แท็ก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
สำนักงานอัยการสูงสุด
พรรคประชาธิปัตย์
กระทรวงยุติธรรม
สหรัฐอเมริกา
ทักษิณ
วันนี้(17ก.ค.49)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลไม่ดำเนินการเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องในการรับสินบน โครงการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ทั้งที่ได้รับรายงานผลสอบเรื่องดังกล่าวจากกระทรวงยุติธรรม สหรัฐอเมริกา ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ทำหนังสือขอไปว่า สิ่งที่พรรคได้เสนอทิ้งไว้หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คืออัยการจะต้องไปเอาข้อมูลดังกล่าวมาจากสหรัฐฯ ซึ่งเพียงพอที่จะเริ่มต้นในการดำเนินคดี และเชื่อว่าเมื่อดำเนินคดีไปแล้ว จะสามารถสาวไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในภาคการเมืองด้วย แต่ที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ไม่ยอมรับว่าได้ข้อมูลเหล่านี้มาแล้ว แต่ตนได้ทราบว่า มีเหตุที่จะเชื่อได้ว่า มีการส่งข้อมูลดังกล่าวมาแล้ว แม้ว่าข้อมูลบางส่วนอาจจะยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ก็ตาม
ดังนั้นอสส.ควรจะมีท่าทีที่ชัดเจน ว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร ทั้งนี้หากอสส.ยังไม่ดำเนินการอะไร พรรคก็จะติดตามเพื่อให้ทางอัยการได้ดำเนินการตามหน้าที่ อย่างไรก็ตามจะต้องรอฟังคำอธิบายของอัยการก่อนว่า เหตุใดจึงไม่ดำเนินการ หรือดำเนินการไปแล้วแต่ยังไม่ได้ให้ข่าว แต่จะอยู่เฉยไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งคาดว่า1-2 วันนี้ คงมีความคืบหน้าออกมา รวมถึงการดำเนินการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอในเรื่องดังกล่าวด้วย
ส่วนกรณีที่นายวรพจน์ ยศทัศน์ (เสี่ยเช) ซึ่งมีชื่อเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว ยังคงได้งานจากบริษัท กิจการร่วมค้า ไอจีโออีกนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ทั้งหลายที่ตามมา น่าจะเป็นตัวตอกย้ำว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านอภิปรายไปนั้นเป็นเรื่องจริง และเกี่ยวพันพัวพันไปถึงคนที่มีอำนาจอยู่ ดังนั้นตรงนี้หน่วยงานต่างๆ ทั้งอัยการ และดีเอสไอ ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า เป็นกลไกของประชาชนในการที่จะเอาคนผิดมาลงโทษ โดยไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะเกี่ยวพันกับผู้มีอำนาจตรงไหนอย่างไร
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สิ่งที่นายเกียรติ สิทธีอมร กรรมการบริหารพรรค นำมาเปิดเผย และต้องการชี้ให้เห็นก็คือ ส่วนต่างราคานั้นมีจริง และตกทอดไปถึงคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง กับการทำโครงการ ในแง่ที่ว่าไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องมาถือเงินตรงนี้ จึงต้องมาไล่ดูว่า ในที่สุดจะนำไปสู่จุดไหนอย่างไร ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ทั้งสิ้น ว่ามีการถือแทน ดังนั้นพรรคจึงเรียกร้องว่า หน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นดีเอสไอ หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ต้องทำเรื่องนี้ออกมาให้ชัดเจน ซึ่งฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ในการตรวจสอบอย่างเต็มที่ แต่ไม่มีอำนาจในการที่จะเอาของเหล่านี้ออกมา
ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่าไม่เคยได้รับรายงานผลสอบดังกล่าวนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายกฯพยายามที่จะไม่สนใจเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น จะทราบหรือไม่ทราบ นายกฯก็ไม่ยอมรับอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ได้แปลกใจอะไร ที่พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าไม่รู้ ไม่ทราบอะไร และยืนยันอย่างเดียวว่าไม่รู้เรื่อง แต่อย่าลืมว่ารายงานของสหรัฐฯระบุถึงพรรคการเมือง และนอกเหนือจากตัวภาคผนวกบี มีรายงานของการสอบสวน คำให้การของคนต่าง ๆ ในคดีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนอยากให้ทางอัยการได้เปิดเผยว่า ตรงนี้ขอไปยังสหรัฐฯหรือยัง หากมาแล้วต้องเปิดเผยว่า ไปเกี่ยวข้องอะไรกับใครบ้าง และสอบสวนดำเนินการให้ได้ เพราะเรื่องนี้ในสำนวนของสหรัฐฯ สรุปชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง และตนได้ทิ้งท้ายในการอภิปรายไว้อยู่แล้วว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนมีอำนาจ เพราะลำพังผู้ที่เกี่ยวข้องระดับเจ้าหน้าที่ คงไม่กล้าทำขนาดนี้ และยังมั่นใจว่า ถ้ารัฐบาลนำข้อมูลที่สหรัฐฯส่งมาให้ และดำเนินการอย่างจริงจัง ก็จะไปถึงคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และเชื่อว่าหากอัยการทำงานเต็มที่จะได้คนผิด
'ผมมีคำถามถึงนายกฯทักษิณว่า เมื่อประกาศสงครามกับการทุจริตคอรัปชั่นแล้ว ได้ทำอะไรกับเรื่องนี้บ้าง เพราะมีการทุจริตเกิดขึ้นแน่นอนอยู่แล้ว และมีหลักฐานหนักแน่นพอสมควรแล้ว โดยข้ออ้างเรื่องการเป็นรักษาการ แล้วทำอะไรไม่ได้มากก็ฟังไม่ขึ้น เพราะผมไม่เห็นลังเลเวลาอยากจะทำอะไร ที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง แต่อะไรที่เป็นเรื่องของการทำความชัดเจน ซึ่งอาจจะไปกระทบกับพวกของตัวเอง ก็ไม่มีการดำเนินการ อย่างไรก็ตามขอย้ำว่า รัฐบาลของนายกฯทักษิณ ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า หากไม่ดำเนินการในวันนี้ ในวันข้างหน้าก็มีรัฐบาลอื่นมาทำ นายกฯทักษิณจะเดือดร้อนด้วยฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะพรรคได้พูดตลอดเวลาว่า จะไม่ให้ผ่านไปเฉย ๆ ถ้าปล่อยให้ผ่านไป วันข้างหน้าคนจะเบื่อหน่ายว่า การทำงานทางการเมืองเพียงแต่หยิบยกขึ้นมาโจมตี ดังนั้นเมื่อเรื่องนี้มีการทุจริต และมีหลักฐานค่อนข้างชัดเจน ก็จะต้องมีการติดตามต่ออย่างแน่นอน' หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 ก.ค. 2549--จบ--
ดังนั้นอสส.ควรจะมีท่าทีที่ชัดเจน ว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร ทั้งนี้หากอสส.ยังไม่ดำเนินการอะไร พรรคก็จะติดตามเพื่อให้ทางอัยการได้ดำเนินการตามหน้าที่ อย่างไรก็ตามจะต้องรอฟังคำอธิบายของอัยการก่อนว่า เหตุใดจึงไม่ดำเนินการ หรือดำเนินการไปแล้วแต่ยังไม่ได้ให้ข่าว แต่จะอยู่เฉยไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งคาดว่า1-2 วันนี้ คงมีความคืบหน้าออกมา รวมถึงการดำเนินการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอในเรื่องดังกล่าวด้วย
ส่วนกรณีที่นายวรพจน์ ยศทัศน์ (เสี่ยเช) ซึ่งมีชื่อเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว ยังคงได้งานจากบริษัท กิจการร่วมค้า ไอจีโออีกนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ทั้งหลายที่ตามมา น่าจะเป็นตัวตอกย้ำว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านอภิปรายไปนั้นเป็นเรื่องจริง และเกี่ยวพันพัวพันไปถึงคนที่มีอำนาจอยู่ ดังนั้นตรงนี้หน่วยงานต่างๆ ทั้งอัยการ และดีเอสไอ ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า เป็นกลไกของประชาชนในการที่จะเอาคนผิดมาลงโทษ โดยไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะเกี่ยวพันกับผู้มีอำนาจตรงไหนอย่างไร
