วันนี้(23เม.ย.49) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกตั้งใหม่ใน 40 เขตว่า ในวันที่ 23 เม.ย. เป็นการเลือกตั้งที่วิปริตผิดธรรมชาติเริ่มตั้งแต่มีการเวียนเทียนผู้สมัครโดยก่อนหน้านี้มีคนจากพรรคใหญ่ได้จัดประชุมพรรคเล็กที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ก่อนจะมีการสมัครในวันที่ 18-19 เม.ย. โดยมีผู้ใหญ่จากพรรคใหญ่ได้ไปแจงแจกและช่วยงานให้พรรคเล็กและมีการเตรียมข้อมูลในหลายเขต โดยเฉพาะในพื้นที่ที่พรรคไทยรักไทยแข่งคนเดียว ทั้งที่ก่อนหน้านี้พรรคเล็กเหล่านี้ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ว่าในเพียงเวลา2-3 วันผู้สมัครจากพรรคเล็กเหล่านี้จะมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด หากไม่มีคนในกกต.เข้าร่วมด้วยช่วยเหลือในการแก้ไขข้อมูล โดยในวันที่18-19 เม.ย. ผู้สมัครจากพรรคเล็กมีพฤติกรรมที่ส่อให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นคือ1. ใบรับรองแพทย์ของผู้สมัครจากพรรคคนขอปลดหนี้5 คน ที่ไปสมัครใน จ.สงขลา แต่ในใบรับรองแพทย์กลับออกให้ที่ จ.ตรัง จึงอยากถามว่าใครเป็นผู้ไปนั่งบัญชาการที่ จ.ตรังเพื่อเตรียมตัวให้ผู้สมัครเหล่านี้
นายองอาจกล่าวว่า 2. ผู้สมัครคนหนึ่งเดิมมีภูมิลำเนาใน จ.สงขลา และหายตัวไป6 วันก่อนการเลือกตั้งแต่ในวันรับสมัครกลับพบว่ามีผู้คุมคอยติดตามตลอดในวันรับสมัคร จึงอยากถามว่าผู้สมัครคนดังกล่าว 6 วันหายไปไหน เอาเขาไปทำอะไร มีการแก้ไขข้อมูลหรือไม่ ทำไมต้องมีคนคุม 3. ผู้สมัครจากพรรคคนขอปลดหนี้ไปนอนรอสมัครที่โรงแรมเดียวกันใน อ.หาดใหญ่ ทั้งที่ผู้สมัครดังกล่าวมีทะเบียนบ้านใน จ.สงขลา การเดินทางจากบ้านไม่ได้ไกลถึงขั้นข้ามวันข้ามคืน นั่งรถเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจึงต้องมาเปิดโรงแรมเพื่อรอรับสมัคร ถือเป็นเรื่องที่ผิดสังเกตและการไปนอนรอล่วงหน้าก่อนวันรับสมัครรู้ได้อย่างไรว่าจะมีการเปิดรับสมัครใหม่ ทั้งที่กกต.ยังไม่มีการประกาศ 4. มีผู้สมัครจากพรรคเล็ก3 คนอยู่หมู่บ้านเดียวกันคือหมู่3 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ แต่เหตุใดแยกไปสมัครเลือกตั้งคนละเขต เป็นไปได้หรือไม่ว่าถูกจ้างวานหรือเกิดขึ้นจากความสมัครใจ
และ 5. เหตุใดผู้สมัครจากพรรคเล็กจึงไปสมัครในวัน เวลา เดียวกัน ที่ จ.สงขลาในเขตที่มีผู้สมัครของพรรคไทยรักไทยเพียงคนเดียวทุกเขตและที่เลวร้ายที่สุดคือการเข้าร่วมด้วยช่วยเหลือจากกกต.ให้พรรคเล็กสามารถสมัครรับเลือกตั้งได้คือมีการออกใบรับรองการใช้สิทธิ์ในวันที่ 19 เม.ย. ทั้งที่สมัครในวันที่ 18 เม.ย. ซึ่งเป็นการออกใบรับรองสิทธิ์การเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย. โดยปกติคนทั่วไปขอใบรับรองสิทธิ์ต้องใช้เวลานานแต่ผู้สมัครจากพรรคเล็กใช้เวลาเพียงรวดเร็วและรู้ได้อย่างไรว่าจะมีการเปิดรับสมัครใหม่เพราะใบรับรองการใช้สิทธิ์จะให้เฉพาะผู้ที่สมัครเป็นส.ส.เท่านั้น
