึงด้วยตาข่ายไนล่อนที่วางอยู่ในอ่างน้ำ ใช้มือกระจายเยื่อไปให้ทั่วทั้งตะแกรงและสังเกตดูเยื่อที่กระจายออกไปนั้น ต้องให้มีความสม่ำเสมอทั่วทั้งตะแกรงด้วย เสร็จแล้วยกตะแกรงไม้ขึ้นพักไว้ก่อน โดยให้อยู่เหนือผิวน้ำ เพื่อให้น้ำในตะแกรงไหลออกให้หมด แล้วจึงนำไปตากแดดพอหมาดๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง
เมื่อตากกระดาษกระดาษพอหมาดๆ ได้ที่แล้ว นำเยื่อกระดาษออกจากตะแกรงไม้ มาวางลงบนแบบพิมพ์ปูนพลาสเตอร์ที่ได้จัดเตรียมไว้ แล้วใช้ฟองน้ำค่อยๆ กดเยื่อกระดาษลงไปที่แบบพิมพ์ที่ละน้อยๆ ตามร่องรอยต่างๆ ของแบบพิมพ์จนทั่วทั้งภาพ การกดเยื่อกระดาษแรงๆ จะทำให้เยื่อกระดาษฉีกขาดได้ง่าย และเมื่อกดเยื่อกระดาษเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปล่อยทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นค่อยๆ ลอกและแกะเยื่อกระดาษออกจากแบบพิมพ์ปูนพาสเตอร์ นำไปแขวนและผึ่งลมให้แห้งสนิท เพื่อรอการตกแต่งสีในขั้นตอนสุดท้ายต่อไป
4. การลงสีปัดผลฝุ่น ทอง เงิน นาค
หลังจากผึ่งลมจนแห้งสนิทดีแล้ว นำภาพที่ได้มาพ่นด้วยสีดำสเปรย์พ่นลงไปให้ทั่วทั้งแผ่นภาพแล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นนำสีผงฝุ่นที่ต้องการ ใช้แปรงปัดผงสีฝุ่น และแลคเกอร์เป็นตัวช่วยในการยึดเกาะประสาน ทำการปัดผงฝุ่นสีที่ต้องการไปให้ทั่วทั้งแผ่นภาพ ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นจึงใช้แลคเกอร์สเปรย์พ่นไปให้ทั่วทั้งแผ่นภาพ จะทำให้ภาพที่ได้มีความแข็งแรง ก็จะได้ “ภาพนูนต่ำจากเยื่อกระดาษ” ตามที่ต้องการ
ที่มา: สำนักพัฒนาอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-