วันนี้ (30 ส.ค.49) เวลา 14.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์แถลงข่าวตอบโต้กรณีที่ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์บิดเบือนความเป็นจริงเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นการล็อคสเปคการก่อสร้างระบบน้ำประปาของเทศบาลนครราราชสีมาในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (29 ส.ค.49)ว่า ตนขอท้านายสุวัจน์มาออกรายการทีวีหรือวิทยุช่องไหนก็ได้กับตน 2 คนหรือจะไปออกรายการ “ถึงลูกถึงคน” ของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา หรือจะไปออกรายการใดก็ได้ เพื่อพิสูจน์ว่า โครงการก่อสร้างน้ำประปาโคราชที่นายสุวัจน์บอกว่าไม่มีการล็อคสเปคมันจริงหรือไม่จริงอย่างไร และจะได้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองและเป็นประโยชน์ต่อคนโคราชด้วย
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อไปอีกว่า มันจะเป็นการดีเพราะว่าเรื่องนี้ประชาชนจะได้รับรู้ข้อมูลอีกด้าน และนายสุวัจน์ก็จบวิศวะกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตนก็จบวิศวะฯ มาเหมือนกันเป็นวิศวกรเหมือนกันเพียงแต่ว่า ตนจบจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งตนเชื่อว่า วิศวะฯ จุฬาฯ ก็เป็นวิศวะฯ ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทยที่สามารถที่จะกล้าไปออกทีวีกับนายสุวัจน์ได้
“พรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันว่าต้องการให้ชาวโคราชได้ใช้น้ำประปาโดยด่วนที่สุด เพราะพรรคประชาธิปัตย์เข้าใจว่าคนโคราชเดือดร้อนกับปัญหาน้ำประปา แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการให้นักการเมืองมาหากินกับน้ำประปาของคนโคราช เพราะที่ผ่านมา คนสมุทรปราการก็เจ็บปวดมากพอแล้วกับโครงการคลองด่านของนักการเมืองคนนี้” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ส่วนกรณีที่นายสุวัจน์ระบุว่า ทุกอย่างเป็นไปตามสเปคและก็ทางเทศบาลโคราชได้จ้างที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างน้ำประปาโคราชหรือที่เรียกอีกชื่อว่า บริษัทไทย ดีซีไอ จำกัดในวงเงิน 93 ล้านบาท โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตในกรณีนี้ว่า ในการจัดจ้างครั้งนี้ในวงเงิน 93 ล้ายบาทได้มีการประมูลหรือไม่และทำไมถึงกลายเป็นบริษัทไทยดีซีไอ จำกัด เพราะว่าเพื่อนตนที่จบวิศวะฯ ที่จบจากจุฬาฯ มาเล่าให้ตนฟังว่า บริษัทไทยฯ ปกติจะไม่ได้ทำเป็นบริษัทที่ปรึกษาในการทำน้ำประปา บริษัทนี้จะทำงานเกี่ยวกับด้านถนนอยู่ที่กรมทางหลวง
“ล่าสุดเพื่อนผมก็ทำงานเป็นบริษัทที่ปรึกษาโครงการให้กับโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินให้กับ รฟม.แต่ทำไมอยู่ๆทำไมถึงมาทำโครงการน้ำประปาโคราชได้และก็จ้างด้วยวงเงิน 93 ล้านบาท นอกจากนี้ผมขอให้นายธีระ เพทายบรรลือ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทนี้ด้วยให้รีบเอาแบบให้ผมโดยด่วนที่สุดและก็มาเล่าความจริงให้ผมฟัง เพราะคุณธีระเป็นรุ่นพี่ผมเรียนวิศวะฯ จุฬาฯ ผมยังเห็นว่านายธีระถือเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันให้รีบเล่าความจริงให้ผมฟังก่อนที่เรื่องต่างๆจะไปมากกว่านี้และก็เอาแบบมาให้ด้วย”รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากนี้ ตนจะเดินหน้าตรวจสอบโครงการน้ำประปาโคราชต่อไปในวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค.49) เวลา 10.00 น. ตนจะเดินทางไปยื่นเรื่องให้พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอได้สอบสวนกรณีการล็อคสเปคล็อคประปาโคราชซึ่งหลักฐานที่ตนมี ตนเชื่อว่าจะต้องมีผู้บริหารระดับสูงของเทศบาลนครโคราชตกเป็นผู้ต้องหาและจะต้องไปพิมพ์ลายนิ้วมือเหมือนกรณีฮั้วประมูลอุโมงค์ 16 โครงการ 21,000 ล้านบาทของกรุงเทพมหานคร
“ผมถามว่าโครงการล็อคสเปคระบบน้ำประปาโคราชที่นายสุวัจน์ยืนยันว่า ไม่มีการล็อคเสเปคจริง ทำไมบริษัทก่อสร้างใหญ่ๆของเมืองไทยที่ทำถนน ทำอุโมงค์เช่น บริษัทซิวิลเอ็นจิเนียร์ริ่ง บริษัทยูนิคคอนสตรัคชั่น หรือบริษัทวิจิตรพันธุ์ก่อสร้าง หรือบริษัทกำแพงเพชรวิวัฒน์ บริษัทใหญ่ๆ แบบนี้ทำไมไม่มียื่นซองบ้าง ทำไมไม่ไปซื้อซองบ้าง ถามว่าบริษัทเหล่านี้ทำไม่ได้หรือ ทำอุโมงค์ สะพานก็ยังทำได้เลย แค่ท้อน้ำประปาบริษัทเหล่านี้ทำไม่ได้หรือ ทำไมบริษัทเหล่านี้ไม่ไปซื้อแบบบ้าง” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยต่อไปอีกว่า เมื่อวานนี้ (29 ส.ค.49) ตนไปคุยกับผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์ด้านการรับเหมาอาวุโสรายหนึ่งเปิดเผยกับตนว่า ในวงการผู้รับเหมาคุยกันทั่วว่า ใครๆก็อยากทำโครงการ 3,700 ล้านบาท เพราะรู้ว่ามีการล็อคสเปคกัน ซึ่งผู้รับเหมารายนี้มีประสบการณ์เคยรับเหมางานเป็นพันล้านบาท ผู้รับเหมารายนี้เปิดเผยว่า งานแบบนี้บริษัทก็ทำได้อย่าว่าแต่ 3,700 ล้านบาท 5,000 ล้านบาท บริษัทก็ทำได้ เมื่อตนถามต่อว่าทำไมผู้รับเหมารายนี้ไม่ไปประมูล ผู้รับเหมารายนี้เปิดเผยว่า จะเอาผลงานที่ไหน 500 ล้านบาท
“และที่สำคัญคือ โครงการประปามูลค่า 500 ล้านบาทเป็นประปาใหญ่ระดับประเทศมีทำกันที่ประปานครหลวง และประปาภูมิภาค บริษัทอื่นที่ไม่เคยทำงานอย่างนี้เข้าประมูลไม่ได้เขียนทำไม 500 ล้านบาทในสัญญาเดียว”รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30 ส.ค. 2549--จบ--
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อไปอีกว่า มันจะเป็นการดีเพราะว่าเรื่องนี้ประชาชนจะได้รับรู้ข้อมูลอีกด้าน และนายสุวัจน์ก็จบวิศวะกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตนก็จบวิศวะฯ มาเหมือนกันเป็นวิศวกรเหมือนกันเพียงแต่ว่า ตนจบจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งตนเชื่อว่า วิศวะฯ จุฬาฯ ก็เป็นวิศวะฯ ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทยที่สามารถที่จะกล้าไปออกทีวีกับนายสุวัจน์ได้
“พรรคประชาธิปัตย์ขอยืนยันว่าต้องการให้ชาวโคราชได้ใช้น้ำประปาโดยด่วนที่สุด เพราะพรรคประชาธิปัตย์เข้าใจว่าคนโคราชเดือดร้อนกับปัญหาน้ำประปา แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องการให้นักการเมืองมาหากินกับน้ำประปาของคนโคราช เพราะที่ผ่านมา คนสมุทรปราการก็เจ็บปวดมากพอแล้วกับโครงการคลองด่านของนักการเมืองคนนี้” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ส่วนกรณีที่นายสุวัจน์ระบุว่า ทุกอย่างเป็นไปตามสเปคและก็ทางเทศบาลโคราชได้จ้างที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างน้ำประปาโคราชหรือที่เรียกอีกชื่อว่า บริษัทไทย ดีซีไอ จำกัดในวงเงิน 93 ล้านบาท โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตในกรณีนี้ว่า ในการจัดจ้างครั้งนี้ในวงเงิน 93 ล้ายบาทได้มีการประมูลหรือไม่และทำไมถึงกลายเป็นบริษัทไทยดีซีไอ จำกัด เพราะว่าเพื่อนตนที่จบวิศวะฯ ที่จบจากจุฬาฯ มาเล่าให้ตนฟังว่า บริษัทไทยฯ ปกติจะไม่ได้ทำเป็นบริษัทที่ปรึกษาในการทำน้ำประปา บริษัทนี้จะทำงานเกี่ยวกับด้านถนนอยู่ที่กรมทางหลวง