นายองอาจยังกล่าวถึงกรณีการเลือกตั้งที่ประชาชนไม่ออกไปใช้สิทธิ์ว่าเกิดจากความไม่พอใจต่อการเลือกตั้งที่ฉ้อฉลและไม่เป็นตามครรลองจนเกินการกาช่องโหวต และฉีกบัตรเลือกตั้งเพื่อแสดงให้เห็นอารยะขัดขืน ซึ่งเป็นไปได้ว่ากกต.จะต้องมีการจัดการเลือกตั้งในรอบที่3 อีกครั้ง ในเขตที่ไม่ได้ร้อยละ20 และกกต.จะทำอย่างไรต่อไปหากครบเวลา 30 วัน ตามที่กฎหมายกำหนดให้เปิดสภาแต่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งให้ครบ 500 คน สิ่งที่น่ากังวลคือการเปิดรับสมัครใหม่กกต.จะเปิดรับสมัครใหม่เพิ่มเติมหรือไม่ และอยากให้กกต.ตรวจสอบพรรคเล็กที่จะลงรับสมัครใหม่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
นายองอาจยังกล่าวถึงกรณีที่กกต.ประกาศยุบพรรคพัฒนาชาติไทยและพรรคแผ่นดินไทยและขอเวลา 10 วันเพื่อสอบสวนหาพรรคใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังการจ้างวานลงสมัครว่าเป็นการวิสามัญฆาตกรรมตัดตอนพรรคเล็กเพื่อไม่ให้สาวไปถึงพรรคใหญ่ เมื่อคณะอนุกรรมการสรุปผลการสอบสวนที่ควรเชื่อได้ว่าพรรคเล็กมีการรับเงินจากพรรคใหญ่ กกต.น่าจะใช้แนวทางควรเชื่อได้ว่าเพื่อดำเนินการกับพรรคใหญ่ แต่เหตุใดต้องรอเวลาถึง10 วัน
ส่วนกรณีที่พรรคไทยรักไทยอ้างว่าพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลังการนำข้อมูลของคณะอนุกรรมการขึ้นมาเปิดเผยนั้นขอยืนยันว่าเราไม่ได้อยู่เบื้องหลัง แต่เป็นเพราะความสามารถของสื่อมวลชนที่สามารถนำข้อมูลมาเปิดเผยได้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์คงไม่มีอิทธิพลหรืออำนาจเหนือกกต.ได้ แม้แต่ข้อมูลเบื้องต้นคือหลักฐานการเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองต่างๆ พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลและเป็นไปได้ยากในการขอข้อมูลจากกกต.
นอกจากนี้โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังแสดงความเป็นห่วงกรณีที่มีประชาชนจำนวนหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี เข้าปิดล้อมหอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานีเพื่อขัดขวางการขึ้นปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยระบุว่า เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นและผู้มีอำนาจควรออกมาจัดการ เนื่องจากทุกคนต้องเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน หากไม่ใช่การกระทำที่ผิดกฏหมาย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 23 เม.ย. 2549--จบ--
นายองอาจกล่าวว่า 2. ผู้สมัครคนหนึ่งเดิมมีภูมิลำเนาใน จ.สงขลา และหายตัวไป6 วันก่อนการเลือกตั้งแต่ในวันรับสมัครกลับพบว่ามีผู้คุมคอยติดตามตลอดในวันรับสมัคร จึงอยากถามว่าผู้สมัครคนดังกล่าว 6 วันหายไปไหน เอาเขาไปทำอะไร มีการแก้ไขข้อมูลหรือไม่ ทำไมต้องมีคนคุม 3. ผู้สมัครจากพรรคคนขอปลดหนี้ไปนอนรอสมัครที่โรงแรมเดียวกันใน อ.หาดใหญ่ ทั้งที่ผู้สมัครดังกล่าวมีทะเบียนบ้านใน จ.สงขลา การเดินทางจากบ้านไม่ได้ไกลถึงขั้นข้ามวันข้ามคืน นั่งรถเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจึงต้องมาเปิดโรงแรมเพื่อรอรับสมัคร ถือเป็นเรื่องที่ผิดสังเกตและการไปนอนรอล่วงหน้าก่อนวันรับสมัครรู้ได้อย่างไรว่าจะมีการเปิดรับสมัครใหม่ ทั้งที่กกต.ยังไม่มีการประกาศ 4. มีผู้สมัครจากพรรคเล็ก3 คนอยู่หมู่บ้านเดียวกันคือหมู่3 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ แต่เหตุใดแยกไปสมัครเลือกตั้งคนละเขต เป็นไปได้หรือไม่ว่าถูกจ้างวานหรือเกิดขึ้นจากความสมัครใจ