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สิ่งที่นายเกียรติ สิทธีอมร กรรมการบริหารพรรค นำมาเปิดเผย และต้องการชี้ให้เห็นก็คือ ส่วนต่างราคานั้นมีจริง และตกทอดไปถึงคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง กับการทำโครงการ ในแง่ที่ว่าไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องมาถือเงินตรงนี้ จึงต้องมาไล่ดูว่า ในที่สุดจะนำไปสู่จุดไหนอย่างไร ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ทั้งสิ้น ว่ามีการถือแทน ดังนั้นพรรคจึงเรียกร้องว่า หน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นดีเอสไอ หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ต้องทำเรื่องนี้ออกมาให้ชัดเจน ซึ่งฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ในการตรวจสอบอย่างเต็มที่ แต่ไม่มีอำนาจในการที่จะเอาของเหล่านี้ออกมา
ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่าไม่เคยได้รับรายงานผลสอบดังกล่าวนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายกฯพยายามที่จะไม่สนใจเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น จะทราบหรือไม่ทราบ นายกฯก็ไม่ยอมรับอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ได้แปลกใจอะไร ที่พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าไม่รู้ ไม่ทราบอะไร และยืนยันอย่างเดียวว่าไม่รู้เรื่อง แต่อย่าลืมว่ารายงานของสหรัฐฯระบุถึงพรรคการเมือง และนอกเหนือจากตัวภาคผนวกบี มีรายงานของการสอบสวน คำให้การของคนต่าง ๆ ในคดีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนอยากให้ทางอัยการได้เปิดเผยว่า ตรงนี้ขอไปยังสหรัฐฯหรือยัง หากมาแล้วต้องเปิดเผยว่า ไปเกี่ยวข้องอะไรกับใครบ้าง และสอบสวนดำเนินการให้ได้ เพราะเรื่องนี้ในสำนวนของสหรัฐฯ สรุปชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง และตนได้ทิ้งท้ายในการอภิปรายไว้อยู่แล้วว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนมีอำนาจ เพราะลำพังผู้ที่เกี่ยวข้องระดับเจ้าหน้าที่ คงไม่กล้าทำขนาดนี้ และยังมั่นใจว่า ถ้ารัฐบาลนำข้อมูลที่สหรัฐฯส่งมาให้ และดำเนินการอย่างจริงจัง ก็จะไปถึงคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และเชื่อว่าหากอัยการทำงานเต็มที่จะได้คนผิด
'ผมมีคำถามถึงนายกฯทักษิณว่า เมื่อประกาศสงครามกับการทุจริตคอรัปชั่นแล้ว ได้ทำอะไรกับเรื่องนี้บ้าง เพราะมีการทุจริตเกิดขึ้นแน่นอนอยู่แล้ว และมีหลักฐานหนักแน่นพอสมควรแล้ว โดยข้ออ้างเรื่องการเป็นรักษาการ แล้วทำอะไรไม่ได้มากก็ฟังไม่ขึ้น เพราะผมไม่เห็นลังเลเวลาอยากจะทำอะไร ที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง แต่อะไรที่เป็นเรื่องของการทำความชัดเจน ซึ่งอาจจะไปกระทบกับพวกของตัวเอง ก็ไม่มีการดำเนินการ อย่างไรก็ตามขอย้ำว่า รัฐบาลของนายกฯทักษิณ ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า หากไม่ดำเนินการในวันนี้ ในวันข้างหน้าก็มีรัฐบาลอื่นมาทำ นายกฯทักษิณจะเดือดร้อนด้วยฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะพรรคได้พูดตลอดเวลาว่า จะไม่ให้ผ่านไปเฉย ๆ ถ้าปล่อยให้ผ่านไป วันข้างหน้าคนจะเบื่อหน่ายว่า การทำงานทางการเมืองเพียงแต่หยิบยกขึ้นมาโจมตี ดังนั้นเมื่อเรื่องนี้มีการทุจริต และมีหลักฐานค่อนข้างชัดเจน ก็จะต้องมีการติดตามต่ออย่างแน่นอน' หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 17 ก.ค. 2549--จบ--