“ล่าสุดเพื่อนผมก็ทำงานเป็นบริษัทที่ปรึกษาโครงการให้กับโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินให้กับ รฟม.แต่ทำไมอยู่ๆทำไมถึงมาทำโครงการน้ำประปาโคราชได้และก็จ้างด้วยวงเงิน 93 ล้านบาท นอกจากนี้ผมขอให้นายธีระ เพทายบรรลือ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทนี้ด้วยให้รีบเอาแบบให้ผมโดยด่วนที่สุดและก็มาเล่าความจริงให้ผมฟัง เพราะคุณธีระเป็นรุ่นพี่ผมเรียนวิศวะฯ จุฬาฯ ผมยังเห็นว่านายธีระถือเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันให้รีบเล่าความจริงให้ผมฟังก่อนที่เรื่องต่างๆจะไปมากกว่านี้และก็เอาแบบมาให้ด้วย”รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากนี้ ตนจะเดินหน้าตรวจสอบโครงการน้ำประปาโคราชต่อไปในวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค.49) เวลา 10.00 น. ตนจะเดินทางไปยื่นเรื่องให้พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอได้สอบสวนกรณีการล็อคสเปคล็อคประปาโคราชซึ่งหลักฐานที่ตนมี ตนเชื่อว่าจะต้องมีผู้บริหารระดับสูงของเทศบาลนครโคราชตกเป็นผู้ต้องหาและจะต้องไปพิมพ์ลายนิ้วมือเหมือนกรณีฮั้วประมูลอุโมงค์ 16 โครงการ 21,000 ล้านบาทของกรุงเทพมหานคร
“ผมถามว่าโครงการล็อคสเปคระบบน้ำประปาโคราชที่นายสุวัจน์ยืนยันว่า ไม่มีการล็อคเสเปคจริง ทำไมบริษัทก่อสร้างใหญ่ๆของเมืองไทยที่ทำถนน ทำอุโมงค์เช่น บริษัทซิวิลเอ็นจิเนียร์ริ่ง บริษัทยูนิคคอนสตรัคชั่น หรือบริษัทวิจิตรพันธุ์ก่อสร้าง หรือบริษัทกำแพงเพชรวิวัฒน์ บริษัทใหญ่ๆ แบบนี้ทำไมไม่มียื่นซองบ้าง ทำไมไม่ไปซื้อซองบ้าง ถามว่าบริษัทเหล่านี้ทำไม่ได้หรือ ทำอุโมงค์ สะพานก็ยังทำได้เลย แค่ท้อน้ำประปาบริษัทเหล่านี้ทำไม่ได้หรือ ทำไมบริษัทเหล่านี้ไม่ไปซื้อแบบบ้าง” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยต่อไปอีกว่า เมื่อวานนี้ (29 ส.ค.49) ตนไปคุยกับผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์ด้านการรับเหมาอาวุโสรายหนึ่งเปิดเผยกับตนว่า ในวงการผู้รับเหมาคุยกันทั่วว่า ใครๆก็อยากทำโครงการ 3,700 ล้านบาท เพราะรู้ว่ามีการล็อคสเปคกัน ซึ่งผู้รับเหมารายนี้มีประสบการณ์เคยรับเหมางานเป็นพันล้านบาท ผู้รับเหมารายนี้เปิดเผยว่า งานแบบนี้บริษัทก็ทำได้อย่าว่าแต่ 3,700 ล้านบาท 5,000 ล้านบาท บริษัทก็ทำได้ เมื่อตนถามต่อว่าทำไมผู้รับเหมารายนี้ไม่ไปประมูล ผู้รับเหมารายนี้เปิดเผยว่า จะเอาผลงานที่ไหน 500 ล้านบาท
“และที่สำคัญคือ โครงการประปามูลค่า 500 ล้านบาทเป็นประปาใหญ่ระดับประเทศมีทำกันที่ประปานครหลวง และประปาภูมิภาค บริษัทอื่นที่ไม่เคยทำงานอย่างนี้เข้าประมูลไม่ได้เขียนทำไม 500 ล้านบาทในสัญญาเดียว”รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30 ส.ค. 2549--จบ--