และ 5. เหตุใดผู้สมัครจากพรรคเล็กจึงไปสมัครในวัน เวลา เดียวกัน ที่ จ.สงขลาในเขตที่มีผู้สมัครของพรรคไทยรักไทยเพียงคนเดียวทุกเขตและที่เลวร้ายที่สุดคือการเข้าร่วมด้วยช่วยเหลือจากกกต.ให้พรรคเล็กสามารถสมัครรับเลือกตั้งได้คือมีการออกใบรับรองการใช้สิทธิ์ในวันที่ 19 เม.ย. ทั้งที่สมัครในวันที่ 18 เม.ย. ซึ่งเป็นการออกใบรับรองสิทธิ์การเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย. โดยปกติคนทั่วไปขอใบรับรองสิทธิ์ต้องใช้เวลานานแต่ผู้สมัครจากพรรคเล็กใช้เวลาเพียงรวดเร็วและรู้ได้อย่างไรว่าจะมีการเปิดรับสมัครใหม่เพราะใบรับรองการใช้สิทธิ์จะให้เฉพาะผู้ที่สมัครเป็นส.ส.เท่านั้น
นายองอาจยังกล่าวถึงกรณีการเลือกตั้งที่ประชาชนไม่ออกไปใช้สิทธิ์ว่าเกิดจากความไม่พอใจต่อการเลือกตั้งที่ฉ้อฉลและไม่เป็นตามครรลองจนเกินการกาช่องโหวต และฉีกบัตรเลือกตั้งเพื่อแสดงให้เห็นอารยะขัดขืน ซึ่งเป็นไปได้ว่ากกต.จะต้องมีการจัดการเลือกตั้งในรอบที่3 อีกครั้ง ในเขตที่ไม่ได้ร้อยละ20 และกกต.จะทำอย่างไรต่อไปหากครบเวลา 30 วัน ตามที่กฎหมายกำหนดให้เปิดสภาแต่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งให้ครบ 500 คน สิ่งที่น่ากังวลคือการเปิดรับสมัครใหม่กกต.จะเปิดรับสมัครใหม่เพิ่มเติมหรือไม่ และอยากให้กกต.ตรวจสอบพรรคเล็กที่จะลงรับสมัครใหม่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
นายองอาจยังกล่าวถึงกรณีที่กกต.ประกาศยุบพรรคพัฒนาชาติไทยและพรรคแผ่นดินไทยและขอเวลา 10 วันเพื่อสอบสวนหาพรรคใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังการจ้างวานลงสมัครว่าเป็นการวิสามัญฆาตกรรมตัดตอนพรรคเล็กเพื่อไม่ให้สาวไปถึงพรรคใหญ่ เมื่อคณะอนุกรรมการสรุปผลการสอบสวนที่ควรเชื่อได้ว่าพรรคเล็กมีการรับเงินจากพรรคใหญ่ กกต.น่าจะใช้แนวทางควรเชื่อได้ว่าเพื่อดำเนินการกับพรรคใหญ่ แต่เหตุใดต้องรอเวลาถึง10 วัน
ส่วนกรณีที่พรรคไทยรักไทยอ้างว่าพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลังการนำข้อมูลของคณะอนุกรรมการขึ้นมาเปิดเผยนั้นขอยืนยันว่าเราไม่ได้อยู่เบื้องหลัง แต่เป็นเพราะความสามารถของสื่อมวลชนที่สามารถนำข้อมูลมาเปิดเผยได้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์คงไม่มีอิทธิพลหรืออำนาจเหนือกกต.ได้ แม้แต่ข้อมูลเบื้องต้นคือหลักฐานการเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองต่างๆ พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลและเป็นไปได้ยากในการขอข้อมูลจากกกต.
นอกจากนี้โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังแสดงความเป็นห่วงกรณีที่มีประชาชนจำนวนหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี เข้าปิดล้อมหอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานีเพื่อขัดขวางการขึ้นปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยระบุว่า เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นและผู้มีอำนาจควรออกมาจัดการ เนื่องจากทุกคนต้องเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน หากไม่ใช่การกระทำที่ผิดกฏหมาย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 23 เม.ย. 2549--จบ--