มาเลย์-เวียดนามส้มหล่นรับลงทุนไทยอึมครึม

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 26, 2006 10:33 —กรมส่งเสริมการส่งออก

          นายดุสิต นนทะนาคร กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย ได้กล่าวถึงภาพรวมการลงทุนขณะนี้ยังไม่ชัดเจนแม้จะมีกำหนดการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคม 2549 ทิศทางการลงทุนยังชะลอตัวเพื่อรอความชัดเจน โดยการลงทุนในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2549 มีโครงการเข้าขอรับการส่งเสริมการลงทุน 322 โครงการมีมูลค่า 90,741 ล้านบาท โดยญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มาลงทุนสูงสุดรองลงมาคือประเทศในภูมิภาคอาเซียน 
แนวทางการขยายโอกาสการลงทุนหอการค้าไทยให้พิจารณาและเตรียมแผนงานในเรื่องต่างๆ ดังนี้คือ 1. การขยายตัวทางเศรษฐกิจ คาดว่าจะอยู่ในภาวะชะลอตัวเพราะปัจจัยด้านการเมือง2. ผู้ประกอบกากรธุรกิจเอสเอ็มอี ต้องชะลอการลงทุนโดยเฉพาะการจัดซื้อเครื่องจักรใหม่ๆ เพื่อลดความเสี่ยง 3. ปัจจัยเสี่ยงต่อแนวโน้มการลงทุนของไทย ได้แก่ ผลกระทบจากราคาน้ำมัน ทิศทางการเติบโตของประเทศผู้ลงทุน เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐ เป็นต้น
ด้านนายปีเตอร์ จอห์น แวน ฮาเรน ประธานหอการค้าต่างประเทศในไทย ได้กล่าวถึงภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในมุมมองของนักลงทุนต่างประเทศว่า 27 หอการค้าต่างประเทศมีความเห็นตรงกันว่าการลงทุนใหม่หรือลงทุนเพิ่มในไทยจะต้องมีการพิจารณาปัจจัยเสี่ยงด้านการเมืองภายใน 2 เดือนข้างหน้านี้ด้วย การเมืองจะต้องมีความชัดเจนถ้ายังไม่ชัดเจนนักลงทุนมีเป้าหมายย้ายการลงทุนไปยังประเทศมาเลเซีย เวียดนาม และเกาหลีใต้ ซึ่งประเทศเหล่านี้เป็นประเทศที่มีอัตราค่าจ้างแรงงานที่ต่ำกว่าไทย
นายเท็ตซึจึ บันโน่ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ เห็นว่าไทยยังเป็นประเทศอันดับแรกที่ญี่ปุ่นสนใจจะลงทุน แต่ถ้าหากภายในปี 2549 นี้ ไทยยังไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ย่อมจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนของต่างประเทศอย่างแน่นอน
นายดีพาค มิททัล ประธานหอการค้าอินเดีย-ไทย เชื่อว่าไทยสามารถแก้ไขและเร่งให้เกิดความคลี่คลายได้แต่ในขณะนี้ไทยควรเร่งพัฒนาในด้านแรงงานมีฝีมือให้เพียงพอแก่ความต้องการของต่างชาติอีกทั้งควรจะรักษาสมดุลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ
ประเด็นวิเคราะห์:
หอการค้าไทยได้ประเมินสถานการณ์การเมืองของไทยว่าได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศในไทยแล้ว โดยใน 5 เดือนแรกของปี 2549 นี้ได้เริ่มชะลอตัวลง ในขณะที่หอการค้าได้เสนอแนะว่าถ้าภายใน 2 เดือนจากนี้ไปหากการเมืองไทยยังขาดความชัดเจนจะทำให้นักลงทุนย้ายการลงทุนไปประเทศมาเลยเซีย เวียดนาม และเกาหลีใต้ ในขณะที่แรงงานของไทยยังจะต้องมีการพัฒนาฝีมือให้มีทักษะมากยิ่งขึ้นด้วย
ที่มา: http://www.depthai.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