สศก. เดินหน้าพบผู้ประกอบการกัมพูชา ร่วมหารือ Contract Farming หวังสร้างงาน สร้างรายได้ให้ประชาชน เผยนำเข้าสินค้าเกษตรจากกัมพูชา เกษตรกรไทยหายห่วงเพราะพิจาณาตามปริมาณที่ขาดแคลนเท่านั้น
นางอัญชลี อุไรกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการนำคณะเจ้าหน้าที่ของสำนักนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เดินทางไปพบผู้ประกอบการกัมพูชาที่แนวชายแดนในระหว่างวันที่ 3 - 5 มีนาคม 2549 พร้อมนำคณะผู้ประกอบการกัมพูชามาร่วมประชุมหารือกับผู้ประกอบการไทยในการประชุมความต้องการลงทุน Contract Farming ระหว่างไทย - กัมพูชา ในวันที่ 6 มีนาคม 2549 ณ โรงแรมอรัญเมอเมด จังหวัดสระแก้ว โดยผลการประชุมดังกล่าวสรุปว่า สามารถบรรลุถึงการตกลงในการลงทุนทำ Contract Farming ระหว่างผู้ประกอบการไทยกว่า 20 ราย อาทิ ห้างหุ้นส่วนจำกัดรุ่งเรืองผลเขาฉกรรจ์ บริษัทจำกัด (มหาชน) กรุงเทพฯโปรดิวส์ บริษัทริเวอร์แคว บริษัทแดรี่พลัส และอื่นๆ ที่มีความต้องการลงทุนและรับซื้อผลิตผลการเกษตรหลายชนิดจากประเทศกัมพูชา ส่วนผู้ประกอบการกัมพูชา 3 ราย ได้แก่ สมาคมเพื่อการพัฒนาแห่งชนชาติกัมพูชา ห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยกัมพูชานำเข้า — ส่งออก และสมาคมสนับสนุนผลผลิตการเกษตรแห่งกัมพูชา โดยผู้ประกอบการกัมพูชาได้เสนอพื้นที่เพาะปลูกรวมกันกว่า 4 แสนแฮกเตอร์ หรือ 2.5 ล้านไร่ ที่มีเกษตรกรกัมพูชาในเครือข่ายกว่าหมื่นรายพร้อมที่จะทำการผลิตสินค้าเกษตรตามที่ผู้ประกอบการไทยต้องการ ได้แก่ ถั่วเหลือง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ งา ถั่วเขียวผิวมัน ละหุ่ง ปาล์มน้ำมัน และอื่นๆ
นางอัญชลี กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานดังกล่าว เป็นการสนองตอบต่อยุทธศาสตร์ในด้านความร่วมมือกับต่างประเทศตามนโยบายของรัฐบาล และปฏิญญาพุกาม อันจะนำมาสู่การสร้างงาน สร้าง รายได้ให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศ เป็นการขยายความเจริญทางเศรษฐกิจให้กับภูมิภาค และการนำเข้าสินค้าเกษตรดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรไทย เพราะเป็นผลผลิตที่ไทยผลิตได้ไม่เพียงพอ การนำเข้าจะพิจารณาจำกัดตามปริมาณในส่วนที่ขาดแคลนเท่านั้น ซึ่งคาดหมายได้ว่าปริมาณการค้าสินค้าเกษตรชายแดนจะมีมูลค่าการนำเข้าจากกัมพูชาในปี 2549 กว่า 5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 มีมูลค่าเพียง 1.1 ล้านบาท จึงนับว่าผลการดำเนินงานได้ปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรมแล้ว
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-
นางอัญชลี อุไรกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการนำคณะเจ้าหน้าที่ของสำนักนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เดินทางไปพบผู้ประกอบการกัมพูชาที่แนวชายแดนในระหว่างวันที่ 3 - 5 มีนาคม 2549 พร้อมนำคณะผู้ประกอบการกัมพูชามาร่วมประชุมหารือกับผู้ประกอบการไทยในการประชุมความต้องการลงทุน Contract Farming ระหว่างไทย - กัมพูชา ในวันที่ 6 มีนาคม 2549 ณ โรงแรมอรัญเมอเมด จังหวัดสระแก้ว โดยผลการประชุมดังกล่าวสรุปว่า สามารถบรรลุถึงการตกลงในการลงทุนทำ Contract Farming ระหว่างผู้ประกอบการไทยกว่า 20 ราย อาทิ ห้างหุ้นส่วนจำกัดรุ่งเรืองผลเขาฉกรรจ์ บริษัทจำกัด (มหาชน) กรุงเทพฯโปรดิวส์ บริษัทริเวอร์แคว บริษัทแดรี่พลัส และอื่นๆ ที่มีความต้องการลงทุนและรับซื้อผลิตผลการเกษตรหลายชนิดจากประเทศกัมพูชา ส่วนผู้ประกอบการกัมพูชา 3 ราย ได้แก่ สมาคมเพื่อการพัฒนาแห่งชนชาติกัมพูชา ห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยกัมพูชานำเข้า — ส่งออก และสมาคมสนับสนุนผลผลิตการเกษตรแห่งกัมพูชา โดยผู้ประกอบการกัมพูชาได้เสนอพื้นที่เพาะปลูกรวมกันกว่า 4 แสนแฮกเตอร์ หรือ 2.5 ล้านไร่ ที่มีเกษตรกรกัมพูชาในเครือข่ายกว่าหมื่นรายพร้อมที่จะทำการผลิตสินค้าเกษตรตามที่ผู้ประกอบการไทยต้องการ ได้แก่ ถั่วเหลือง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ งา ถั่วเขียวผิวมัน ละหุ่ง ปาล์มน้ำมัน และอื่นๆ
นางอัญชลี กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานดังกล่าว เป็นการสนองตอบต่อยุทธศาสตร์ในด้านความร่วมมือกับต่างประเทศตามนโยบายของรัฐบาล และปฏิญญาพุกาม อันจะนำมาสู่การสร้างงาน สร้าง รายได้ให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศ เป็นการขยายความเจริญทางเศรษฐกิจให้กับภูมิภาค และการนำเข้าสินค้าเกษตรดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรไทย เพราะเป็นผลผลิตที่ไทยผลิตได้ไม่เพียงพอ การนำเข้าจะพิจารณาจำกัดตามปริมาณในส่วนที่ขาดแคลนเท่านั้น ซึ่งคาดหมายได้ว่าปริมาณการค้าสินค้าเกษตรชายแดนจะมีมูลค่าการนำเข้าจากกัมพูชาในปี 2549 กว่า 5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 มีมูลค่าเพียง 1.1 ล้านบาท จึงนับว่าผลการดำเนินงานได้ปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรมแล้ว
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--
-พห-