นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าต่างประเทศได้ประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจเสนอราคาซื้อข้าวขาว (ชนิด 5%, 15% และ 25%เลิศ) ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปีการผลิต 2547/48 นาปรังปี 2548 นาปีปีการผลิต 2548/49 และนาปรังปี 2549 ปริมาณประมาณ 1.7 ล้านตันเพื่อส่งออกต่างประเทศ และข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2547/48 ปริมาณประมาณ 503,700 ตัน ในจำนวนนี้เป็นข้าวที่สุ่มตรวจและผ่านผลวิเคราะห์พันธุกรรมประมาณ 4,700 ตัน และไม่ผ่านผลวิเคราะห์พันธุกรรมประมาณ 499,000 ตัน เพื่อจำหน่ายภายในประเทศและ/หรือส่งออกต่างประเทศ กำหนดยื่นซองเสนอราคาในวันที่ 5 กันยายน 2549 เวลา 10.00-12.00 น. และเปิดซองเสนอราคาเวลา 14.00 น. ในวันเดียวกัน เมื่อสิ้นสุดกำหนดเวลายื่นเสนอราคาซื้อ ปรากฏว่ามีผู้สนใจยื่นเสนอราคาซื้อข้าวขาวจำนวน 5 ราย และข้าวหอมมะลิจำนวน 26 ราย นั้น
คณะทำงานพิจารณาจำหน่ายข้าวสาร ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาการเสนอราคาซื้อข้าวสารดังกล่าวข้างต้น โดยวางหลักเกณฑ์การต่อรองราคาก่อนการเจรจากับผู้เสนอซื้อโดยคำนึงถึงภาวะการค้าและความต้องการที่แท้จริงของตลาดข้าวในปัจจุบัน รวมทั้งประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญดังนี้
1. ข้าวขาว
- ใช้ราคาข้าวส่งออกของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเป็นเกณฑ์
- เจรจาต่อรองกับผู้ที่เสนอราคาซื้อใกล้เคียงราคาข้าวส่งออกของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยโดยต่อรองจากผู้ที่เสนอราคาต่ำไปหาผู้เสนอราคาสูง
2. ข้าวหอมมะลิ
- ใช้เกณฑ์ราคาขายอ้างอิงราคาข้าวของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
- เจรจาต่อรองกับผู้เสนอซื้อทุกรายที่เสนอซื้อในราคาตั้งแต่ตันละ 15,200 บาทขึ้นไป
- กรณีเสนอซื้อซ้ำกองให้ขายให้กับผู้เสนอราคาสูงสุดในกองนั้น
- กรณีซื้อซ้ำกองแต่เสนอราคาเท่ากันให้ขายให้กับผู้เสนอราคาสูงกว่าในครั้งแรก
- เนื่องจากเป็นการเสนอซื้อที่มีการเจรจาต่อรองเป็นรายกอง ราคาที่ขายจะเป็นราคาที่เสนอซื้อสูงสุดในแต่ละกอง
คณะทำงานฯ ได้ดำเนินการเจรจาตามหลักเกณฑ์และแนวทางดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะรองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว พิจารณาอนุมัติดังนี้
1. ข้าวขาว ไม่พิจารณาจำหน่ายข้าวขาวชนิด 5% และข้าวขาวชนิด 25% เลิศ ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปีการผลิต 2547/48 นาปรังปี 2548 นาปีปีการผลิต 2548/49 และ นาปรังปี 2549 เนื่องจากราคาเสนอซื้อต่ำกว่าราคาตลาดมาก
2. ข้าวหอมมะลิ พิจารณาจำหน่ายข้าวหอมมะลิให้แก่ผู้เสนอซื้อจำนวน 14 ราย ปริมาณเสนอซื้อรวม 351,209 ตัน เนื่องจากเป็นผู้ที่เสนอราคาสูงสุดตามหลักเกณฑ์การเจรจาต่อรองในแต่ละกองและในกองที่มีการเสนอซื้อซ้ำกองกับรายอื่น ดังนี้
(1) บริษัท โรงสีข้าวเจริญผล จำกัด ราคา 16,400-16,500 บาท/ตัน ปริมาณ 5,599.566 ตัน
(2) บริษัท นครราชสีมาศิริโชคชัย จำกัด ราคา 16,400 บาท/ตัน ปริมาณ 955.980 ตัน
(3) บริษัท เอเซียโกลเด้นไรซ์ จำกัด ราคา 16,350 บาท/ตัน ปริมาณ 15,842.496 ตัน
(4) บริษัท ไทยณรงค์กุดจิก จำกัด ราคา 16,300 บาท/ตัน ปริมาณ 3,967.917 ตัน
(5) ห้างหุ้นส่วนจำกัดนำแสงค้าข้าว ราคา 16,000-16,260 บาท/ตัน ปริมาณ 6,833.160 ตัน
(6) บริษัท โรงสีแสงวงศ์ จำกัด ราคา 16,250 บาท/ตัน ปริมาณ 1,301.473 ตัน
(7) บริษัท ตงฮั้วบัวใหญ่ จำกัด ราคา 16,250 บาท/ตัน ปริมาณ 6,344.518 ตัน
