แท็ก
กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
องอาจ คล้ามไพบูลย์
พรรคประชาธิปัตย์
ทักษิณ ชินวัตร
พันธมิตรฯ
ชุมนุม
วันนี้(7 ก.พ.49)นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าพรรคประเมินการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ท้องสนามคงเป็นชุมนุมที่ที่ยืดเยื้อจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย คือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออก และคาดว่าการคงมีกลุ่มพันธมิตรฯขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ ในอนาคตคาดว่ากลุ่มนักธุรกิจซึ่งเป็นกลุ่มที่ชี้วัดอนาคตรัฐบาล ได้จะออกมาร่วมชุมนุมเคลื่อนไหวด้วย เนื่องจากการกระทำของนายกฯจะทำให้คนไม่พอใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะหวังแค่ให้ชนะการเลือกตั้งบนซากประหลักหักพังของประชาธิปไตย โดยไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีและความถูกต้อง โดยเรายืนยันว่าเราเชื่อมั่นในข้อตกลงของ 3 พรรค พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนไปลงสมัคร เพราะถ้า 3 พรรคลงสมัครคงต้องลงสมัครในระบบบัญชีรายเชื่อด้วยคงไม่ลงแค่ระบบเขต ซึ่งระบบเขตก็ปิดรับสมัครไปแล้ว ฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ 3 พรรคจะกลับไปสมัครลงรับเลือกตั้ง 2 เมษายน
“พฤติกรรมของนายกฯในขณะนี้ไม่ว่าการพูดกับประชาชนให้เข้าใจผิด หรือการใช้กลไกอำนาจรัฐนำคนจำนวนมากมาแสดงให้เห็นว่าประชาชนเห็นด้วยเป็นความถูกต้อง เป็นการสร้างความแปลกแยกให้สังคม รวมถึงการไปปรากฏตัวที่สนามกอล์ฟจ.นนทบุรีของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หรือการเดินทางไป จ.สุพรรณบุรี เพื่อรับประทานอาหารกับนายประพัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย ถือเป็นการเล่นเกมการเมืองที่น่ารังเกียจ และการที่นายกฯออกมาพูดว่า”เกี้ยเซียะ”ซึ่งหมายถึงการตกลงกันโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันไม่คำนึงถึงเวทีกลาง แต่ลืมคำนึงถึงความถูกต้อง หรือไม่ ทำให้เห็นว่านายกฯยังมีภาพของนักธุรกิจที่ฉ้อฉลเช่นเดิม เราคาดว่าเร็วๆนี้อาจจะเห็นท่านนายกฯเดินทางไปจังหวัดสุราษฎร์ธานี”นายองอาจกล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มพนักงานรัฐวิสาหกิจให้ทำตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายแรงงาน และไม่ควรให้การเคลื่อนไหวกระทบต่อประชาชน หรือทำให้ประชาชนเดือนร้อน นอกจากนี้การปราศรัยบนเวทีของนายกฯยังหมิ่นเหม่ที่จะผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งพรรคจะตรวจสอบต่อไป โดยเฉพาะที่เวทีบ้านหนองผือ ต.บ้านไฝ่ อ.บ้านไฝ่ จ.ขอนแก่นในเรื่องงบประมาณอุดหนุนเอสเอ็มแอลที่บอกว่าปีนี้หมู่บ้านได้งบประมาณเอสเอ็มแอล 3 แสนบาท ปีหน้าก็ได้อีก 3 แสนบาท ปีต่อไปก็ได้อีก 3 แสนบาท แต่มีข้อแม้ว่าผมตนต้องเป็นนายกฯต่อ ถ้าไม่เป็นเขาก็เอาไปก่อสร้างหมด ซึ่งการกล่าวเช่นนี้เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากเข้าข่ายการสัญญาจะให้กับประชาชน
“และการที่นายกฯของร้องให้นายอภิสิทธิ์ลงสมัคร จะได้มีโอกาสเป็นนายกฯอย่างสง่างาม ไม่ต้องบอยคอตนั้น หรือใช้เล่ห์เหลี่ยมทางการเมือง ยืนยันว่าถ้านายอภิสิทธิ์จะเป็นนายกฯต้องลงแข่งขันอย่างถูกต้อง มีการแข้งขันที่เป็นธรรม ไม่ใช่ลงสมัครในการเลือกตั้งเทียมๆแบบนี้ “ นายองอาจกล่าว