(8) บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) ราคา 16,250 บาท/ตัน ปริมาณ 928.216 ตัน
(9) ห้างหุ้นส่วนจำกัดราชสีมาบุญนภา ราคา 16,200 บาท/ตัน ปริมาณ 2,018.846 ตัน
(10) บริษัท ซีพี อินเตอร์เทรด จำกัด ราคา 15,250-16,120 บาท/ตัน ปริมาณ 188,982.367 ตัน
(11) บริษัท เจียเม้ง จำกัด ราคา 15,750-16,100 บาท/ตัน ปริมาณ 8,882.712 ตัน
(12) บริษัท กระชับมิตรไรซ์ (2002) จำกัด ราคา 15,900 บาท/ตัน ปริมาณ 4,664.610 ตัน
(13) บริษัท แสงอีสานการเกษตร จำกัด ราคา 15,900 บาท/ตัน ปริมาณ 3,207.319 ตัน
(14) บริษัท เพรซิเดนท์อะกริเทรดดิ้ง จำกัด ราคา 15,730 บาท/ตัน ปริมาณ 101,678.982 ตัน
ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวได้อนุมัติตามที่คณะทำงานฯ เสนอและให้องค์การคลังสินค้า (อคส) ทำสัญญาจำหน่ายข้าวสารให้กับผู้ซื้อข้าวทั้ง 14 รายต่อไป
นายราเชนทร์ พจนสุนทร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลครั้งนี้สามารถจำหน่ายข้าวได้ในราคาระหว่างตันละ 15,730 — 16,500 ตัน สามารถกระจายขายให้ผู้เสนอซื้อได้ 14 รายซึ่งเป็นไปตามแนวทางวัตถุประสงค์ของการระบาย ซึ่งนอกจากสามารถเจรจาต่อรองราคาได้สูงจากราคาที่เสนอซื้อทำให้ได้เงินจากการจำหน่ายข้าวสารเพิ่มขึ้นประมาณ 88.38 ล้านบาทแล้ว ยังทำให้ราชการสามารถระบายข้าวออกสู่ตลาดก่อนข้าวเปลือกฤดูการผลิตนาปี 2549/50 จะออกสู่ตลาดและลดภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาข้าวดังกล่าวซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณเดือนละ 9.95 ล้านบาท
การส่งออกข้าวในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2549 มีปริมาณ 4.78 ล้านตัน มูลค่า 61,254 ล้านบาท หรือ ประมาณ 1,581 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเป็นการส่งออกข้าวหอมมะลิปริมาณ 1.67 ล้านตัน มูลค่า 24,311 ล้านบาท หรือ ประมาณ 627 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับราคาข้าวส่งออกเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันจากตันละ 307 เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ 330 เหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 7.4
--กรมการค้าต่างประเทศ--
-สส-
คณะทำงานพิจารณาจำหน่ายข้าวสาร ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาการเสนอราคาซื้อข้าวสารดังกล่าวข้างต้น โดยวางหลักเกณฑ์การต่อรองราคาก่อนการเจรจากับผู้เสนอซื้อโดยคำนึงถึงภาวะการค้าและความต้องการที่แท้จริงของตลาดข้าวในปัจจุบัน รวมทั้งประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญดังนี้
1. ข้าวขาว
- ใช้ราคาข้าวส่งออกของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเป็นเกณฑ์
- เจรจาต่อรองกับผู้ที่เสนอราคาซื้อใกล้เคียงราคาข้าวส่งออกของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยโดยต่อรองจากผู้ที่เสนอราคาต่ำไปหาผู้เสนอราคาสูง
2. ข้าวหอมมะลิ
- ใช้เกณฑ์ราคาขายอ้างอิงราคาข้าวของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
- เจรจาต่อรองกับผู้เสนอซื้อทุกรายที่เสนอซื้อในราคาตั้งแต่ตันละ 15,200 บาทขึ้นไป
- กรณีเสนอซื้อซ้ำกองให้ขายให้กับผู้เสนอราคาสูงสุดในกองนั้น
- กรณีซื้อซ้ำกองแต่เสนอราคาเท่ากันให้ขายให้กับผู้เสนอราคาสูงกว่าในครั้งแรก
- เนื่องจากเป็นการเสนอซื้อที่มีการเจรจาต่อรองเป็นรายกอง ราคาที่ขายจะเป็นราคาที่เสนอซื้อสูงสุดในแต่ละกอง
คณะทำงานฯ ได้ดำเนินการเจรจาตามหลักเกณฑ์และแนวทางดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะรองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว พิจารณาอนุมัติดังนี้
1. ข้าวขาว ไม่พิจารณาจำหน่ายข้าวขาวชนิด 5% และข้าวขาวชนิด 25% เลิศ ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปีการผลิต 2547/48 นาปรังปี 2548 นาปีปีการผลิต 2548/49 และ นาปรังปี 2549 เนื่องจากราคาเสนอซื้อต่ำกว่าราคาตลาดมาก
2. ข้าวหอมมะลิ พิจารณาจำหน่ายข้าวหอมมะลิให้แก่ผู้เสนอซื้อจำนวน 14 ราย ปริมาณเสนอซื้อรวม 351,209 ตัน เนื่องจากเป็นผู้ที่เสนอราคาสูงสุดตามหลักเกณฑ์การเจรจาต่อรองในแต่ละกองและในกองที่มีการเสนอซื้อซ้ำกองกับรายอื่น ดังนี้
(1) บริษัท โรงสีข้าวเจริญผล จำกัด ราคา 16,400-16,500 บาท/ตัน ปริมาณ 5,599.566 ตัน
(2) บริษัท นครราชสีมาศิริโชคชัย จำกัด ราคา 16,400 บาท/ตัน ปริมาณ 955.980 ตัน
(3) บริษัท เอเซียโกลเด้นไรซ์ จำกัด ราคา 16,350 บาท/ตัน ปริมาณ 15,842.496 ตัน
(4) บริษัท ไทยณรงค์กุดจิก จำกัด ราคา 16,300 บาท/ตัน ปริมาณ 3,967.917 ตัน
(5) ห้างหุ้นส่วนจำกัดนำแสงค้าข้าว ราคา 16,000-16,260 บาท/ตัน ปริมาณ 6,833.160 ตัน
(6) บริษัท โรงสีแสงวงศ์ จำกัด ราคา 16,250 บาท/ตัน ปริมาณ 1,301.473 ตัน
(7) บริษัท ตงฮั้วบัวใหญ่ จำกัด ราคา 16,250 บาท/ตัน ปริมาณ 6,344.518 ตัน
(8) บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) ราคา 16,250 บาท/ตัน ปริมาณ 928.216 ตัน
(9) ห้างหุ้นส่วนจำกัดราชสีมาบุญนภา ราคา 16,200 บาท/ตัน ปริมาณ 2,018.846 ตัน
(10) บริษัท ซีพี อินเตอร์เทรด จำกัด ราคา 15,250-16,120 บาท/ตัน ปริมาณ 188,982.367 ตัน
(11) บริษัท เจียเม้ง จำกัด ราคา 15,750-16,100 บาท/ตัน ปริมาณ 8,882.712 ตัน
(12) บริษัท กระชับมิตรไรซ์ (2002) จำกัด ราคา 15,900 บาท/ตัน ปริมาณ 4,664.610 ตัน
(13) บริษัท แสงอีสานการเกษตร จำกัด ราคา 15,900 บาท/ตัน ปริมาณ 3,207.319 ตัน
(14) บริษัท เพรซิเดนท์อะกริเทรดดิ้ง จำกัด ราคา 15,730 บาท/ตัน ปริมาณ 101,678.982 ตัน
ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวได้อนุมัติตามที่คณะทำงานฯ เสนอและให้องค์การคลังสินค้า (อคส) ทำสัญญาจำหน่ายข้าวสารให้กับผู้ซื้อข้าวทั้ง 14 รายต่อไป
นายราเชนทร์ พจนสุนทร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลครั้งนี้สามารถจำหน่ายข้าวได้ในราคาระหว่างตันละ 15,730 — 16,500 ตัน สามารถกระจายขายให้ผู้เสนอซื้อได้ 14 รายซึ่งเป็นไปตามแนวทางวัตถุประสงค์ของการระบาย ซึ่งนอกจากสามารถเจรจาต่อรองราคาได้สูงจากราคาที่เสนอซื้อทำให้ได้เงินจากการจำหน่ายข้าวสารเพิ่มขึ้นประมาณ 88.38 ล้านบาทแล้ว ยังทำให้ราชการสามารถระบายข้าวออกสู่ตลาดก่อนข้าวเปลือกฤดูการผลิตนาปี 2549/50 จะออกสู่ตลาดและลดภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาข้าวดังกล่าวซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณเดือนละ 9.95 ล้านบาท
การส่งออกข้าวในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2549 มีปริมาณ 4.78 ล้านตัน มูลค่า 61,254 ล้านบาท หรือ ประมาณ 1,581 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเป็นการส่งออกข้าวหอมมะลิปริมาณ 1.67 ล้านตัน มูลค่า 24,311 ล้านบาท หรือ ประมาณ 627 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับราคาข้าวส่งออกเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันจากตันละ 307 เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ 330 เหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 7.4
--กรมการค้าต่างประเทศ--
-สส-