นอกจากนี้ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวว่า ขณะนี้พรรคได้คณะกรรมการร่วมของ 3 พรรคแล้ว โดยแต่ละพรรคจะส่งตัวแทนมาพรรคละ 2 คนเพื่อประชุมหารือในการทำกิจกรรมทางการเมืองร่วมกัน ซึ่งประกอบด้วยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุลนายนิกร จำนง ตัวแทนพรรคชาติไทย และพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ตัวแทนจากพรรคมหาชน อย่างไรก็ตามแม้นายกฯพยามจะพยามทำทุกอย่างเพื่อให้เห็นว่าเข้ามาหารือกับฝ่ายค้าน แต่เราคงไม่ตัดสินใจเดินทางเข้าพบนายกฯแล้ว เพราะได้พยายามมาก่อนหน้านี้แล้ว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 7 มี.ค. 2549--จบ--
“พฤติกรรมของนายกฯในขณะนี้ไม่ว่าการพูดกับประชาชนให้เข้าใจผิด หรือการใช้กลไกอำนาจรัฐนำคนจำนวนมากมาแสดงให้เห็นว่าประชาชนเห็นด้วยเป็นความถูกต้อง เป็นการสร้างความแปลกแยกให้สังคม รวมถึงการไปปรากฏตัวที่สนามกอล์ฟจ.นนทบุรีของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หรือการเดินทางไป จ.สุพรรณบุรี เพื่อรับประทานอาหารกับนายประพัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย ถือเป็นการเล่นเกมการเมืองที่น่ารังเกียจ และการที่นายกฯออกมาพูดว่า”เกี้ยเซียะ”ซึ่งหมายถึงการตกลงกันโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันไม่คำนึงถึงเวทีกลาง แต่ลืมคำนึงถึงความถูกต้อง หรือไม่ ทำให้เห็นว่านายกฯยังมีภาพของนักธุรกิจที่ฉ้อฉลเช่นเดิม เราคาดว่าเร็วๆนี้อาจจะเห็นท่านนายกฯเดินทางไปจังหวัดสุราษฎร์ธานี”นายองอาจกล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มพนักงานรัฐวิสาหกิจให้ทำตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายแรงงาน และไม่ควรให้การเคลื่อนไหวกระทบต่อประชาชน หรือทำให้ประชาชนเดือนร้อน นอกจากนี้การปราศรัยบนเวทีของนายกฯยังหมิ่นเหม่ที่จะผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งพรรคจะตรวจสอบต่อไป โดยเฉพาะที่เวทีบ้านหนองผือ ต.บ้านไฝ่ อ.บ้านไฝ่ จ.ขอนแก่นในเรื่องงบประมาณอุดหนุนเอสเอ็มแอลที่บอกว่าปีนี้หมู่บ้านได้งบประมาณเอสเอ็มแอล 3 แสนบาท ปีหน้าก็ได้อีก 3 แสนบาท ปีต่อไปก็ได้อีก 3 แสนบาท แต่มีข้อแม้ว่าผมตนต้องเป็นนายกฯต่อ ถ้าไม่เป็นเขาก็เอาไปก่อสร้างหมด ซึ่งการกล่าวเช่นนี้เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากเข้าข่ายการสัญญาจะให้กับประชาชน
“และการที่นายกฯของร้องให้นายอภิสิทธิ์ลงสมัคร จะได้มีโอกาสเป็นนายกฯอย่างสง่างาม ไม่ต้องบอยคอตนั้น หรือใช้เล่ห์เหลี่ยมทางการเมือง ยืนยันว่าถ้านายอภิสิทธิ์จะเป็นนายกฯต้องลงแข่งขันอย่างถูกต้อง มีการแข้งขันที่เป็นธรรม ไม่ใช่ลงสมัครในการเลือกตั้งเทียมๆแบบนี้ “ นายองอาจกล่าว
นอกจากนี้ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวว่า ขณะนี้พรรคได้คณะกรรมการร่วมของ 3 พรรคแล้ว โดยแต่ละพรรคจะส่งตัวแทนมาพรรคละ 2 คนเพื่อประชุมหารือในการทำกิจกรรมทางการเมืองร่วมกัน ซึ่งประกอบด้วยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุลนายนิกร จำนง ตัวแทนพรรคชาติไทย และพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ตัวแทนจากพรรคมหาชน อย่างไรก็ตามแม้นายกฯพยามจะพยามทำทุกอย่างเพื่อให้เห็นว่าเข้ามาหารือกับฝ่ายค้าน แต่เราคงไม่ตัดสินใจเดินทางเข้าพบนายกฯแล้ว เพราะได้พยายามมาก่อนหน้านี้แล้ว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 7 มี.ค. 2549--จบ--